รองปธน. : หวังว่าประเทศมุ่งใต้ใหม่จะมีแนวคิดการสร้างประชาคมเศรษฐกิจร่วมกัน

CNA วันที่ 18 ก.ย. 61

เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ดร.เฉินเจี้ยนเหริน รองประธานาธิบดีของไต้หวันได้แสดงความคิดเห็นว่า รัฐบาลสามารถสร้างความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมกับประเทศอาเซียน เอเชียใต้ นิวซีแลนด์และออสเตรเลีย ตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่ จึงหวังว่าจะสามารถอาศัยโอกาสนี้ในการผลักดันแนวคิดการสร้างประชาคมเศรษฐกิจร่วมกัน เพื่อให้ไต้หวันกลายเป็นพันธมิตรที่ดีของกลุ่มประเทศมุ่งใต้ใหม่

รองประธานาธิบดีเฉินเจี้ยนเหริน ได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทนของสมาคมนักเรียนเก่าไต้หวันจากเหล่าประเทศมุ่งใต้ใหม่ ซึ่งรองปธน.เฉินได้กล่าวระหว่างการปราศรัยว่า 60 กว่าปีที่ผ่านมา มีนักเรียนนักศึกษาชั้นเยี่ยมจากทั่วโลกเดินทางมาศึกษาต่อในไต้หวันมากกว่า 12,000 คน ซึ่งเมื่อคนเหล่านี้เดินทางกลับไปยังประเทศของตนแล้ว ต่างก็ยังเป็นกลุ่มคนรักไต้หวัน ที่ให้การสนับสนุนไต้หวันอยู่เสมอ

รองประธานาธิบดียังกล่าวว่า ปัจจุบัน เศรษฐกิจโลกเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ทำให้แต่ละประเทศต่างก็ต้องเผชิญกับความท้าทายที่ถาโถมเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ในช่วง 2 ปีกว่าที่ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินขึ้นรับตำแหน่ง ได้เร่งส่งเสริมการยกระดับอุตสาหกรรมและปรับเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจ พร้อมทั้งริเริ่มโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานเฟสใหม่ รวมทั้งผลักดันแผนพัฒนาอุตสาหกรรมด้านนวัตกรรม 5+2 โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับไต้หวันในเวทีโลก

รองประธานาธิบดีชี้ว่า ขณะนี้ถือเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่สุดในการลงทุนในไต้หวัน กระทรวงเศรษฐการมีการให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่แก่นักลงทุนไต้หวันที่ไปลงทุนในต่างประเทศ ให้หันกลับมาลงทุนในไต้หวัน ประการสำคัญคือ หวังว่าอุตสาหกรรมที่กลับมาลงทุนจะเป็นอุตสาหกรรมที่สอดคล้องกับแนวคิดอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งก็คือเครื่องจักรกลอัจฉริยะ ที่ลดการใช้พลังงานและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน

ทั้งนี้ รองประธานาธิบดีเห็นว่า รัฐบาลมีมาตรการให้ความสนับสนุนแก่คนรุ่นใหม่หรือกลุ่มธุรกิจแบบ Start-up โดยการให้วีซ่าสำหรับการพำนักอาศัยและให้สิทธิประโยชน์เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเรียกเก็บภาษีซ้ำซ้อน เชื่อมั่นว่าในอนาคต จะมีกลุ่ม Start-up ที่โดดเด่น เดินทางมาเริ่มต้นก่อตั้งธุรกิจในไต้หวันมากขึ้น และมีส่วนร่วมกับการพัฒนาเศรษฐกิจของไต้หวันไปพร้อมกันด้วย จึงหวังว่าเหล่านักเรียนนักศึกษาที่เคยมาศึกษาต่อในไต้หวันซึ่งกระจายอยู่ทั่วโลก จะสามารถอาศัยข้อได้เปรียบด้านความคุ้นเคยต่อช่องทางตลาดในประเทศของตัวเอง มาผนวกรวมเข้ากับเครือข่ายส่วนบุคคลที่ถือเป็นหนึ่งไม่มีสองนี้ เพื่อร่วมสร้างความรุ่งเรืองและเปิดศักราชใหม่ให้กับเศรษฐกิจของไต้หวัน

รองประธานาธิบดีย้ำว่า รัฐบาลกำลังเร่งผลักดันนโยบายมุ่งใต้ครั้งใหม่อย่างเต็มที่ พร้อมหวังจะอาศัยการสร้างความร่วมมือกับเหล่าประเทศอาเซียน เอเชียใต้ นิวซีแลนด์และออสเตรเลีย รวม 18 ประเทศ เพื่อเจริญสัมพันธ์ในด้านต่างๆ ระหว่างไต้หวันกับประเทศเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งปันทรัพยากร การตลาด และบุคลากร อันจะทำให้เกิดความร่วมมือในรูปแบบใหม่ที่สร้างผลประโยชน์ร่วมกัน

โดยรองประธานาธิบดีได้กล่าวขอบคุณเหล่านักเรียนเก่าไต้หวันที่มีส่วนร่วมในการผลักดัน พร้อมเชื่อว่าการสร้างความร่วมมือในรูปแบบนี้ จะสามารถพัฒนาเป็นจะสู่แนวคิดของการสร้างประชาคมเศรษฐกิจร่วมกัน เพื่อให้ไต้หวันเป็นพันธมิตรที่ดีของเหล่าประเทศมุ่งใต้ใหม่ และเชื่อว่าขอเพียงภาครัฐและเอกชนร่วมแรงร่วมใจ ในการสร้างสภาพแวดล้อมในการแลกเปลี่ยนที่ดี และมีการติดต่อระหว่างกันในเชิงลึกมากขึ้น ไต้หวันจะสามารถสร้างประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมให้แก่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้อย่างแน่นอน

รองประธานาธิบดีกล่าวว่า ขณะนี้ทั่วโลกมีองค์กรของนักเรียนเก่าไต้หวันจำนวน 118 องค์กร ในจำนวนนี้เป็นองค์กรที่อยู่ในประเทศอาเซียนมากถึง 104 องค์กร ซึ่งต่างก็ถือเป็นพันธมิตรที่สำคัญของไต้หวัน และนอกจากจะเร่งส่งเสริมให้ลูกหลานของคนเชื้อสายจีนในประเทศต่างๆ เดินทางมาศึกษาต่อในไต้หวันแล้ว ยังหวังว่าสมาชิกในกลุ่มนี้จะมีบทบาทสำคัญในนโยบายมุ่งใต้ครั้งใหม่ เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับกลุ่มประเทศมุ่งใต้ใหม่ ให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น