เมื่อวันที่ 28 ที่ผ่านมา สำนักงานเจรจาการค้า (OTN) สภาบริหาร ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับกรณีที่นายหวังเหวินยวน ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งไต้หวัน ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายมุ่งใต้ครั้งใหม่ของรัฐบาลเมื่อวันที่ 27 ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลยินดีเป็นอย่างยิ่งที่โรงผลิตเหล็กของบริษัท Formosa Plastic ที่จังหวัดห่าติ๋ญของประเทศเวียดนาม ได้ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม และสามารถเดินเครื่องได้แล้ว ก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลเวียดนามได้ให้สิทธิประโยชน์แก่บริษัท Formosa Plastic เป็นจำนวนไม่น้อย ในขณะที่สำนักงานตัวแทนของไต้หวันในเวียดนามก็คอยให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่อยู่เคียงข้างมาโดยตลอด
 
OTN ชี้ว่า การเจรจากับกลุ่มประเทศในนโยบายมุ่งใต้ใหม่เพื่อให้ปรับปรุงมาตรการที่มีต่อนักลงทุนไต้หวัน ถือเป็นภารกิจสำคัญของรัฐบาลมาโดยตลอด และถือเป็นหัวข้อสำคัญที่รัฐบาลจะทำการเจรจากับแต่ละประเทศ ซึ่งเมื่อแต่ละประเทศเข้าใจถึงความสำคัญของนักลงทุนไต้หวัน ก็จะออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่พิเศษและมีหลักประกันสำหรับดึงดูดนักลงทุนไต้หวัน
 
โดย OTN เห็นว่า ที่ผ่านมา การลงนามในข้อตกลงเพื่อคุ้มครองการลงทุนระหว่างไต้หวันกับกลุ่มประเทศตามนโยบายมุ่งใต้ต่างเป็นแบบง่ายๆ ทำให้ไม่สามารถแก้ไขอุปสรรคด้านการลงทุนหลายอย่าง ซึ่งในการผลักดันนโยบายมุ่งใต้ครั้งใหม่ได้รับการแก้ไขไปไม่น้อย เช่น ในเดือนมีนาคมของปีนี้ (2018) ได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อคุ้มครองการลงทุนระหว่างไต้หวันและฟิลิปปินส์ฉบับแก้ไข โดยเพิ่มในส่วนของการให้รัฐบาลสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการประสานเพื่อช่วยแก้ไขปัญหา ส่งผลให้เมื่อนักลงทุนไต้หวันประสบปัญหาหรือมีข้อพิพาท รัฐบาลไต้หวันจะสามารถเข้ามาช่วยเจรจากับรัฐบาลของฟิลิปปินส์ พร้อมเพิ่มการคุ้มครองให้มากยิ่งขึ้น โดยระบุให้ประเทศที่ไปลงทุน จะต้องให้การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลแก่นักลงทุนไต้หวัน นอกจากนี้ ข้อพิพาทที่เกิดขึ้นจะสามารถถูกส่งต่อเพื่อให้ศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศเป็นผู้ตัดสิน พร้อมนี้ ในส่วนข้อตกลงด้านภาษีกับกลุ่มประเทศตามนโยบายมุ่งใต้นั้น ได้มีการลงนามกับสิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม มาเลเซีย ไทย อินเดีย และนิวซีแลนด์ เพื่อป้องกันการถูกเรียกเก็บภาษีซ้ำซ้อนสำหรับการลงทุนข้ามชาติของนักลงทุนไต้หวัน และช่วยยกระดับการวางแผนการลงทุนในต่างประเทศให้แก่นักธุรกิจไต้หวันด้วย
 
OTN ย้ำว่า การที่ประธานหวังเหวินยวนเรียกร้องให้เพิ่มการลงทุนในไต้หวันนั้น เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล แต่การที่ภาคธุรกิจจะขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งนโยบายมุ่งใต้ครั้งใหม่มีทั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและมีมาตรการที่แน่นอน ถือว่ามีความสำคัญต่อการพัฒนาของไต้หวัน และหลังจากดำเนินการมาก็เห็นผลที่ชัดเจน หวังว่าทุกฝ่ายจะพยายามร่วมกับรัฐบาลในการเดินหน้าต่อไป เพื่อช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่แนบแน่นมากยิ่งขึ้นระหว่างไต้หวันกับกลุ่มประเทศตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่ ด้วยจุดเด่นด้านซอร์ฟพาวเวอร์ของไต้หวัน พร้อมหวังว่าทุกฝ่ายจะไม่ใช้ข้อมูลเพียงบางส่วนมาตัดสินทั้งหมด เพราะอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดได้