เมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน (หน้าขวา) ได้ให้การต้อนรับคณะทูตและอุปทูตของเหล่าประเทศพันธมิตรที่ประจำการอยู่ในองค์การสหประชาชาติ นครนิวยอร์ก โดยได้จับมือแสดงความยินดีในการให้การต้อนรับกับสมาชิกคณะทุกคน สำนักข่าว CNA วันที่ 24 ม.ค. 62

ปธน.ไช่ชี้ ไต้หวันจะไม่ลดละและจะพยายามอย่างต่อเนื่องในเวทีนานาชาติ

สำนักข่าว CNA วันที่ 24 ม.ค. 62

เมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินแห่งไต้หวันสาธารณรัฐจีน ได้ให้การต้อนรับคณะทูตและอุปทูตประจำสหประชาชาติในนครนิวยอร์กของเหล่าประเทศพันธมิตร พร้อมชี้ว่า การเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหประชาชาติ ถือเป็นความหวังของประชาชนไต้หวันทุกหมู่เหล่า ดังนั้น ไต้หวันจะไม่ยอมลดละ และจะพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะหาที่ยืนบนเวทีนานาชาติ พร้อมเชื่อว่าไต้หวันมีความสามารถพอที่จะอุทิศตนเพื่อประโยชน์สุขของประชาคมโลกได้มากกว่านี้อย่างแน่นอน

โดยในระหว่างให้การต้อนรับคณะทูตและอุปทูตซึ่งเป็นตัวแทนของเหล่าประเทศพันธมิตรที่ประจำการอยู่ในองค์การสหประชาชาติ ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินได้กล่าวขอบคุณ ที่ตัวแทนทุกท่านได้ช่วยเป็นปากเสียงให้กับไต้หวันบนเวทีของสหประชาชาติอยู่เสมอ

ประธานาธิบไช่ฯ กล่าวว่า เหล่าประเทศพันธมิตรทั้งหลายถือเป็นตัวกลางสำคัญ ในการช่วยให้ไต้หวันสามารถก้าวเข้าสู่เวทีโลกได้ ดังนั้น ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไต้หวันจึงได้พยายามอย่างเต็มที่ในการสร้างความร่วมมือต่างๆ กับเหล่าประเทศพันธมิตรมากขึ้น พร้อมนี้ตนยังเคยนำคณะไปเยือนประเทศที่มีตัวแทนนั่งอยู่ในที่นี้ด้วย คือ หมู่เกาะมาร์แชลล์ ตูวาลู และเอสวาตีนี

ประธานาธิบดีไช่ฯ ชี้ว่า การสร้างความร่วมมือในแต่ละครั้ง จะสามารถช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายให้แนบแน่นมากยิ่งขึ้นได้ จึงหวังว่าการที่คณะตัวแทนทุกท่านมาเยือนไต้หวันในครั้งนี้ จะมีโอกาสได้ทำความเข้าใจกับไต้หวันในปัจจุบันได้มากขึ้น ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และการพัฒนาของสังคมประชาธิปไตย รวมไปจนถึงประสบการณ์ของไต้หวันในการผลักดันเทคโนโลยีพลังงานสะอาด และการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างความร่วมมือระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีไช่ยังได้กล่าวขอบคุณเหล่าประเทศพันธมิตร ที่ช่วยเหลือและสนับสนุนไต้หวันบนเวทีของสหประชาติ เพื่อให้ไต้หวันได้มีโอกาสเข้าร่วมกับนานาชาติมากขึ้น “การเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งสหประชาติ ถือเป็นความหวังของประชาชนไต้หวันทุกหมู่เหล่า จึงขอบอกกับทุกท่านว่า ไต้หวันจะไม่ยลดความพยายามที่จะหาที่ยืนบนเวทีนานาชาติ และเชื่อว่าไต้หวันมีความสามารถพอที่จะอุทิศตนเพื่อประโยชน์สุขของประชาคมโลกได้มากกว่านี้อย่างแน่นอน”

ประธานาธิบดีไช่ยังกล่าวอีกว่า ในยุคแห่งโลกาภิวัฒน์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งในส่วนของการแลกเปลี่ยนภาคประชาชน และการค้าระหว่างกัน ต่างก็มีความใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงในประเด็นอื่นๆ เช่น การพัฒนาอย่างยั่งยืน ความปลอดภัยทางสาธารณสุขของทั่วโลก หรือแม้แต่ความปลอดภัยด้านการบิน ต่างก็จำเป็นจะต้องได้รับความร่วมมือจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก และในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างกันของทั่วโลกนั้น ไต้หวันไม่ควรจะถูกกีดกันให้อยู่แต่วงนอก

ประธานาธิบดีไช่ย้ำอีกว่า ไต้หวันมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะร่วมมือกับเหล่าประเทศพันธมิตร ในการสร้างอนาคตแห่งพัฒนาการอันยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีพลังงานสะอาด การแพทย์ เทคโนโลยีทางการเกษตร รวมไปจนถึงเมืองพลวัต ซึ่งไต้หวันและประเทศพันธมิตรสามารถเพิ่มการแลกเปลี่ยนทางข้อมูลระหว่างกัน และส่งเสริมโครงการที่เป็นความร่วมมือร่วมกัน เพื่อกระตุ้นให้สามารถไปถึงเป้าหมายแห่งพัฒนาการอันยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมได้เร็วขึ้น