รองปธน.เฉินเจี้ยนเหริน (แถวที่ 4 คนที่2 จากขวา) เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม 2018 Global Youth Trend Forum เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมถ่ายภาพร่วมกับเยาวชนจาก 19 ประเทศ สำนักข่าว CNA วันที่ 3 พ.ย. 61
รองปธน.เฉินเจี้ยนเหริน เชิญชวนคนหนุ่มสาวเข้าร่วมกิจการสาธารณะ
สำนักข่าว CNA วันที่ 3 พฤศจิกายน 2561
นายเฉินเจี้ยนเหริน รองประธานาธิบดีไต้หวัน สาธารณรัฐจีน กล่าวขณะปราศรัยในพิธีเปิดการประชุมGlobal Youth Trend Forum เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า กิจการสาธารณะต้องการคนหนุ่มสาวเข้าร่วม เพราะคนหนุ่มสาวมีไอเดียดีๆ และเป็นพลังใหม่
กรมพัฒนาเยาวชน กระทรวงศึกษาธิการไต้หวันได้จัดการประชุม 2018 Global Youth Trend Forum ขึ้นเมื่อวันที่ 3 พ.ย. ในกรุงไทเป โดยได้เชิญเยาวชนต่างชาติรวม 114 คน จาก 19 ประเทศนโยบายมุ่งใต้ใหม่ อาทิ มาเลเซีย อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์เป็นต้น
รองปธน.เฉินเจี้ยนเหรินระบุว่า ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ไต้หวันผลักดัน “นโยบายมุ่งใต้ใหม่” ซึ่งมีเป้าหมายชัดเจนคือ ส่งเสริมให้เกิดความเชื่อมโยงด้านต่างๆ อาทิ การศึกษา การค้า เทคโนโลยี และวัฒนธรรมกับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ นิวซีแลนด์และออสเตรเลีย ตลอดจนการแบ่งปันด้านทรัพยากร บุคลากรและตลาด อีกทั้งส่งเสริมให้เยาวชนไต้หวันเดินทางหาประสบการณ์ในต่างประเทศ โดยนอกจากจะเป็นการเปิดมุมมองและโลกทัศน์ให้กว้างขึ้นแล้ว ยังเป็นการเพิ่มความเข้าใจและมิตรภาพระหว่างกัน “สิ่งนี้คือหัวใจของนโยบายมุ่งใต้ใหม่”
รองผู้นำไต้หวันยังชี้ว่า รัฐบาลสนับสนุนเยาวชนเข้าร่วมกิจการสาธารณะ เพราะคนหนุ่มสาวมีความคิดสร้างสรรค์ และสามารถรับมือกับความท้าทายของยุคสมัยที่แปรเปลี่ยนไป พร้อมเผยว่า ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ได้เดินทางไปเยือนท้องที่ต่างๆ ในไต้หวัน ได้มีโอกาสเห็นความสามารถพิเศษของเยาวชนไต้หวันที่กลับไปทำงานในชนบท ในการช่วยเหลือฟื้นฟูชุมชน แสดงความกล้าหาญ สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และแสดงออกถึงความห่วงใยวัฒนธรรม ทำให้รู้สึกประทับใจเป็นอย่างยิ่ง
รองปธน.เฉินเจี้ยนเหรินยังเปิดเผยว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้ระยะทางและสถานที่ตั้งไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการติดต่อของผู้คนบนโลกนี้อีกต่อไป หวังว่าเยาวชนจะกล้าแสดงความคิด ทัศนคติและสร้างธุรกิจใหม่ๆ เพื่อนำสิ่งใหม่ๆมาสู่วิถีชีวิตของผู้คน
นอกจากนี้รองปธน.เฉินเจี้ยนเหรินยังแสดงความหวังว่า หนุ่มสาวรุ่นใหม่ควรจะเข้าร่วมกิจการสาธารณะให้มากขึ้น โดยให้ยึด “คุณค่าแห่งชีวิต” มาเป็นจุดเริ่มต้นในการไตร่ตรองว่าจะสามารถทำอะไรเพื่อสังคม อีกทั้งควรยึดแนวคิดของคนรุ่นใหม่ที่กล้าเผชิญหน้ากับความท้าทายอย่างไม่หวั่นไหว
