
ดาวเทียมฟอร์โมซา หมายเลข 7กำลังรอการส่งไปยังสหรัฐฯเพื่อเตรียมปล่อยขึ้นสู่วงโคจร ดังโมเดลในภาพ หนังสือพิมพ์ยูไนเต็ดเดลีนิวส์ วันที่13 ก.พ.62
หนังสือพิมพ์ยูไนเต็ดเดลีนิวส์ วันที่13 ก.พ.62
“โครงการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศระยะที่ 3ของไต้หวัน”เริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปจนถึงปี 2028 รวมเวลา 10 ปี โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 25,100 ล้านเหรียญไต้หวัน เมื่อช่วงวานนี้นายเฉินเหลียงจี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไต้หวันสาธารณรัฐจีน ได้แถลงถึงความคาดหวังที่ไต้หวันจะส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรปีละ 1 ดวงในช่วง10ปีต่อจากนี้ ในขณะนี้ดาวเทียมฟอร์โมซา หมายเลข 7กำลังรอการส่งไปยังสหรัฐฯเพื่อเตรียมปล่อยขึ้นสู่วงโคจร ในอนาคตจะทำการวิจัยและพัฒนาดาวเทียมนักล่า
นายหลินจวิ้นเหลียง ผู้อำนวยการศูนย์สถานีอวกาศกล่าวว่า โครงการนี้ก็คาดหวังจะส่งดาวเทียมขึ้นโคจรรอบดวงจันทร์ หากภารกิจประสบสำเร็จ ความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ก็หวังที่จะขึ้นไปเหยียบบนดวงจันทร์ด้วย
นายหลินจวิ้นเหลียงชี้ว่า ขั้นตอนแรกคือต้องวิจัยและออกแบบการจำลองทิศทางของการโคจรรอบดวงจันทร์ ขั้นตอนต่อมาจึงจะเป็นการลงจอดบนดวงจันทร์
แม้โครงการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศระยะที่ 3 ได้วางแผนที่จะวิจัยด้านอวกาศ แต่ก็เป็นเพียงส่วนเล็กๆส่วนหนึ่งในโครงการนำดาวเทียมโคจรรอบดวงจันทร์เท่านั้น ไม่ใช่ส่วนสำคัญของโครงการแต่อย่างใด
นายเฉินเหลียงจีกล่าวว่า ได้เริ่มวางแผนโครงการดังกล่าวนี้มาตั้งแต่เดือนต.ค.ปี 2017 โดยมีเป้าหมาย3ประการ อันได้แก่ “ การวิจัยเทคนิคอันล้ำหน้า”, “การบ่มเพาะบุคลากร”, “การแผ่ขยายอุตสาหกรรม” โครงการครั้งนี้ยังคงยึดหลักการสำรวจระยะไกล(remote sensing)เป็นหลัก นอกจากดาวเทียมฟอร์โมซา หมายเลข 7 ที่คาดการณ์ว่าจะมีอายุการใช้งานนานถึง10ปี นอกจากนี้ยังวางแผนพัฒนาดาวเทียมบังคับระยะไกลความคมชัดสูง จำนวน 6 ดวง ดาวเทียมบังคับระยะไกลอัจฉริยะ 2 ดวง และดาวเทียมเรดาห์ 2 ดวงและดาวเทียมสำรวจวงโคจรรอบดวงจันทร์ในอวกาศ เป็นต้น
นายเฉินเหลียงจีคาดหวังว่าจะส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรปีละ 1 ดวงในช่วง10 ปีต่อจากนี้ และตั้งความหวังว่าจะสามารถคัดสรรเทคนิคการผลิตชิ้นส่วนสำคัญของดาวเทียมแต่ละดวงออกมา 3-4 รายการ รวมถึงคาดหวังว่าโครงการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศครั้งนี้ จะทำให้คนรุ่นใหม่เห็นว่าการวิจัยและพัฒนาในประเทศมีอนาคตก้าวไกล พร้อมตั้งเป้า ภายในช่วง10 ปีนี้ จะนำพาให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องสร้างความก้าวหน้าให้แก่วงการเทคโนโลยีอวกาศได้มากขึ้น