การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 29 (UNFCCC COP 29) มีกำหนดการเปิดฉากขึ้น ณ กรุงบากู สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 เพื่อแสวงหาพลังสนับสนุนจากประชาคมโลก กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) จึงได้เปิดตัวผลงานวีดิทัศน์ เรื่อง “อนาคตของจุดสีฟ้า (Pale Blue Dot)”

จากการที่เทคโนโลยีสารสนเทศมีการพัฒนาที่รุดหน้าอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีมานี้ ส่งผลให้แนวทางการก่ออาชญากรรมยิ่งพัฒนาไปสู่รูปแบบข้ามพรมแดน และมีการแบ่งงานอย่างเป็นระบบ โดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตน และใช้การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางเสมือนจริง ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางสังคมและสวัสดิภาพของประชาชน ด้วยเหตุนี้ การร่วมหารือแนวทางความร่วมมือแบบข้ามพรมแดน การเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย และการจัดตั้งกลไกเพื่อปกป้องความยุติธรรม จึงเป็นประเด็นที่ประชาคมโลกร่วมให้ความสำคัญในปัจจุบัน

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 นายอู๋จื้อจง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่ Mr. Steven Chase ผู้สื่อข่าวอาวุโสของหนังสือพิมพ์ The Globe and Mail จากประเทศแคนาดา โดยเนื้อหาบทสัมภาษณ์ถูกตีพิมพ์ในหัวข้อ “ไต้หวันเชื่อมั่น ทรัมป์ จะไม่ทิ้งไต้หวันแน่นอน” (Taiwan says it is confident Trump will not abandon the island) ซึ่งได้รับความสนใจในวงกว้างจากทั่วโลก

การประชุมคณะกรรมการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับเจ้าหน้าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการ ไต้หวัน - ฟิลิปปินส์ ครั้งที่ 9 มีกำหนดการเปิดฉากขึ้น ณ กรุงไทเป เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 โดยมีนายเฉินปิ๋งอวี่ รองประธานคณะกรรมการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และ Ms. Leah J. Buendiab รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเทคโนโลยีของฟิลิปปินส์ ร่วมทำหน้าที่เป็นประธาน

สถาบันอเมริกาในไต้หวัน (AIT) เผยว่า เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการพาณิชย์ และกระทรวงการเกษตรของสหรัฐฯ ได้ร่วมลงนามยื่นหนังสือต่อผู้ว่าการรัฐและผู้ว่าการเมืองหลัก รวมไปถึงผู้นำองค์กรธุรกิจที่สำคัญ โดยมีเนื้อความระบุว่า ไต้หวันเป็นหุ้นส่วนสำคัญของสหรัฐฯ และมีบทบาทสำคัญในเครือข่ายการค้าระหว่างประเทศ จึงขอเรียกร้องให้ทุกมลรัฐ ทุกเมือง มุ่งเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนกับไต้หวันในด้านต่างๆ

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วมงานแถลงข่าวก่อนการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC Economic Leaders' Meeting, AELM) ประจำปี พ.ศ. 2567 โดยปธน.ไล่ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อนายหลินซิ่นอี้ ประธานคณะกรรมการบริหารบริษัท Taiwania Capital ที่รับหน้าที่เป็นตัวแทนของผู้นำไต้หวัน เข้าร่วมการประชุม AELM ภายใต้กรอบเอเปค (APEC) ประจำปีพ.ศ. 2567

หลังผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างไม่เป็นที่ทางการออกมาแล้วเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 นางกัวหย่าฮุ่ย โฆษกทำเนียบประธานาธิบดี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ออกมาแถลงว่า ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ในฐานะตัวแทนรัฐบาลและประชาชนชาวไต้หวัน ขอแสดงยินดีที่การเลือกตั้งทั่วไปของสหรัฐฯ เสร็จสิ้นลงอย่างสมบูรณ์และราบรื่น

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับ Mr. Basilio Gustavo Núñez Giménez ประธานวุฒิสภาแห่งสาธารณรัฐปารากวัย พร้อมด้วยภริยาและคณะตัวแทน พร้อมทั้งแสดงความขอบคุณต่อ H.E. Santiago Peña Palacios ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐปารากวัย และรัฐบาลปารากวัย ที่ให้การสนับสนุนการเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศของไต้หวันอย่างหนักแน่นเสมอมา

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 นางสาวเซียวเหม่ยฉิน รองประธานาธิบดีสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทนทางเศรษฐกิจและการค้า ที่นำโดย Mr. Brad Little ผู้ว่าการรัฐไอดาโฮ พร้อมทั้งแสดงความขอบคุณต่อเจ้าหน้าที่รัฐไอดาโฮ ที่ให้การสนับสนุนไต้หวันในด้านความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนที่สานสัมพันธ์ร่วมกันมาอย่างยาวนาน โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทั้งสองฝ่ายจะมุ่งพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าแบบทวิภาคีในเชิงลึกต่อไป

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 คณะกรรมการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (NSTC) สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และสถาบันฝรั่งเศสในไทเป (French Office in Taipei) ร่วมจัดการประชุมนานาชาติด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ เทคโนโลยี AI และเทคโนโลยีดิจิทัล ระหว่างไต้หวัน – ฝรั่งเศส ประจำปี พ.ศ. 2567 โดยมีนายเฉินปิ่งอวี่ รองประธานคณะกรรมการ NSTC และ Mr. Franck Paris ผู้อำนวยการสถาบันฝรั่งเศสในกรุงไทเป ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมครั้งนี้