ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
การซ้ำ. ระบบ.ความทรงจำ ผลงานแนวทดลองของ การถ่ายภาพแบบหลี่เฮ่า
แหล่งที่มาของข้อมูล Taiwan Panorama
2018-11-12

การซ้ำ. ระบบ.ความทรงจำ ผลงานแนวทดลองของ การถ่ายภาพแบบหลี่เฮ่า

 

การถ่ายภาพจะหลุดพ้นจากกรอบของรูปแบบเก่าๆ และยังดำเนินการในแนวทดสอบได้อย่างไร? ผลงานของหลี่เฮ่า ช่างภาพแนวคอนเซ็ปต์  ไม่เพียงแต่จะหลุดพ้นจากกรอบภาพถ่ายคือสื่อที่บันทึกความเป็นจริงเท่านั้น หากแต่ยังมีการทดลองนำภาพถ่ายมาสร้างความเปลี่ยนแปลงได้แบบไม่มีที่สิ้นสุด ผลงานบางส่วนของหลี่เฮ่าทำให้เรารู้สึกได้ถึงลักษณะของการซ้ำที่ถูกนำมาใช้นับครั้งไม่ถ้วน ทั้งในผลงานยุคแรกอย่าง Le MÈcanisme RÈpÈtitif มาจนถึงผลงานในหนังสืออัลบั้มภาพแนวทดลองในชุด "R. A./E./O. M." ต่างก็เป็นการพูดถึงรูปแบบของการซ้ำ ทั้งในพื้นที่สาธารณะหรือความทรงจำส่วนตัวของคนเรา การทำซ้ำที่ว่านี้ มิใช่หมายถึงความซ้ำซ้อนที่เกิดขึ้นเพื่อคงรูปแบบหรือสไตล์ในการถ่ายภาพในแบบใดแบบหนึ่ง หากแต่หมายถึงการทำซ้ำเพื่อทำลายกฎเกณฑ์ที่ตายตัวของการถ่ายภาพทิ้งไป และชักนำให้การถ่ายภาพสามารถผสมผสานกับเทคนิคหรือแนวคิดอื่น อันจะนำพาให้เราสามารถก้าวไปสู่อีกโลกหนึ่งที่ไม่อาจรู้ได้ว่าจะออกมาเป็นรูปแบบใด

 

La Nième Puissance 01La Nième Puissance 01

การโฟกัสแนวคิดแห่ง "การซ้ำ"

ปกติแล้ว การถ่ายภาพก็เหมือนกับเป็นการบันทึกความเป็นจริงของโลก หากแต่หลี่เฮ่ากลับทำลายกฎเกณฑ์ที่เราเข้าใจเกี่ยวกับการถ่ายภาพทั้งหมด แม้ว่าผลงานของเขาส่วนใหญ่จะเป็นการใช้กล้องถ่ายรูปในการสร้างสรรค์ก็ตาม หากแต่ยังสามารถนำเอาแนวคิดทางศิลปะด้านอื่นมาผสมผสานเข้าไปด้วย เราจึงพอจะสันนิษฐานได้ว่า จริงๆ แล้ว การถ่ายภาพไม่มีอะไรที่เป็นตัวของตัวเองเลย (เช่น การบันทึกความเป็นจริง เป็นต้น) "ตัวตนของการถ่ายภาพ" ถือเป็นเสมือนแนวคิดที่สามารถขยายออกไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด มันสามารถผสมผสานเข้ากับหลายๆ สิ่งที่ไม่จำกัดเฉพาะแค่การบันทึกเหตุการณ์อันเป็นคุณสมบัติจำเพาะของการถ่ายภาพเท่านั้น

ผลงานของหลี่เฮ่ามักจะมีความเกี่ยวพันกับพฤติกรรม เสียง และภาพเคลื่อนไหว ซึ่งถือเป็นศิลปะร่วมสมัยในระดับแนวหน้า ในผลงานของเขามักจะมีองค์ประกอบที่เราๆ ท่านๆ ไม่ค่อยจะคุ้นเคยอยู่มากมาย เช่น ลักษณะของการซ้ำ การแตกกระจาย และเต็มไปด้วยสิ่งที่เราไม่สามารถคาดเดาได้ (สิ่งเหล่านี้ก็เป็นเหมือนความรู้สึกที่ถูกชักจูงโดยศิลปะร่วมสมัย) แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่า "การซ้ำ" ถือเป็นหัวใจสำคัญสำหรับงานของเขามาโดยตลอด ตั้งแต่ผลงานในยุคแรกอย่าง Le MÈcanisme RÈpÈtitif มาจนถึงผลงานชุด "R. A./E./O. M." ในหนังสืออัลบั้มภาพแบบทดลอง ต่างก็สามารถมองเห็นแนวคิดในแบบ "การซ้ำ" ที่ปรากฏให้เห็นอย่างต่อเนื่อง 

