เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศรายงานผลการประเมินสภาพแวดล้อมด้านการลงทุน ฉบับล่าสุด โดยระบุว่าไต้หวันเป็นตลาดการค้าและการลงทุนที่สำคัญในระดับภูมิภาคและระดับโลก และเนื่องจากเปี่ยมด้วยศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทันสมัย ในด้านเซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยี 5G จึงนับเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานด้านเทคโนโลยีระดับโลก

เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมา นายไล่ชิงเต๋อ รองประธานาธิบดี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วมพิธีเปิด “การประชุมด้านเทคโนโลยีชีวภาพเอเชีย ปี 2021” (BIO Asia–Taiwan 2021) ในรูปแบบออนไลน์ ผ่านการบันทึกวีดิทัศน์ล่วงหน้า โดยรองปธน.ไล่ฯ หวังว่า การประชุมในครั้งนี้จะทำทั่วโลกได้เห็นถึงความสำเร็จด้านการป้องกันโรคระบาดและเทคโนโลยีชีวการแพทย์ของไต้หวัน และคาดหวังที่จะส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมการแพทย์ชีวภาพในภูมิภาคเอเชีย พร้อมทั้งช่วยให้เกิดความร่วมมือระดับนานาชาติ ทั้งนี้ เพื่อวางรากฐานให้ไต้หวันก้าวส

เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันและประเทศในภูมิภาคยุโรปกลางและตะวันออกอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะประเทศที่ตั้งอยู่ในพื้นที่แถบทะเลบอลติก พร้อมเสริมสร้างความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนระหว่างกันในทุกภาคส่วน หลังจากที่รัฐบาลของไต้หวันและลิทัวเนียได้ทำการเจรจาตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไต้หวันจึงเตรียมวางแผนจัดตั้ง “สำนักงานตัวแทนไต้หวันในลิทัวเนีย” ขึ้น ณ ณ กรุงวิลนีอุส เมืองหลวงของสาธารณรัฐลิทัวเนีย โดยขณะนี้ ทุกอย่างยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการเตรียมการ

เมื่อวันที่ 15 ก.ค. นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่ Mr. Lucas de la Cal ผู้สื่อข่าว “หนังสือพิมพ์ El Mundo” ของสเปนผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยรมว.อู๋ฯ ได้ชี้แจงในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ การข่มขู่ไต้หวันจากจีน ความคืบหน้าของความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ และความพยายามในการขอเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศของไต้หวัน โดยเนื้อหาการสัมภาษณ์ได้รับการตีพิมพ์และเผยแพร่ในวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา

เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 16 ก.ค. ทำเนียบประธานาธิบดี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้จัดงานแถลงข่าวหลัง “การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคอย่างไม่เป็นทางการ” โดยดร. จางจงโหมว ตัวแทนผู้นำไต้หวันที่เข้าร่วมการประชุม ได้ชี้แจงถึงสถานการณ์การประชุมในครั้งนี้ พร้อมทั้งตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าวหลังเสร็จสิ้นการชี้แจง

เมื่อวันที่ 16 ก.ค. กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) แถลงว่า ไต้หวันและสหภาพยุโรป (European Union, EU) ได้ร่วมจัดการประชุมด้านสิทธิมนุษยชนประจำปี ครั้งที่ 4 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยทาง EU มี Ms. Kristin De Peyron รองผู้อำนวยการสำนักงานด้านสิทธิมนุษยชนและกิจการพหุภาคีโลก กระทรวงการต่างประเทศสหภาพยุโรป (European External Action Service, EEAS) เข้าร่วมกล่าวปราศรัยในพิธีเปิดการประชุม ส่วนตัวแทนของไต้หวัน นำโดยนายหลัวปิ่งเฉิง รัฐมนตรีประจำสภาบริหาร สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ซึ่งทั้งสองฝ่

เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ได้ร่วมลงนามใน “ความตกลงว่าด้วยการให้บริการขนส่งทางอากาศ ระหว่างไต้หวัน - เยอรมนี” ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยให้มีผลบังคับใช้ทันทีหลังเสร็จสิ้นการลงนาม โดยการลงนามในครั้งนี้มีนายเซี่ยจื้อเหว่ย ผู้แทนรัฐบาลไต้หวันประจำเยอรมนี และ Dr.Thomas Prinz ผู้อำนวยการใหญ่สถาบันเยอรมนีในไต้หวัน ร่วมลงนามแบบข้ามดินแดน จากกรุงเบอร์ลินและกรุงไทเป โดยมีนายหวังกั๋วฉาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของไต้หวัน เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน นอกจ

จนถึงวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา “สมุดบันทึกสุขภาพ” ที่วิจัยและพัฒนาโดยสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติของไต้หวัน (NHI) กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) มีประชาชนร่วมลงทะเบียนเข้าใช้งานแล้วกว่า 6 ล้านคน

พิพิธภัณฑ์วิกตอเรียและอัลเบิร์ต (Victoria and Albert Museum, V&A) ของอังกฤษที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในด้านการจัดแสดงผลงานด้านหัตถศิลป์ร่วมสมัยและศิลปะประยุกต์ โดยในช่วงหลายปีมานี้ V&A ได้ติดต่อขอจัดซื้อผลงานหัตถศิลป์ร่วมสมัยของศิลปินไต้หวันหลายท่าน และหนึ่งในก็คือผลงานเครื่องเคลือบเซรามิก ในคอลเลกชัน “หินนิรนาม (Rock with no name)” ของดร. จางชิงยวน และเครื่องประดับไทเทเนียมของนายเฉินจื้อฉวน แสดงให้เห็นว่า V&A ให้ความสนใจต่อหัตถศิลป์ร่วมสมัยและผลงานการออกแบบของไต้หวันเป็นอย่างมาก

เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา คณะกรรมการกิจการสิทธิมนุษยชน สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ประกาศรายงานผลการสำรวจด้านสิทธิมนุษยชนฉบับแรก โดยบรรดาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องในอดีต ในกรณีที่คณะรัฐบาลในยุคสมัยที่ปกครองด้วยระบอบเผด็จการ จงใจหลีกเลี่ยงการดำเนินการตามกระบวนการทางยุติธรรม โดยใช้วิธีการลงโทษด้วยการกักขังประชาชนที่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาล หรือที่เรียกว่า “บุคคลอันธพาล” ซึ่งพฤติกรรมที่รัฐบาลได้กระทำการจำกัดเสรีภาพส่วนบุคคลของประชาชน ไม่สอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมความยุติธรรมใน