ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
รัฐบาลสั่งตรวจเข้มเปิดกระเป๋าตรวจทุกใบเพื่อป้องกันโรคอหิวาต์หมู ไม่จ่ายค่าปรับจะถูกห้ามเข้าไต้หวันอีก
แหล่งที่มาของข้อมูล Central News Agency
2019-01-19

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้โดยสารของทุกสายการบินในทุกเที่ยวบินที่มาจากฮ่องกง มาเก๊าและจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งจะเดินทางเข้าสู่ไต้หวัน จะถูกตรวจสอบสัมภาระอย่างละเอียด ผู้ที่พกพาผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์เข้าสู่ไต้หวันและถูกสั่งปรับ หากไม่จ่ายค่าปรับก่อนเดินทางออกจากไต้หวัน จะถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าสู่ไต้หวันอีกต่อไป

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้โดยสารของทุกสายการบินในทุกเที่ยวบินที่มาจากฮ่องกง มาเก๊าและจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งจะเดินทางเข้าสู่ไต้หวัน จะถูกตรวจสอบสัมภาระอย่างละเอียด ผู้ที่พกพาผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์เข้าสู่ไต้หวันและถูกสั่งปรับ หากไม่จ่ายค่าปรับก่อนเดินทางออกจากไต้หวัน จะถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าสู่ไต้หวันอีกต่อไป

CNA วันที่ 16 ม.ค. 62
 
หลังนายซูเจินชางขึ้นรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา ก็ได้เดินทางไปตรวจการณ์ด้านการป้องกันการระบาดของโรคอหิวาต์หมูที่ท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวนโดยทันที นอกจากจะขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำจข้อความประชาสัมพันธ์ในการป้องกันโรคที่ชัดเจนและเข้าใจง่ายแล้ว ยังสั่งการให้ทำการตรวจกักกันโรคอย่างเข้มงวดไม่ให้มีช่องโหว่ พร้อมสั่งตรวจสัมภาระทุกชิ้นของผู้โดยสารที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงอย่างละเอียด เพื่อป้องกันการระบาดของโรคอหิวาต์หมูอย่างเต็มที่
 
เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันภัยพิบัติกลางเพื่อป้องกันการระบาดของโรคอหิวาต์หมู ได้จัดการแถลงข่าวฉุกเฉิน โดยนายเฉินจี๋จ้ง ประธานสภาเกษตรไต้หวัน (COA) ชี้ว่า ทั้งสภาเกษตร กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม และบริษัทการท่าอากาศยานเถาหยวน รวม 5 หน่วยงาน จะสามารถปฏิบัติตามคำสั่งการของนายกรัฐมนตรีซูเจินชาง ที่ประสงค์จะให้ตรวจสอบสัมภาระทุกชิ้นแบบ 100% แต่ทั้งนี้ต้องอยู่บนพื้นฐานของการไม่สร้างภาระให้กับประชาชน
 
โดยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สัมภาระของผู้โดยสารที่เดินทางมากับเที่ยวบินของทุกสายการบินที่มาจากฮ่องกง มาเก๊า และจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งจะเดินทางเข้าสู่ไต้หวัน จะต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดทุกชิ้น<
 
ในขณะที่ท่าอากาศอื่นๆ นอกจากท่าอากาศยานเถาหยวน จะทำการตรวจสอบสัมภาระทุกชิ้นของผู้โดยสารทุกคนไม่ว่าจะเดินทางจากที่ใด โดยในส่วนของท่าอากาศยานเถาหยวน ทั้งที่อาคารผู้โดยสารหมายเลข 1 และหมายเลข 2 จะทำการตรวจสอบสัมภาระของผู้โดยสารจากฮ่องกง มาเก๊า และจีนแผ่นดินใหญ่แบบ 100%
 
โดยการตรวจสอบแบบ 100% นี้ จะแบ่งเป็น 3 ด่าน ด่านแรกคือการตรวจสอบสัมภาระทุกชิ้นของผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางมาจากเขตระบาดของโรคอหิวาต์หมู คือ ฮ่องกง มาเก๊าและจีนแผ่นดินใหญ่
 
ด่านที่ 2 คือ เมื่อผู้โดยสารทุกคนไม่ว่าจะมาจากในหรือต่างประเทศ เข้าสู่ขั้นตอนการตรวจหนังสือเดินทาง เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจะแจกแผ่นพับเพื่อรณรงค์การป้องกันโรคอหิวาต์หมูให้กับทุกคน พร้อมกล่าวเตือนว่า ห้ามพกพาผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์เข้าสู่ไต้หวัน เพื่อให้ทุกคนที่จะเดินทางเข้าไต้หวันได้รับทราบ และด่านที่ 3 คือหน่วยงานตรวจกักกันโรคพืชและสัตว์ของไต้หวัน (BAPHIQ) จะส่งสุนัขตระเวณดมสัมภาระที่บริเวณสายพานรับสัมภาระ และมีด่านที่ 4 ที่เป็นด่านเสริม คือ เจ้าหน้าที่ศุลกากรจะสุ่มตรวจอย่างเข้มงวดสำหรับสัมภาระของผู้โดยสารที่เดินทางมากับเที่ยวบินที่คาดว่าอาจจะมีการพกพาผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ติดตัวมาด้วย โดยที่ในบริเวณโดยรอบของท่าอากาศยาน จะมีการปิดโปสเตอร์รณรงค์ซึ่งมีข้อความว่า “คำเตือน! การพกพาผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์เข้าสู่ไต้หวัน จะมีโทษปรับสูงสุด 1 ล้านเหรียญไต้หวัน”
 
ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันภัยพิบัติกลางเพื่อป้องกันการระบาดของโรคอหิวาต์หมู ได้เปิดการประชุมครั้งที่ 5 โดยหลังจากวันที่ 18 ธันวาคมของปีที่แล้ว ซึ่งมีผู้โดยสารฝ่าฝืนโดยนำผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์เดินทางเข้าสู่ไต้หวัน และถูกเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 200,000 เหรียญไต้หวันเป็นครั้งแรกนั้น จนถึงขณะนี้ มีผู้ที่ถูกเปรียบเทียบปรับคนละ 200,000 เหรียญไต้หวันไปแล้วรวมถึง 55 คน และตั้งแต่วันที่ 18 มกราคมนี้เป็นต้นไปหากผู้โดยสารที่เป็นชาวต่างชาติปฏิเสธไม่ยอมจ่ายเงินค่าปรับ จะถูกห้ามเข้าประเทศด้วย สำหรับชาวต่างชาติที่ไม่ยอมจ่ายค่าปรับและเดินทางออกนอกประเทศไปแล้วนั้น หากไม่เสียค่าปรับให้เรียบร้อยภายในเวลา 1 เดือนนับจากวันที่ถูกสั่งปรับ จะถูกห้ามเดินทางเข้าไต้หวันอีกต่อไป