ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
ฟุตบอล กีฬามหาชน ที่ช่วยเตะความคิดถึงบ้านให้จางหายไป การแข่งขันฟุตบอลผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ รายการ “Taiwan Cup”
แหล่งที่มาของข้อมูล Taiwan Panorama
2019-03-25

ฟุตบอล คือกีฬาประเภททีมที่ผสมผสานการใช้สมองร่วมกับพละกำลัง โดยให้ความสำคัญกับความสามัคคีและการปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด

ฟุตบอล คือกีฬาประเภททีมที่ผสมผสานการใช้สมองร่วมกับพละกำลัง โดยให้ความสำคัญกับความสามัคคีและการปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด

 

ฟุตบอล คือกีฬาประเภททีมที่ผสมผสานการใช้สมองร่วมกับพละกำลัง โดยให้ความสำคัญกับความสามัคคีและการปฏิบัติตามคำสั่งเป็นอย่างมาก กฎระเบียบอันเข้มงวดของฟุตบอลหล่อหลอมให้กลายเป็นบุคลากรที่สามารถปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัด และยินดีให้
การสนับสนุนผู้อื่นอย่างไม่เห็นแก่ตัว การแข่งขันฟุตบอลของผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่รายการ “ไต้หวันคัพ 2018” ได้เชิญทีมฟุตบอลของเหล่าแรงงานข้ามชาติจำนวน 8 ทีมมาร่วมลงชิงชัย ณ สนามกรีฑาซินจวง นครนิวไทเป

ในไต้หวันมีแรงงานจากต่างประเทศมาทำงานอยู่มากกว่า 7 แสนคน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะถือไต้หวันเป็นบ้านแห่งที่ 2 โดยต่างก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคมไต้หวันได้เป็นอย่างดี ทั้งส่วนของภาษาและชีวิตประจำวัน แถมยังนำเอากีฬาที่คุ้นเคยมาฝังรากในไต้หวันด้วย จนทำให้เกิดเป็นการแข่งขันกีฬาประเภทใหม่ๆ ขึ้นมาเป็นจำนวนไม่น้อย

 

ในยามลงแข่ง ผู้เล่นทีมไทยมักจะยกมือไหว้ทักทายกันและกัน เพื่อแสดงถึงการให้ความเคารพระหว่างกันในยามลงแข่ง ผู้เล่นทีมไทยมักจะยกมือไหว้ทักทายกันและกัน เพื่อแสดงถึงการให้ความเคารพระหว่างกัน

สร้างเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนด้วยกีฬา

ที่สนามกรีฑาซินจวงในนครนิวไทเป มีการแข่งขันฟุตบอลของเหล่าแรงงานจากต่างประเทศที่มาทำงานในไต้หวัน ในรายการแข่งขันที่มีชื่อว่า “Taiwan Cup”

บนสนามหญ้าเทียมที่ได้มาตรฐานระดับนานาชาติเรามีโอกาสได้เห็นคนกลุ่มหนึ่งที่มีทั้งเหล่ามนุษย์เงินเดือนและแรงงานจากต่างชาติสวมใส่ชุดกีฬาที่มีสีสันสวยสดงดงามกำลังแข่งขันฟุตบอลกันอยู่นักกีฬาของแต่ละทีมต่างก็วิ่งไล่เตะลูกฟุตบอลกันอย่างแข็งขันจนเหงื่อไหลไคลย้อยไปตามๆกันที่บริเวณด้านนอกของสนามฟุตบอลมีเต็นท์สีแดงขึงเรียงกันอยู่เป็นแนวยาวภายในเต็มไปด้วยเหล่าพ่อค้าแม่ค้าที่นำเอาอาหารสารพัดชาติจากทั้งอินโดนีเซียเวียดนามและไทยมาวางขายกันอย่างคึกคักและเพิ่มความครื้นเครงให้กับบรรยากาศของงานเป็นอย่างมากกลิ่นอาหารอันหอมฉุยทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาเกิดความรู้สึกอดไม่ได้ที่จะต้องแวะเข้าไปลองลิ้มชิมรสเหล่าอาหารประจำชาติต่างๆเหล่านี้

