ปธน.ไช่อิงเหวินพบปะกับสมาชิกรัฐสภาและและผู้เชี่ยวชาญสหรัฐอเมริกาที่เดินทางมาร่วมแสดงปาฐกถา “การเสวนาว่าด้วยความปลอดภัยของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก 2018 ภายใต้ประเด็นเรื่อง “การร่วมกันผลักดันอินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง”“
ปธน.ย้ำ ร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาและประเทศที่มีอุดมการณ์คล้ายกัน เพื่อเสริมสร้างสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาในภูมิภาค
วันที่ 30 สิงหาคม 2561
บ่ายวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำไต้หวันสาธารณรัฐจีน ได้พบปะกับสมาชิกรัฐสภาและผู้เชี่ยวชาญสหรัฐอเมริกา ที่เดินทางมาร่วมแสดงปาฐกถาใน “การเสวนาว่าด้วยความปลอดภัยของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก 2018 ภายใต้ประเด็นเรื่อง “การร่วมกันผลักดันอินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง” “ ผู้นำไต้หวันเน้นย้ำว่า ไต้หวันจะร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาและประเทศที่มีอุดมการณ์คล้ายกัน เสริมสร้างสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาในภูมิภาค
ปธน.ไช่อิงเหวินกล่าวว่า เอ็ดดี้ เบอร์ไนซ์ จอห์นสัน (Eddie Bernice Johnson) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเป็นผู้ที่มีความกระตือรือร้นในการให้ความช่วยเหลือไต้หวันรวมถึงเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับไต้หวัน นอกจากนี้เมื่อครั้งที่แวะเยือนนครฮิวสตันของสหรัฐอเมริกา 2 ครั้ง ส.ส.จอห์นสันก็เดินทางจากดัลลัสมาให้การต้อนรับที่ฮิวสตันทั้ง 2 ครั้ง ในวันนี้รู้สึกยินดีที่มีโอกาสให้การต้อนรับส.ส.จอห์นสันในไต้หวัน
ผู้นำไต้หวันยังกล่าวว่า ในวันนี้รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสให้การต้อนรับแขกผู้เกียรติอีก 2 ท่านที่เพิ่งเดินทางมาเยือนไต้หวันเป็นครั้งแรก ซึ่งได้แก่พลเอกเจมส์ สแตฟริดิส (James Stavridis) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการเมือง อีกทั้งสนับสนุนให้สหรัฐอเมริกาสานสัมพันธ์กับไต้หวัน นอกจากนี้ยังมี ดร.นาเดีย สชาโดลว์ (Nadia Schadlow) ซึ่งเป็นผู้ที่จัดทำ “รายงานว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ” ฉบับแรกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งรายงานฉบับนี้ได้เน้นย้ำถึง คำมั่นสัญญาที่สหรัฐอเมริกาจะรับประกันความปลอดภัยให้แก่ไต้หวัน
ปธน.ไช่อิงเหวินชี้ว่า ในระยะนี้จีนเพิ่มแรงกดดันไต้หวันมากขึ้นเป็นลำดับ ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของภูมิภาค อย่างไรก็ดีไต้หวันจะไม่ยอมก้มหัวให้แก่การท้าทายหรือภัยคุกคามเหล่านี้ ไต้หวันจะร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาและประเทศที่มีอุดมการณ์คล้ายกัน เสริมสร้างสันติภาพเสถียรภาพและการพัฒนาในภูมิภาค
ผู้นำไต้หวันกล่าวว่า การเสวนาที่จัดขึ้นในวันนี้มีสมาชิกรัฐสภาไต้หวัน สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นตลอดจนผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลียและอินเดียเข้าร่วมหารือ ภายใต้การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ต่างๆ ในภูมิภาคที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว การหารือและแลกเปลี่ยนกันในลักษณะเช่นนี้ จึงมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น เพราะนอกจากได้ร่วมกันเผชิญหน้ากับสิ่งท้าทายต่างๆ ในภูมิภาคแล้ว ยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นขึ้นด้วย
ในตอนท้ายปธน.ไช่อิงเหวินยังกล่าวว่า การเดินทางมาร่วมการเสวนาครั้งนี้ของคณะตัวแทนสหรัฐอเมริกา สะท้อนให้เห็นว่าทุกวงการของสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ นั่นเอง ในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนสำคัญของสหรัฐฯ ไต้หวันจะร่วมมือกับสหรัฐฯอย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายที่มีร่วมกันและหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในอนาคตจะมีการปฏิสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนกับแขกผู้มีเกียรติทุกท่านมากขึ้นกว่าเดิม
