เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2568 นายหลินเจียหรง ทูตพิเศษที่ได้รับมอบหมายจากประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ให้เดินทางเยือนราชอาณาจักรเอสวาตินี เสร็จสิ้นภารกิจอย่างราบรื่นและเดินทางกลับสู่ประเทศมาตุภูมิแล้วโดยสวัสดิภาพ
เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2568 นายหลินเจียหรง ทูตพิเศษที่ได้รับมอบหมายจากประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ให้เดินทางเยือนราชอาณาจักรเอสวาตินี เสร็จสิ้นภารกิจอย่างราบรื่นและเดินทางกลับสู่ประเทศมาตุภูมิแล้วโดยสวัสดิภาพ
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 24 เมษายน 2568 ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ทำหน้าที่เป็นประธานใน “การประชุมคณะกรรมการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ ครั้งที่ 4” พร้อมกล่าวว่า รัฐบาลจะจัดตั้งระบบกลไกราคาคาร์บอนที่สามารถเชื่อมโยงสู่เวทีนานาชาติ ควบคู่ไปกับการวางมาตรการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism, CBAM) ในรูปแบบไต้หวันอย่างรัดกุม
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 23 เมษายน 2568 นายหลินเจียหรง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน ในนามทูตพิเศษที่ได้รับมอบหมายจากประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน ได้เดินทางเยือนทำเนียบนายกรัฐมนตรี เพื่อเข้าพบ H.E. Russell Dlamini นายกรัฐมนตรีเอสวาตินี พร้อมแสดงความขอบคุณต่อ นรม. Dlamini สำหรับการเชิญชวนในครั้งนี้
เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 ในระหว่างการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council, UNSC) รัฐบาลสหรัฐฯ ได้แสดงจุดยืนประณามรัฐบาลจีน ที่บิดเบือนญัตติที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ฉบับที่ 2758 อีกทั้งยังตีความนโยบายของประเทศอื่นๆ ในทิศทางที่ขัดต่อหลักข้อเท็จจริง โดยมีเจตนาที่จะจำกัดสิทธิเสรีในการตัดสินใจของนานาประเทศ
เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 นายเผิงฉี่หมิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมไต้หวัน ได้ติดต่อเชิญให้ Ms. Helena Reitberger ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานการค้าและการลงทุนสวีเดนประจำกรุงไทเป และ Mr. Martin Solvinger และ Mr. Mattias Qvist ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีจากกรมสรรพากรสวีเดน เข้าร่วมแบ่งปันความรู้ในหัวข้อ “ประสบการณ์การลดก๊าซเรือนกระจก : การเสวนาระหว่างภาครัฐ ภาควิชาการและภาคอุตสาหกรรม และการดำเนินระบบภาษีคาร์บอนและ ETS ควบคู่กัน”
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 23 เมษายน 2568 ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทนโครงการผู้นำความมั่นคงแห่งชาติรุ่นใหม่ (NextGen) ของศูนย์ความมั่นคงใหม่สหรัฐอเมริกา (Center for a New American Security, CNAS) โดยปธน.ไล่ฯ ได้กล่าวแสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ลงมติอนุมัติการจำหน่ายอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่ไต้หวันเป็นวาระประจำอย่างต่อเนื่อง อันเป็นการให้การสนับสนุนการยกระดับศักยภาพทางกลาโหมของไต้หวัน เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก
“โครงการนำร่องความเป็นเลิศทางการศึกษาด้านสุนทรียศาสตร์แบบบูรณาการ” ที่จัดขึ้นโดยกระทรวงศึกษาธิการไต้หวัน ริเริ่มจัดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบ่มเพาะความสามารถด้านสุนทรียศาสตร์และการเรียนรู้เชิงบูรณาการของนักเรียนเยาวชน โดยส่งเสริมให้นักเรียนมุ่งทำการเชื่อมโยงวิถีชีวิตและสุนทรียศาสตร์จากการสร้างสรรค์ผลงาน ผ่านการออกแบบหลักสูตรที่ผสมผสานระหว่างองค์ประกอบทางศิลปะและสาขาวิชาต่างๆ
หลังจากที่นานาประเทศทั่วโลกได้ทยอยปลดล็อคมาตรการควบคุมพรมแดน ในยุคหลังโควิด – 19 ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงบริบททางสังคมและสิ่งแวดล้อม อาทิ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในปี 2567 ยอดผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก (Dengue fever) ทั่วโลก มีจำนวนสะสมรวมกว่า 14 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้ ยอดผู้เสียชีวิตมีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 10,000 คน ถือเป็นยอดสูงสุดนับตั้งแต่ที่ได้มีการบันทึกสถิติเป็นต้นมา
นายหลินเจียหรง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน ในฐานะตัวแทนทูตพิเศษของประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน ได้นำคณะตัวแทนเดินทางเยือนราชอาณาจักรเอสวาตินี ประเทศพันธมิตรไต้หวันที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคแอฟริกา ในช่วงระหว่างวันที่ 22 – 26 เมษายน 2568 เพื่อเข้าร่วมพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 57 พรรษาของสมเด็จพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 แห่งเอสวาตินี (H.M. King Mswati III)
คณะกรรมการกิจการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไต้หวันมุ่งผลักดันการวิจัยและการดำเนินการทางเทคโนโลยีป้องกันภัยพิบัติมาเป็นเวลานานอย่างต่อเนื่อง โดยได้รวบรวมทรัพยากรทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับประเด็นพายุไต้ฝุ่น ภัยแผ่นดินไหว การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศและความเปราะบางทางสังคม เป็นต้น เพื่อมุ่งผลักดันการวิจัยแบบบูรณาการข้ามศาสตร์ พร้อมทั้งส่งเสริมให้มีการประสานความร่วมมือในระดับนานาชาติ