การแข่งขันฟุตบอลรายการนี้ เป็นการแข่งขันร่วมกันของคนทำงานทั้งในระดับบริหารและระดับใช้แรงงานอย่างไม่มีการแบ่งชนชั้นวรรณะ เพราะฟุตบอลคือภาษาที่สร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันให้กับพวกเขา ไม่มีการฟาดฟันอย่างดุเดือดเอาเป็นเอาตาย ภายใต้บรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยความเป็นมิตรระหว่างกันนี้จึงมีเพียงแต่การชื่นชมในทักษะการเล่นของอีกฝ่าย ทำให้ทัวร์นาเมนต์นี้กลายเป็นเสมือนดินแดนแห่งมิตรภาพระหว่างประเทศ

สมาคมชาวต่างชาติที่ทำงานในไต้หวัน หรือ The Global Workers’ Organization, Taiwan (GWO) ซึ่งเป็นเจ้าภาพในการจัดงานนี้ได้จัดการแข่งขันฟุตบอลผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ Taiwan Cup ขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ต่อจากปี 2015 คุณสวีรุ่ยซี (Karen Hsu) นายกสมาคม ได้กล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ จนทำให้การแข่งขันแต่ละนัดจบลงอย่างราบรื่น “ดิฉันหวังว่าจะสามารถสร้างเวทีที่จะเป็นตัวกลางซึ่งทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนระหว่างกัน เพื่อให้ชาวต่างชาติที่มาทำงานในไต้หวันมีเวทีและโอกาสในการทำสิ่งที่ตัวเองชอบ”

การแข่งขันฟุตบอลของผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่รายการ “ไต้หวันคัพ 2018” มีทีมฟุตบอลเข้าร่วมการแข่งขัน 8 ทีม โดยนักกีฬาของแต่ละทีมมีทั้งที่เป็นแรงงานจากประเทศไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม และมีทีมของชาวต่างชาติระดับไวท์คอลลาร์จากประเทศยุโรปและเอเชีย มาร่วมประชันแข้งกัน โดยผู้ที่มาจากต่างประเทศเหล่านี้ นอกจากบางส่วนใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารแล้ว ที่เหลือส่วนใหญ่จะใช้ภาษาจีนเป็นหลัก ทำให้เราได้เห็นถึงเค้าลางของการขยายความสัมพันธ์ในแบบการทูตภาคประชาชนของไต้หวัน

 

คุณชิวอี้เหริน (ที่ 1 จากซ้าย) นายกสมาคมฟุตบอลแห่งไชนีสไทเป (ไต้หวัน) ทักทายกับเหล่าผู้เล่นอย่างเป็นกันเองคุณชิวอี้เหริน (ที่ 1 จากซ้าย) นายกสมาคมฟุตบอลแห่งไชนีสไทเป (ไต้หวัน) ทักทายกับเหล่าผู้เล่นอย่างเป็นกันเอง

ฟุตบอล กีฬาที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน

“ฟุตบอล คือกีฬามหาชนของคนเวียดนาม โดยเฉพาะชาวจังหวัดเหงะอาน จะเล่นได้เก่งมาก”  ในการแข่งขันครั้งนี้ มีทีมฟุตบอลของคนเวียดนาม 3 ทีม เข้าร่วมแข่งขัน และสมาชิกของแต่ละทีมส่วนใหญ่ก็มีพื้นเพมาจากจังหวัดเหงะอานกันทั้งนั้น ทีมฟุตบอลซินจวง-นิวไทเป ซึ่งเพิ่งจะคว้ารองแชมป์จากการแข่งขันฟุตบอลผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ของนครนิวไทเปประจำปี 2018 ก่อตั้งทีมขึ้นเป็นเวลา 8 ปีแล้ว คุณชวี่กงหย่ง (Khuc Cong Dung) ซึ่งเป็นกัปตันทีมบอกกับเราว่า “พวกเราจะนัดซ้อมกันทุกๆ คืน วันเสาร์เว้นเสาร์” สมาชิกในทีมจำนวน 20 กว่าคน ต่างก็เป็นผู้ที่มาจากพื้นเพเดียวกัน จึงมีการนัดพบกันอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำอยู่แล้ว ทำให้ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีอาการคิดถึงบ้านมากเท่าใดนัก แน่นอนว่าการเล่นกีฬาที่ค่อนข้างจะดุเดือดนี้ก็มีส่วนช่วยสลัดความเครียดและความกังวลต่างๆ ให้ออกจากร่างกายไปพร้อมกับหยาดเหงื่อที่หลั่งไหลออกมา

สำหรับทีมอี๋อันแห่งนิวไทเป ซึ่งใช้ชื่อในการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศของฟุตบอลผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ของนครนิวไทเปประจำปี 2018 ว่าทีม CHOA 37 อันเป็นชื่อที่ได้มาจากป้ายทะเบียนรถของจังหวัดเหงะอาน ได้กล่าวถึงตัวเองด้วยความเชื่อมั่นว่า 
“เหงะอานก็คือผม” แม้ว่าจะมีรูปร่างที่ไม่ได้กำยำหรือสูงใหญ่นัก หากแต่ในรูปร่างที่แลดูเป็นคนอ่อนน้อมนี้ กลับแฝงไว้ด้วยความมุ่งมั่นในการต่อสู้อย่างไม่ท้อถอยที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมในทุกอณูของร่างกาย จนสามารถนำเอาสปิริตของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มาใช้แสดงให้เห็นถึงความเป็นเล็กพริกขี้หนูได้อย่างเต็มที่ จนทำให้ทีมฟุตบอลของคนตัวเล็กๆ เหล่านี้สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม

ทีมแฟมิลี่นัมเบอร์วันแห่งไทจง ซึ่งเป็นเจ้าของตำแหน่งแชมป์ฟุตบอลผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ของนครไทจง ประจำปี 2018 ก่อตั้งทีมได้ 6 ปีแล้ว โดยเริ่มจากจำนวนสมาชิกเพียง 10 กว่าคนในตอนแรก ปัจจุบันมีสมาชิกเกือบ 70 คนแล้ว แถมยังมีสมาชิกบางคนที่มาไกลจากไถหนานที่อยู่ทางภาคใต้ คุณอู๋ชุนกุ้ย (Xinzhorg) กัปตันทีมกล่าวว่า “จะมีการจัดการแข่งขันโดยเฉลี่ยอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง นอกจากนี้ ทีมของเรายังคอยให้ความช่วยเหลือทีมอื่นๆ ด้วย” และเมื่อได้มาอยู่รวมกันจนเกิดเป็นศูนย์รวมจิตใจ ทำให้ความรู้สึกหงอยเหงาที่ต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนมาใช้ชีวิตอยู่ในต่างถิ่นต่างแดน ต่างก็ถูก “เตะ” สลัดทิ้งไปจนหมด

 

ไต้หวันคือบ้านแห่งที่ 2 ของเรา

“การแข่งขันฟุตบอลลีกอินโดนีเซียในไต้หวัน” จะมีการแข่งขันทั่วไต้หวันตลอดทั้งปี ไม่เพียงแต่จะมีโค้ช แต่ยังมีกรรมการมืออาชีพ รวมไปจนถึงนักวิจารณ์บอล ถือได้ว่ามีความเป็นองค์กรที่ใหญ่มาก คุณซาตัว (Saptono) กัปตันทีม Putera Indonesia FC ซึ่งเป็นทีมที่คว้าแชมป์ในฤดูกาลแข่งขันปี 2018 บอกว่า เขาถือไต้หวันเป็นบ้านแห่งที่ 2 มาตั้งนานแล้ว แถมยังสามารถสื่อสารด้วยภาษาจีนกลางได้อย่างคล่องแคล่วด้วย “ผมรักไต้หวัน และชอบทุกสิ่งทุกอย่างของไต้หวัน”

“ปกติเราจะมีการแข่งขันโดยเฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้ง” แต่สิ่งที่ทำให้คุณซาตัวรู้สึกปวดหัวมากก็คือ การที่มีทีมฟุตบอลหลายทีมมากแต่ไม่มีสนามฝึกซ้อมและสนามแข่งที่แน่นอน โดยคุณชิวอี้เหริน (邱義仁) นายกสมาคมฟุตบอลแห่งไชนีสไทเป (ไต้หวัน) ก็แสดงความเห็นว่า “สนามฟุตบอลไม่เพียงพอจริงๆ ซึ่งก็ถือเป็นอีกหนึ่งทิศทางในการทำงานของเรา” เพราะต้องมีเวทีให้นักฟุตบอลได้มีโอกาสแสดงความสามารถจึงจะสามารถดึงดูดให้ประชาชนทั่วไปหันมาสนใจมีส่วนร่วมมากขึ้น

