เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 27 ธ.ค. ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วม “พิธีเปิดป้ายสถาบันวิจัยเซมิคอนดักเตอร์ (College of Semiconductor Research, CoSR) ของมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหัว” พร้อมกล่าวปราศรัยว่า สถาบันวิจัยเซมิคอนดักเตอร์ 4 แห่งในไต้หวันได้ถูกจัดตั้งขึ้นแล้ว ปธน.ไช่ฯ คาดหวังที่จะเห็นเหล่านักวิชาการที่เข้ามีส่วนร่วมในสถาบันฯ จะร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ให้มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมร่วมสร้างคุณประโยชน์ให้แก่อุตสาหกรรมทางเทคโนโลยีของไต้หวัน ทั้งนี

เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 27 ธ.ค. ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วม “มหกรรมการแข่งขันฝีมือแรงงาน ครั้งที่ 51 (The 51st National Skills Competition) เพื่อชิงรางวัลเหรียญทอง เหรียญเงินและเหรียญทองแดง” พร้อมกล่าวปราศรัยว่า การอาชีวศึกษาไม่เพียงแต่มุ่งเน้นไปที่การบ่มเพาะทักษะทางเทคโนโลยีหรือเป็นเพียงการฝึกอบรมทางวิชาชีพเท่านั้น แต่คือการอาศัยทักษะฝีมือในการช่วยเหลือภาคสังคมในการแก้ไขปัญหา ปธน.ไช่ฯ คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในอนาคต บรรดานักเรียนอาชีวศึกษาเหล่านี้จะร่วมสำแดงศ

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. คณะกรรมการกิจการชนพื้นเมือง (Council of Indigenous Peoples, CIP) สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ประกาศให้การสนับสนุน “ความตกลงทางความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าของกลุ่มชนพื้นเมือง” (Indigenous Peoples Economic and Trade Cooperation Arrangement, IPETCA) ที่เสนอโดยนิวซีแลนด์อย่างเปิดเผย พร้อมนี้ ทางหน่วยงาน CIP ได้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนไต้หวันในการส่งหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) เพื่อร่วมเป็นเขตเศรษฐกิจที่ริเริ่มจัดตั้งกลไกความตกลงฉบับนี้ ร่วมกับนิวซีแลนด์ ออสเตรเลียและแคนาดา ทั้งนี้ เพื่

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ที่ผ่านมา ประธานร่วมและสมาชิกรายสำคัญของ “สโมสรฟอร์โมซา (Formosa Club)” จาก 25 ประเทศในภูมิภาคยุโรป ได้ร่วมกันลงนามและยื่นหนังสือต่อ Mr. Charles Michel ประธานคณะมนตรียุโรป Ms. Ursula von der Leyen ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป พร้อมทำสำเนาแจ้งไปยัง Ms. Margrethe Vestager รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปและคณะกรรมาธิการยุโรปด้านดิจิทัล Mr. Valdis Dombrovskis รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปและคณะกรรมาธิการยุโรปด้านการค้าระหว่างประเทศ Mr. Josep Borrell ผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรปด้านการต่างปร

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์ได้ประสบกับวาตภัยครั้งใหญ่ที่เกิดจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นราอี (Rai) ซึ่งถือเป็นพายุที่มีความรุนแรงที่สุดของปีนี้ ตามรายงานล่าสุดของรัฐบาลฟิลิปปินส์ มีประชาชนได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติในครั้งนี้มากถึง 3.95 ล้านคน อีกทั้งโครงสร้างพื้นฐานและพ้นที่เกษตรก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก คิดเป็นมูลค่ากว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ภายใต้ความพยายามร่วมกันระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคมของสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และสหราชอาณาจักร รวมถึงสำนักงานตัวแทนไต้หวันประจำอังกฤษและสำนักงานตัวแทนอังกฤษในไทเป ส่งผลให้ในช่วงที่ผ่านมา Mr. John Dennis ผู้แทนรัฐบาลอังกฤษประจำไต้หวันและนายเซี่ยอู่เฉียว ผู้แทนรัฐบาลไต้หวันประจำอังกฤษ ได้ร่วมลงนามใน “บันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยการเปลี่ยนใบขับขี่ระหว่างไต้หวัน - อังกฤษโดยไม่ต้องผ่านการทดสอบ” ในระหว่างการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยนายเจิงโห้วเหริน

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วมพิธีเปิด “การประชุมครั้งที่ 2 ของคณะกรรมการร่วมของสมาคมหอการค้าเอเชียไต้หวัน (Asia Taiwanese Chambers of Commerce, ASTCC) สมัยที่ 29” โดยได้ชี้ว่ากองทุนค้ำประกันสินเชื่อต่างประเทศของไต้หวัน (Overseas Credit Guarantee Fund (Taiwan) , OCGF) ได้ทยอยดำเนินการตามมาตรการฟื้นฟูเยียวยาเศรษฐกิจ โดยได้ผลักดันแผนบูรณาการฟื้นฟูแบบ 3.0 และ 4.0 เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการไต้หวันในการก้าวข้ามความท้าทาย ท่ามกลา

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์ได้ประสบกับวาตภัยครั้งใหญ่ที่เกิดจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นราอี (Rai) ซึ่งถือเป็นพายุที่มีความรุนแรงที่สุดของปีนี้ พัดถล่มพื้นที่ในฟิลิปปินส์จนก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ทางภาคกลางและภาคใต้ที่เกิดอุทกภัยและเกิดเหตุดินโคลนถล่มอย่างรุนแรง เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. H.E. Rodrigo Duterte ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ได้ออกมาประกาศให้ 6 พื้นที่ในหมู่เกาะวิซายัสและเกาะมินดาเนาเป็นพื้นที่ประสบภัยที่รุนแรงมากที่สุด (state of calamity) ดังนั้น เพื่อให้ความช่วยเหลือแ

เพื่อขานรับมาตการป้องกันโรคระบาดของรัฐบาล และเพื่อยกระดับอัตราการฉีดวัคซีนของประชาชนในไต้หวันให้ครอบคลุมอย่างทั่วถึง สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจึงได้เดินทางไปเยือนสมาคมฝึกอาชีพด้านวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ของผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่แห่งเกาสง เพื่อประชาสัมพันธ์ “แผนส่งเสริมการเข้ารับวัคซีนป้องกันโควิด – 19 สำหรับชาวต่างชาติในไต้หวัน” ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแรงงานต่างชาติที่หลบหนี หรือชาวต่างชาติที่พำนักในไต้หวันเกินกว่ากำหนด ต่างก็สามารถไปเข้ารับวัคซีนยังจุดให้บริการหรือสถานพยาบาลที่ให้บริการ โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่

เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. สำนักงานเศรษฐกิจและการค้ายุโรปในไต้หวัน ชี้แจงว่า คณะกรรมาธิการยุโรปได้ผ่านญัตติว่าด้วยการให้การยอมรับหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด – 19 แบบดิจิทัลที่ออกโดยรัฐบาลไต้หวัน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. นี้เป็นต้นไป กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) รู้สึกยินดีและขอบคุณสหภาพยุโรป (EU) ที่ให้การยอมรับและสนับสนุน