ประธานาธิบดีโจ ไบเดน (Joe Biden) ผู้นำสหรัฐอเมริกาได้ส่งคณะผู้แทนระดับอาวุโส เดินทางเยือนไต้หวัน ประกอบด้วย Mr. Christopher Dodd, D-CT อดีตสมาชิกวุฒิสภา Mr. Richard Armitage และ Mr. James Steinberg อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ โดยคณะผู้แทนได้ดำเนินภารกิจเสร็จสิ้นตามตารางการเดินทาง และได้เดินทางกลับสู่สหรัฐฯ อย่างสวัสดิภาพโดยเครื่องบินส่วนตัวเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 16 เม.ย. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายเถียนจงกวง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และ Ms.Sandra Oudkirk รองผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการเอเชีย – แปซิฟิก ได้เข้าร่วมเวทีการประชุมรูปแบบออนไลน์ว่าด้วย “ความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ในประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก” (U.S.-Taiwan Partnership in the Pacific Islands) ที่จัดโดย “มูลนิธิเฮอริเทจ” (Heritage Foundation) ซึ่งเป็นคลังสมองของสหรัฐฯ โดยได้ร่วมหารือกันในประเด็นที่เกี่ยวกับแนวทางการประสานความร่วมมือระหว่างไต้หวัน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯส่งคณะผู้แทนซึ่งเป็นนักการเมืองระดับอาวุโส ประกอบด้วยนายคริส ด็อดด์(Chris Dodd) อดีตวุฒิสมาชิก นายริชาร์ด อาร์มิเทจ(Richard Armitage) และนายเจมส์ สไตน์เบิร์ก (James Steinberg) อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายแดน ไบเออร์ส(Dan Biers) ผู้อำนวยการสำนักประสานความร่วมมือกับไต้หวัน (Office of Taiwan Coordination)กรมกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ
“พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติเคลื่อนที่” สร้างชื่อเสียงในเวทีโลก ！ พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ( National Palace Museum, NPM )สาขาภาคใต้ร่วมกับบริษัท BRIGHT IDEAS ทำการออกแบบและวางแผนการผลิตกล่องอุปกรณ์การเรียนการสอน ซึ่งแบ่งเป็น 5 แบบ ได้แก่ Market tours, Animals in art, Asian fashion, Tea cultures และ Curio boxes ได้รับรางวัลด้านการออกแบบของเยอรมนี iF Design Award 2021 ประเภท Service Design หมวดการศึกษา โดยสามารถเอาชนะผลงานการออกแบบที่ส่งเข้าร่วมการประกวดนับหมื่นชิ้นจาก 52 ประเทศ
เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่งและยกระดับการตอบสนองของผู้ประกอบการ SMEs ในยุคหลังโควิด เมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) สถาบันอเมริกาในไต้หวัน สำนักงานไทเป (AIT/T) สมาคมแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์ญี่ปุ่น-ไต้หวัน สำนักงานเศรษฐกิจและการค้ายุโรป และสถาบันการเงินและการธนาคารไต้หวัน ได้ร่วมกันจัด “งานสัมมนาออนไลน์นานาชาติด้านการจัดตั้ง Supply Chain ขึ้นใหม่และการเงินของผู้ประกอบการ SMEs” ภายใต้กรอบความร่วมมือ Global Cooperation and Training Framework (GCTF)
การแห่เจ้าแม่มาจู่ของศาลเจ้าเจิ้นหลันกง ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2564 ซึ่งเมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา เฟซบุกของสถาบันอเมริกาในไต้หวัน (AIT) ได้เผยแพร่บทความเกี่ยวกับความรู้สึกประทับใจในวัฒนธรรมทางศาสนาและความเป็นมิตรของผู้คนในท้องถิ่น หลังจากที่ได้ไปเข้าร่วมพิธีเริ่มแห่เจ้าแม่มาจู่ร่วมกับเหล่าทูตานุทูตจาก 13 ประเทศเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่ง AIT เห็นว่าความสำเร็จในการป้องกันโรคระบาดของไต้หวัน ทำให้พิธีการแห่เจ้าแม่มาจู่กลายเป็นกิจกรรมทางศาสนาจำนวนไม่มากนักในโลก ที่ยังสามารถจัดต่อไปได้
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน(ไต้หวัน) เดินทางไปร่วม “พิธีติดป้ายชื่อและปล่อยเรืออู่ลำเลียงพลสะเทินน้ำสะเทินบกลำใหม่ของกองทัพเรือลงน้ำ” ที่นครเกาสง โดยได้เปิดเผยว่า การตั้งชื่อเรือลำนี้ว่า “เรือรบอวี้ซาน” เพื่อเป็นการสืบทอดและเป็นสัญลักษณ์แห่งจิตวิญญาณของกองทัพสาธารณรัฐจีน ที่ไม่เคยหวาดกลัวต่อความท้าทายหรือย่อท้อต่ออุปสรรคนานัปการ โดยเรือรบอวี้ซานเป็นเรืออู่ลำเลียงพลสะเทินน้ำสะเทินบก (Amphibious transport dock หรือนิยมเรียกว่าเรือ LPD ซึ่งย่อมา
เมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้สนทนาหารือกับ Mr. Claude Joseph รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐเฮติ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในเชิงลึกเกี่ยวกับอุบัติเหตุรถไฟด่วนทาโรโกะตกราง สถานการณ์โควิด-19 และโครงการความร่วมมือระหว่างกัน เป็นต้น
เมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา กระทรวงเศรษฐการ (MOEA) สาธารณรัฐจีน ได้แสดงผลสำเร็จของโครงการนวัตกรรมรถยนต์ไร้คนขับ โดยเริ่มการใช้งานรถบัสไร้คนขับขนาดกลางที่วิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้า ในการรับส่งผู้โดยสารระหว่างเขตจู๋เป่ยในเมืองซินจู๋ กับสถานีรถไฟความเร็วสูงซินจู๋ ถือเป็นครั้งแรกในไต้หวันที่มีการทดลองเปิดให้รถยนต์ไร้คนขับเข้ามาวิ่งตามท้องถนนในเมือง และถือเป็นหลักไมล์สำคัญของการต่อยอดการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะแบบอัจฉริยะในเชิงพาณิชย์ด้วย
เมื่อวันที่ 12 เม.ย. รมว. ต่างประเทศสหรัฐฯ แสดงความกังวลต่อกรณีที่จีนพยายามบีบบังคับไต้หวัน พร้อมเตือนว่าการเปลี่ยนแปลงสภาวะที่เป็นอยู่ในปัจจุบันใดๆ ก็ตาม จะนำไปสู่ความผิดพลาดครั้งใหญ่ ด้านกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน(ไต้หวัน)ได้ออกมาแสดงความขอบคุณสหรัฐฯ ที่ให้การสนับสนุนไต้หวันมาโดยตลอด ไต้หวันจะรักษาความร่วมมือกับสหรัฐอย่างใกล้ชิด บนพื้นฐานความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เพื่อร่วมกันรักษาสันติภาพ เสถียรภาพและความรุ่งเรืองในภูมิภาคนี้
