ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
คณะนักร้องประสานเสียงเยาวชน Puzangalan เสียงแห่งสวรรค์ที่ถ่ายทอดมายังโลกมนุษย์
แหล่งที่มาของข้อมูล Taiwan Panorama
2018-09-03

ทั้งเด็กเล็กและเด็กโตในคณะนักร้องร้องประสานเสียงเยาวชน Puzangalan ได้เรียนรู้ถึงการทำงานเป็นทีมเวิร์คผ่านการเรียนร้องเพลงร่วมกัน(1)

ทั้งเด็กเล็กและเด็กโตในคณะนักร้องร้องประสานเสียงเยาวชน Puzangalan ได้เรียนรู้ถึงการทำงานเป็นทีมเวิร์คผ่านการเรียนร้องเพลงร่วมกัน

 

คณะนักร้องประสานเสียงเยาวชน Puzangalan มาจากใต้สุดของเกาะไต้หวัน บนแฟนเพจเขียนไว้ว่า "ในภาษาของชนเผ่าไพวัน (Paiwan) คำว่า PUZANGALAN หมายถึงความหวัง ซึ่งเกิดจากการร่วมตัวของเด็กๆ ในชนเผ่าไพวันเป็นคณะนักร้องประสานเสียงเยาวชนแห่งความหวัง เด็กเหล่านี้รักการร้องเพลงและพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้มีอนาคตที่แตกต่างจากเด็กทั่วไป มีความหวังที่จะใช้การร้องเพลงส่งต่อความสุขให้กับทุกคนและเพื่อสร้างอนาคตของตนเองให้เป็นตามที่คาดหวังไว้

ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา ภายใต้การดูแลของหัวหน้าคณะ คุณไช่อี้ฟัง (蔡義芳) และคุณอู๋เซิ่งอิ่ง (吳聖穎) ซึ่งเป็นวาทยากร ได้นำพาเสียงร้องอันไพเราะของเหล่าสมาชิกทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ สร้างความหวังของตนเองให้เป็นจริงด้วยการขึ้นยืนอยู่บนเวทีระดับนานาชาติ พร้อมกับความเชื่อมั่นว่าโลกจะต้องได้รับฟังเสียงเพลงท้องถิ่นดั้งเดิมที่เต็มไปด้วยความหวัง

 

คณะนักร้องประสานเสียงเยาวชน Puzangalan เสียงแห่งสวรรค์ที่ถ่ายทอดมายังโลกมนุษย์

ช่วงฤดูร้อนเมื่อปีค.ศ.2017 ประเทศอิตาลีเต็มเปี่ยมไปด้วยเสียงเพลงอันไพเราะที่มีกลิ่นอายของไต้หวัน คณะนักร้องประสานเสียงเยาวชน Puzangalan ซึ่งก่อตั้งมาเป็นเวลา 10 ปี จากพื้นที่ใต้สุดของไต้หวัน รางวัลแรกที่ได้รับคือเหรียญทองจากการประกวดแข่งขัน Musica Eterna Roma International Choir Festival ณ ประเทศอิตาลี หลังจากนั้นในเทศกาลดนตรี Leonardo da Vinci International Choral Festival ก็ได้รับรางวัลเหรียญทองจากการเข้าสู่การแข่งขันรอบสุดท้าย รางวัลเหรียญทองประเภทกลุ่มเยาวชน รางวัลเหรียญเงินประเภทเพลงพื้นเมือง รางวัลประเภทเต้นรำยอดเยี่ยม และรางวัลที่ได้มายากที่สุดอย่างศิลปินเดี่ยวยอดเยี่ยม

การรับรางวัลใหญ่ต่อเนื่องหลายรายการถือเป็นเกียรติยศบนเวทีอันน่าภาคภูมิใจของคุณไช่อี้ฟัง หัวหน้าคณะ คุณอู๋เซิ่ง
อิ่ง วาทยากร กับสมาชิกในคณะทั้ง 10 คน อย่างไรก็ตาม เมื่อย้อนกลับไปในช่วงปีค.ศ.2008 สมัยที่เริ่มต้นก่อตั้งคณะ การสร้างคณะนักร้องประสานเสียงเป็นเป้าหมายของคุณไช่อี้ฟังในฐานะผู้อำนวยการโรงเรียนประถมศึกษาเจียอี้ เมืองผิงตง

โรงเรียนประถมเจียอี้ อยู่ในตำบลหม่าเจีย ซึ่งเป็นชุมชนของชนเผ่าพื้นเมือง นักเรียนร้อยกว่าคนที่ศึกษาอยู่มีทั้งชนเผ่าไพวันและชนเผ่ารูไค (Rukai) แม้โรงเรียนจะอยู่ห่างไกล ขาดแคลนอุปกรณ์ทางการศึกษา แต่ก็ไม่เคยขาดแคลนนักเรียนที่สร้างผลงานโดดเด่นให้กับโรงเรียน

ทั้งเด็กเล็กและเด็กโตในคณะนักร้องร้องประสานเสียงเยาวชน Puzangalan ได้เรียนรู้ถึงการ ทำงานเป็นทีมเวิร์คผ่านการเรียนร้องเพลงร่วมกัน(2)ทั้งเด็กเล็กและเด็กโตในคณะนักร้องร้องประสานเสียงเยาวชน Puzangalan ได้เรียนรู้ถึงการ ทำงานเป็นทีมเวิร์คผ่านการเรียนร้องเพลงร่วมกัน

การสอนอยู่ในโรงเรียนประถมเจียอี้มานานกว่า 20 ปี ทำให้คุณไช่อี้ฟังสังเกตเห็นว่ามีนักเรียนจำนวนไม่น้อยที่ผลการเรียนแย่ลงเมื่อก้าวเข้าสู่ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น คุณไช่อี้ฟังจึงพยายามคิดไตร่ตรองและใช้การร้องเพลงประสานเสียงของโรงเรียนมาช่วยสนับสนุน สร้างกำลังใจและความเชื่อมั่นให้เด็กในระยะยาว

แนวคิดนี้ได้ไปสอดคล้องกับความต้องการของคุณอู๋
เซิ่งอิ่งซึ่งทำหน้าที่เป็นครูสอนดนตรีเหมือนกัน ทั้งคู่จึงร่วมมือกันก่อตั้งคณะนักร้องประสานเสียงเยาวชน Puzangalan ขึ้นมา

การฝึกฝนเป็นประจำ ช่วยเปลี่ยนแปลงเด็กๆ

หลังจากเปลี่ยนแนวทางของคณะนักร้องประสานเสียงประจำโรงเรียน ที่เดิมทีตั้งขึ้นเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันดนตรีโดยเฉพาะ คุณไช่อี้ฟังกับคุณอู๋เซิ่งอิ่งจึงกำหนดแนวทางพัฒนาการฝึกซ้อม เริ่มจากกำหนดเวลาซ้อมอย่างเข้มงวดสัปดาห์ละ 2 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเริ่มต้นของการจัดตั้ง การฝึกซ้อมเป็นเหตุทำให้เด็กมีเวลาเล่นสนุกน้อยลง บ่อยครั้งเด็กๆ ขาดความสนใจ ผู้ปกครองที่ไม่เข้าใจมักจะถามคุณไช่อี้ฟังอยู่
เสมอๆ ว่า "จะฝึกฝนการร้องเพลงประสานเสียงไปทำไม" คุณไช่อี้ฟังจึงทำได้แค่สวมบทตัวร้าย ขับรถไปตามพื้นที่ต่างๆ ของชนเผ่า ตามหาสมาชิกของวงที่หายไป

คณะนักร้องร้องประสานเสียงเยาวชน Puzangalan สวมชุดชนเผ่าพื้นเมืองเตรียมตัวขึ้นแสดงบนเวที(1)คณะนักร้องร้องประสานเสียงเยาวชน Puzangalan สวมชุดชนเผ่าพื้นเมืองเตรียมตัวขึ้นแสดงบนเวที

คุณไช่อี้ฟังกับคุณอู๋เซิ่งอิ่งแบ่งหน้าที่กันในการดำเนินงานดูแลคณะนักร้องประสานเสียง คุณไช่อี้ฟังซึ่งไม่ค่อยสันทัดเรื่องการร้องเพลงจะคอยดูแลภาพรวมภายนอกของคณะ ส่วนเรื่องการฝึกสอนภายในคณะเป็นหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรีอย่างคุณอู๋เซิ่งอิ่ง แต่ทุกครั้งที่มีการฝึกซ้อม คุณไช่อี้ฟังมักจะแอบฟังการฝึกซ้อมอยู่ข้างนอกห้อง จนกระทั่ง 3 เดือนผ่านไป เสียงที่ส่งผ่านออกมาก็ค่อยๆ ไพเราะมากขึ้น สิ่งที่คุณไช่อี้ฟังรู้สึกหนักอกหนักใจอยู่ก็ค่อยๆ ปล่อยวางลง

ไม่ว่าจะเสียงแบบไหน ไม่มีการแบ่งช่วงอายุ เมื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิกของวงแล้วจะค่อยๆ เห็นการเปลี่ยนแปลง สีหน้าที่ปรากฏออกมาของพวกเขาแสดงถึงความมั่นใจ เมื่อผ่านการร้องเพลงประสานเสียงยิ่งเข้าใจถึงความสำคัญของการทำงานเป็นทีมเวิร์คมากขึ้น

คุณอู๋เซิ่งอิ่งกล่าวว่า หลายคนคิดว่าสิ่งสำคัญของการร้องเพลงประสานเสียงคือ "การร้อง" แต่เมื่อเข้าใจอย่างถ่องแท้จะรู้ว่า "การรับฟัง" ต่างหากที่เป็นกุญแจสำคัญและจะเป็นตัวตัดสินว่าการร้องเพลงประสานเสียงจะไปรอดหรือไม่ คูณอู๋เซิ่ง
อิ่งกล่าวว่า "เพียงค่อยเป็นค่อยไป แล้วเปิดหูฟังเสียงร้องของคนรอบข้าง เพลงที่ร้องออกมาจึงมีความกลมกลืน เสียงร้องของแต่ละคนจะทำให้เพลงที่ร้องออกมาไพเราะมากขึ้น"

คณะนักร้องร้องประสานเสียงเยาวชน Puzangalan สวมชุดชนเผ่าพื้นเมืองเตรียมตัวขึ้นแสดงบนเวที(2)คณะนักร้องร้องประสานเสียงเยาวชน Puzangalan สวมชุดชนเผ่าพื้นเมืองเตรียมตัวขึ้นแสดงบนเวที

เมื่อปีค.ศ.2012 คุณไช่อี้ฟังใกล้จะเกษียณอายุราชการ สมาชิกในวงหลายคนก็ใกล้สำเร็จการศึกษา เขาจึงไตร่ตรองถึงการพัฒนาคณะนักร้องประสานเสียงให้พัฒนาไปในระยะยาว ด้วยการตัดสินใจลาออกจากโรงเรียน และนำชื่อ PUZANGALAN ซึ่งเป็นภาษาชนเผ่าไพวัน มาตั้งเป็นชื่อคณะนักร้องประสานเสียงเยาวชนแห่งความหวัง

เมื่อได้รับความช่วยเหลือจากโรงเรียนน้อยลง ช่วงการฝึกซ้อมที่มีค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนเกือบ 40,000 เหรียญไต้หวัน จึงกลายเป็นปัญหาใหญ่ คุณไช่อี้ฟังยอมรับอย่างตรงไปตรงมา เวลานั้นคิดว่าควรดำเนินการต่อหรือไม่ โชคดีที่คุณหวงกั๋วกวง (黃國光) อดีตครูใหญ่ซึ่งเกษียณอายุไปแล้ว หลังรับทราบเรื่องก็รีบเข้ามาช่วยเหลือทันทีทำให้ปัญหาได้รับการแก้ไขในที่สุด