Différent/ciation 11Différent/ciation 11

Le MÈcanisme RÈpÈtitif : กรอบแห่งการทำซ้ำในชีวิตประจำวัน

เมื่อเราย้อนกลับไปดูผลงานในช่วงต้นๆ ของหลี่เฮ่าอย่าง Le MÈcanisme RÈpÈtitif เราจะเห็นภาพซ้ำของถนนหนทางต่างๆ เป็นจำนวนมาก และความเป็นศิลปะอย่างเข้มข้นของภาพเหล่านั้น ก็เหมือนกับเป็นแรงกระทบที่เข้ามาสู่สายตาของเรา หากแต่ Le MÈcanisme RÈpÈtitif มิใช่เป็นเพียงสุนทรียศาสตร์เท่านั้น สิ่งสำคัญที่แอบแฝงอยู่คือ กระบวนการทางพฤติกรรมในการถ่ายภาพของเขา เขาเปรียบเปรยพฤติกรรมของเขาเฉกเช่นเดียวกับการตอกบัตรเข้าทำงาน "ทุกๆ วันจะต้องกลับไปยังสถานที่เดิมในเวลาเดียวกัน และถ่ายภาพโดยใช้องค์ประกอบแบบเดิม โดยต้องบังคับตัวเองให้กดชัตเตอร์เพื่อถ่ายภาพเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เพื่อสะสมภาพลักษณะเดียวกันไปเรื่อยๆ" จึงอาจมองในอีกมุมหนึ่งได้ว่า ภาพถ่ายเหล่านี้ไม่ใช่รูปแบบของการบันทึกภาพซ้ำ หากแต่มันคือกระบวนการที่หลี่เฮ่าสัมผัสกับบรรยากาศจริงๆ ในสถานที่นั้นๆ ด้วยตนเอง

La Nième Puissance 02La Nième Puissance 02

นอกจากนี้ ภาพที่ปรากฏในลักษณะของการซ้ำเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะเป็นภาพที่เกี่ยวข้องกับระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานหรือตามตลาดต่างๆ ในระบบทุนนิยม และผู้ที่อยู่ในพื้นที่นั้นๆ ก็มักจะมีพฤติกรรมที่ทำอะไรเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมาอยู่เสมอ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เรามักจะคิดไปเองว่าการใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่ๆ ของเรานั้น เรามีอำนาจตัดสินใจอะไรได้ด้วยตัวเอง แต่ในความเป็นจริงแล้ว พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของเรา ต่างก็เป็นอะไรที่เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองและอยู่ในกรอบของระบบต่างๆ และทำอะไรซ้ำไปซ้ำมาในที่สาธารณะต่างๆ ที่ถูกกำหนดไว้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ดี ผลงานของหลี่เฮ่าไม่เพียงแต่จะเป็นการเสียดสีชีวิตประจำวันที่ต้องทำอะไรซ้ำๆ ภายใต้กลไกของระบบทุนนิยมเท่านั้น หากแต่เขายังเปิดโปงความเป็นไปของระบบต่างๆ ภายในกรอบเหล่านี้ด้วย จนทำให้ผู้ที่ได้ชมผลงานของเขา อดไม่ได้ที่จะย้อนกลับมาดูชีวิตประจำวันที่มักทำอะไรซ้ำๆ อยู่ตลอดเวลา รวมถึงอาจมีบางคนที่จะหาหนทางในการทำอะไรใหม่ๆ เพื่อพาตัวเองให้หลุดจากการทำอะไรซ้ำๆ อย่างที่เป็นอยู่ด้วย

