
การประชุม INDIGENOUS PEOPLES ECONOMIC DEVELOPMENT FORUM 2018 เปิดฉากขึ้นแล้ว โดยนายวังหมิงฮุย รองประธานคณะกรรมการกิจการชนเผ่าพื้นเมืองของไต้หวัน เป็นประธานในพิธี (ภาพโดย CIP)
การประชุมด้านการพัฒนาเศรษฐกิจของชนเผ่าพื้นเมืองสู่นานาชาติเริ่มเปิดฉากแล้ว
CT news วันที่ 8 พ.ย. 61
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา คณะกรรมการกิจการชนเผ่าพื้นเมืองของไต้หวัน (CIP) ได้จัดงานแถลงข่าวการจัดประชุมด้านการพัฒนาเศรษฐกิจของชนเผ่าพื้นเมืองสู่นานาชาติ (INDIGENOUS PEOPLES ECONOMIC DEVELOPMENT FORUM) 2018 โดยมีนายวังหมิงฮุย (tibusung 'e vayayana) รองประธาน CIP เป็นประธานในงาน โดยได้เชิญคณะนักแสดงศิลปวัฒนธรรมชนเผ่าพื้นเมืองจากนครนิวไทเปมาแสดงระบำพื้นเมองของเผ่าอามิสให้ได้ชมกันในพิธีเปิดการประชุมด้วย
ช่วงพิธีเปิดงาน นายวังหมิงฮุยได้เชิญชวนแขกที่มาร่วมงานหลายท่าน มาร่วมชักเรือใบของชนเผ่าอามิส เพื่อแสดงถึงพลังอันไร้ขีดจำกัดของวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมของชนเผ่าพื้นเมืองในไต้หวัน และแสดงถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชนเผ่าพื้นเมืองในการจะเดินเรือไปสู่นานาชาติ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมเฉพาะสำหรับพวกเขา ในงานได้เชิญคุณหลิวต้าเว่ย ซึ่งเป็นผู้ประกอบการตัวอย่างที่เป็นชนเผ่าพื้นเมืองมาแบ่งปันประสบการณ์ในการทำงานด้วย
นายวังหมิงฮุยชี้ว่า การประชุมในครั้งนี้ จะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายนเป็นต้นไป เป็นเวลา 3 วัน โดยจัดขึ้นที่โรงแรม PARKVIEW Hotels & Resorts ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองฮัวเหลียน โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องจากแคนาดาและกลุ่มประเทศตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่ คือ ไทย มาเลเซีย และนิวซีแลนด์ มาร่วมให้การบรรยายในหัวข้อเกี่ยวกับ “การเชื่อมโยงระหว่างพัฒนาการทางเศรษฐกิจของชนเผ่าพื้นเมืองกับกลุ่มประเทศมุ่งใต้ใหม่” และมีการต่อยอดไปสู่ “การพัฒนาระบบนิเวศสำหรับการสร้างธุรกิจของชนเผ่าพื้นเมือง” และ “การเกษตรของชนเผ่าพื้นเมืองกับภูมิปัญญาด้านระบบนิเวศ” รวมถึง “เส้นทางในอนาคตของชนเผ่าพื้นเมืองกับธุรกิจความคิดสร้างสรรค์” โดยแบ่งเป็นการบรรยายและเวิร์คช็อป เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่มาเข้าร่วมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นพร้อมทั้งได้ข้อสรุปอันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเกี่ยวกับการพัฒนาอุตสาหกรรม และยังสามารถรวบรวมความคิดอันจะส่งผลให้เกิดไอเดียวใหม่ๆ ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ และมุมมองใหม่ๆ ต่อการทำตลาดต่างประเทศ
ทั้งนี้ การประชุมในครั้งนี้ จะเป็นการเปิดประตูให้ชนเผ่าพื้นเมืองของไต้หวันก้าวเข้าสู่การทำการค้าร่วมกับกลุ่มประเทศมุ่งใต้ใหม่ และหลังจากนี้จะมีการส่งเสริมให้เกิดการทำการค้ากับกลุ่มประเทศมุ่งใต้ใหม่ รวมทั้งส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้นต่อไป เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับชนเผ่าพื้นเมืองของไต้หวันในการติดต่อกับนานชาติต่อไป