และในปีเดียวกัน ความไพเราะของเสียงเพลงจากคณะนักร้องประสานเสียงเยาวชน Puzangalan ที่พยายามฝึกซ้อมอย่างหนักมาเป็นระยะเวลายาวนาน ก็โชคดีที่ได้รับโอกาสไปแสดงความสามารถบนเวทีระดับนานาชาติ

ในปีนั้น คณะนักร้องประสานเสียงเยาวชน Puzangalan ได้รับคำเชิญจากมูลนิธิ World Vision ให้มาร่วมแสดงที่ภาคเหนือของไต้หวัน และในช่วงว่างระหว่างรอร่วมกิจกรรม คณะได้ถือโอกาสออกมาซ้อมวอร์มเสียงอยู่บริเวณลานด้านนอกพิพิธภัณฑ์แห่งชาติไต้หวัน (National Taiwan Museum)  เสียงร้องจังหวะสนุกสนานเร้าใจและมีพลัง ดึงดูดให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมารวมถึงคุณเซียวจงหวง (蕭宗煌) ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ต้องหยุดชะงักและเข้ามาสอบถาม เขาได้เชิญคณะ Puzangalan มาแสดงช่วงพิธีเปิดงานกิจกรรมทันที เสียงเพลงอันไพเราะจากสมาชิกของคณะนักร้องประสานเสียงในช่วงการแสดง ทำให้แขกผู้มีเกียรติที่เดินทางไกลมากจากประเทศเยอรมนีหลงใหล และเชิญไปร่วมแลกเปลี่ยนในการแสดงดนตรี International Childrenís Choir Festival in Dresden ประเทศเยอรมนี จากนั้น คณะนักร้องประสานเสียงเยาวชน Puzangalan ก็ได้มีโอกาสไปปรากฏตัวบนเวทีการแสดงในอีกหลายประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น ฮังการี และเกาหลีใต้

ด้วยความตั้งใจของคุณไช่อี้ฟัง เขาได้ก่อตั้งคณะ นักร้องร้องประสานเสียงเยาวชน Puzangalan เมื่อปีค.ศ. 2008ด้วยความตั้งใจของคุณไช่อี้ฟัง เขาได้ก่อตั้งคณะ นักร้องร้องประสานเสียงเยาวชน Puzangalan เมื่อปีค.ศ. 2008

คณะนักร้องประสานเสียงเยาวชน Puzangalan ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในปีค.ศ.2016 ได้รับเชิญให้มาร่วมร้องเพลงชาติในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน คุณอู๋เซิ่งอิ่งได้แสดงฝีมือด้วยการปรับเปลี่ยนวิธีการร้องประสานเสียงและนำแนวดนตรีดั้งเดิมของชนเผ่าไพวันมาผสมผสาน จนได้รับคำชมจากนานาชาติว่าเป็น ìเพลงชาติที่ไพเราะที่สุดî

คุณอู๋เซิ่งอิ่งเติบโตในหมู่บ้านตี้หมัวเอ๋อ ตำบลซันตี้เหมิน
ของเมืองผิงตง และมีเชื้อสายของชนเผ่าไพวัน เธอได้เริ่มนำเอาทำนองเพลงโบราณมาให้เด็กๆ หัดร้องในปีค.ศ.2009 เธอสารภาพว่า ตอนเข้ามารับหน้าที่ควบคุมคณะนักร้องประสานเสียง ไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้นำเอาเพลงโบราณของชนพื้นเมืองมาใช้ในการขับร้อง จนกระทั่งคณะนักร้องประสานเสียงเยาวชน Puzangalan ได้เข้าร่วมแข่งขันการประกวดร้องเพลงท้องถิ่น ซึ่งผลการแข่งขันที่ออกมาไม่ดีดั่งที่คาดหมายไว้ จึงเริ่มคิดที่จะนำเอาทำนองเพลงโบราณของชนเผ่าไพวันมาใช้ในการขับร้อง ก่อนจะพัฒนาจนเกิดเป็นวิธีใหม่สำหรับร้องเพลงโบราณ