"R. A./E./O. M." : ความเลือนรางแห่งความทรงจำ กับความเป็นนามธรรม

Le Mécanisme Répétitif 04Le Mécanisme Répétitif 04

หลี่เฮ่าได้ต่อยอดแนวคิดเกี่ยวกับการทำซ้ำที่ได้กล่าวถึงข้างต้น มาถ่ายทอดลงในผลงานล่าสุดของเขาที่เป็นอัลบั้มภาพแนวทดลองมีชื่อว่า "R. A./E./O. M." แต่ในครั้งนี้ สิ่งที่หลี่เฮ่าพูดถึงมิใช่เพียงการซ้ำของระบบสาธารณะเท่านั้น หากแต่เป็นการกล่าวถึง "รูปแบบกระบวนการทำงานของความทรงจำ" ผลงานที่ถูกตีพิมพ์ ไม่เพียงแต่จะครอบคลุมถึงผลงานชุด Le MÈcanisme RÈpÈtitif ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่สาธารณะ โดยในครั้งนี้ หลี่เฮ่าได้นำเอาภาพถ่ายส่วนตัวครอบครัวของเขามาใช้ด้วย โดยนำแนวคิดที่อยากจะทดลองทำ เอามาใส่ในผลงานเหล่านี้

ในงานชุด "R. A./E./O. M." ที่นำเอาความเป็นส่วนตัวของตัวเองมาตีแผ่ต่อสาธารณชนนั้น เราจะได้เห็นหลี่เฮ่านำเอาภาพถ่ายของคนในครอบครัวของตัวเองมาพิมพ์ซ้ำๆ กัน และวางซ้อนเข้าด้วยกัน (ภาพถ่ายจะค่อยๆ เปลี่ยนจากชัดเจนกลายเป็นเลือนรางลงเรื่อยๆ) นอกจากนี้ เรายังสามารถรับรู้ได้ถึงการลดทอนรายละเอียดของภาพถ่ายเชิงนามธรรมเหล่านี้ เทคนิคที่นำมาใช้ในการปรับแต่งและการทำภาพแนวนามธรรม ทำให้ภาพถ่ายถูกเบี่ยงเบนจากการเป็นสื่อที่บันทึกความเป็นจริงไป ทำให้ผู้ชมรู้สึกได้ว่าภาพถ่ายเหล่านี้ ไม่ใช่อะไรที่ตายตัวเสมอไป และส่งผลให้ผู้ที่ได้ชมจะค่อยๆ เปลี่ยนความรู้สึกที่ว่า ìกำลังชมภาพที่บันทึกเรื่องราวตามความเป็นจริงî ไปสู่ความรู้สึกว่า "กำลังชมการแสดงความเปลี่ยนแปลงของภาพถ่าย"

Le Mécanisme Répétitif 03Le Mécanisme Répétitif 03

หลี่เฮ่าได้พยายามที่จะสลัดพ้นจากกรอบของกฎเกณฑ์ การถ่ายภาพเป็นการบันทึกความเป็นจริง โดยนำเอาแนวคิดการทำซ้ำมาใช้ Le MÈcanisme RÈpÈtitif เป็นผลงานที่นำพาให้เราเข้าสู่กลไกระเบียบแห่งสาธารณะในชีวิตประจำวันของผู้คน ส่วนผลงานใน "R. A./E./O. M." เป็นการผสมผสานความทรงจำปัจเจกชนกับความเป็นส่วนรวม หลี่เฮ่ามิได้ใช้ภาพถ่ายเป็นสื่อบันทึกความจริงเท่านั้น หากแต่ยังคำนึงถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับภาพถ่ายเหล่านี้ด้วย โดยการนำตัวเองเข้าไปมีส่วนร่วม รวมถึงการ "เล่น" กับสิ่งที่มีอยู่ในภาพถ่ายเหล่านั้น (เช่น การทำกิริยาท่าทางซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง ทำให้ภาพเลือนราง ขีดข่วน ทำลาย ให้แตกกระจาย เป็นต้น) และพวกเราก็สามารถก้าวข้ามกรอบของการชมภาพถ่ายในแบบเดิมๆ หรืออาจสามารถพัฒนาไปสู่การนำเอาภาพถ่ายไปผสมผสานกับเทคนิค หรือแนวคิดอื่นๆ จนกลายเป็นสิ่งใหม่ที่มีความหลากหลาย ผ่านทางผลงานของเขาได้เช่นกัน