ร้องเพลงโบราณสไตล์ใหม่ ย้อนรำลึกถึงมรดกทางวัฒนธรรม

คุณอู๋เซิ่งอิ่งกล่าวว่า กลุ่มชนเผ่าพื้นเมืองมีทำนองดนตรี การขับร้อง และวิธีการออกเสียงที่แตกต่างกัน การออกเสียงแบบโบราณของชนเผ่าไพวันจะต้องผ่านช่องท้องและก้องอยู่บริเวณลำคอ ทำให้เสียงมีคุณภาพและมีพลังการทะลุทะลวง

คุณอู๋เซิ่งอิ่งไม่เพียงนำเอาลักษณะพิเศษในการร้องเพลงของชนเผ่าไพวันเข้ามา แต่เธอยังเอาทำนองเพลงเก่าแบบโพลีโฟนิก
และการร้องคอรัสแบบคลาสสิกเข้ามาผสมผสาน เรียบเรียงเป็นเพลงประสานเสียงดั้งเดิม เด็กที่ฝึกร้องเพลงทุกวันก็ได้ซึมซับท่วงทำนองเพลงแบบโบราณและสนุกสนานไปกับการร้องเพลง ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่คุณอู๋เซิ่งอิ่งคาดหวังและเป็นเจตนาที่มีร่วมกันกับคณะ Puzangalan ว่าจะรักษาวัฒนธรรมของเพลงโบราณไม่ให้เลือนหายไปกับกาลเวลา

คณะนักร้องประสานเสียงเยาวชน Puzangalan เสียงแห่งสวรรค์ที่ถ่ายทอดมายังโลกมนุษย์-การฝึกฝนเป็นประจำ ช่วยเปลี่ยนแปลงเด็กๆ

เธอกล่าวว่า ที่ผ่านมานักร้องประสานเสียงส่วนใหญ่ใช้วิธีการร้องของตะวันตก เพื่อแสดงความงดงามของเสียงด้วยเทคนิคการสะท้อนเสียงให้ก้องกังวาน ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การปลุกจิตสำนึกในท้องถิ่นได้กระตุ้นให้เกิดการค้นหาองค์ประกอบของวัฒนธรรมท้องถิ่น และนำเอาวิธีตีความของการขับร้องเพลงโบราณมาใช้ เพราะการร้องเพลงทำให้สมาชิกในคณะและ VuVu ในครอบครัว (VuVu เป็นภาษาไพวันแปลว่า คุณปู่คุณย่า) ขยับเข้ามาใกล้ชิดกันมากขึ้น เพื่อค้นหารากเหง้าของบรรพบุรุษ ผู้ใหญ่ที่ไม่ค่อยได้ขับร้องเพลงโบราณมาเป็นระยะเวลานาน ก็ได้ฟังเสียงของลูกหลานถ่ายทอดเพลงโบราณที่พวกเขาคุ้นเคยในวัยเด็ก

เช่นเดียวกันกับ 9 ปีที่ผ่านมา ที่คุณไช่อี้ฟังและคุณอู๋เซิ่งอิ่ง
มีความตั้งใจในการพยายามส่งเสริมคณะร้องเพลงประสานเสียงให้เกิดขึ้นภายในโรงเรียน และใช้การร้องเพลงนำพาความเปลี่ยนแปลงมายังเด็กๆ เมื่อเราหลับตาและฟังเพลงที่ร้องโดยคณะนักร้องร้องประสานเสียงเยาวชน Puzangalan คุณจะได้ยินถึงความหวังที่แอบซ่อนอยู่และความทรงจำที่มีต่อผืนแผ่นดินแห่งนี้