นอกจากนี้ ฟุตบอลลีกของชาวอินโดนีเซียในไต้หวันยังมีการตั้งระเบียบที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เพื่อควบคุมวินัยของเหล่านักเตะทั้งหลายด้วย “หากได้รับใบเหลือง จะถูกปรับ 300 เหรียญไต้หวัน ส่วนใบแดง จะถูกปรับ 500 เหรียญไต้หวัน” ซึ่งเป็นระเบียบที่ตั้งขึ้นมาเพื่อให้ผู้เล่นได้เรียนรู้ในการควบคุมตัวเอง และแม้จะเป็นเพียงแค่การซ้อมแข่งก็จะถูกปรับเช่นกัน “พวกเรามีการเอาใจใส่ต่อความประพฤติของผู้เล่นในชีวิตประจำวันด้วย เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับทีม” การที่สวมใส่ยูนิฟอร์มเดียวกัน ทำให้ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหน ทุกคนต่างก็พยายามช่วยกันปกป้องเกียรติภูมิของทีมฟุตบอลของตัวเอง

 

ลงแข่งขันเพื่อเพิ่มพูนทักษะ ด้วยการสนับสนุนจากท้องถิ่น

ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ ภาคกลาง หรือภาคใต้ ต่างก็มีทีมฟุตบอลของคนไทยกระจายกันอยู่ไม่น้อย ในการแข่งขันครั้งนี้ ก็มีทีมต้าฟาแห่งเกาสง ซึ่งเป็นเจ้าของตำแหน่งแชมป์ในรายการแข่งขันฟุตบอลแรงงานข้ามชาตินครเกาสง ประจำปี 2018 และทีมลี่ชิงแห่งเถาหยวน ซึ่งได้เหรียญทองแดงในการแข่งขันฟุตบอลผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่นครนิวไทเปประจำปี 2018 มาร่วมลงชิงชัยด้วยทีมลี่ชิงได้ใช้ชื่อบริษัทของนายจ้างมาตั้งเป็นชื่อทีมฟุตบอลเพื่อตอบแทนบุญคุณและเพื่อแสดงออกถึงความภาคภูมิใจการที่มีเถ้าแก่มาคอยให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ทำให้พวกเขาสามารถเล่นฟุตบอลได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลกับเรื่องอื่น

ทีมลี่ชิงจะมีการแข่งขันเป็นประจำแทบทุกสัปดาห์ “พวกเราไม่มีกำหนดเวลาซ้อมที่ตายตัว แต่ใช้ประสบการณ์จากการลงแข่งขันมาทำการปรับปรุงตัวเอง” กลยุทธ์การฝึกซ้อมแบบนี้กระตุ้นให้ผู้เล่นแต่ละคนเกิดสัญชาตญาณในการเอาตัวรอด ทำให้ทีมไทยที่ผู้เล่นต่างก็มีความนอบน้อมยกมือไหว้เพื่อแสดงความเคารพต่อกันเสมอๆ ทีมนี้กลายเป็นทีมฟุตบอลที่มีความเป็นนักสู้อยู่ในสายเลือดอย่างเข้มข้น “การฝึกซ้อมของเราทำให้ผู้เล่นแต่ละคนแสดงความสามารถออกมาได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะถูกส่งลงไปเล่นอยู่ในตำแหน่งใดก็ตาม”

“สมาชิกของเราหลายคนเป็นนักศึกษาที่เดินทางมาเรียนต่อในไต้หวัน” ตัวแทนของทีมฟุตบอลซึ่งมีสีผิวอันหลากหลาย คือ ทีมฟุตบอล Royal Blues FC ซึ่งเป็นตัวแทนของทีมต่างชาติจาก Taiwan Football Premier Leagues รวมถึงทีมฟุตบอล Taipei Athletics FC ซึ่งเป็นตัวแทนจาก Taipei Premier League โดยแต่ละทีมต่างก็มีความสดใสเบิกบานและสนุกสนานกับการเล่นฟุตบอลเป็นอย่างมาก และจากการที่ได้รับการฝึกซ้อมอย่างมีรูปแบบอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ทีม Royal Blues FC สามารถคว้าแชมป์ในการแข่งขันรายการนี้ไปได้ตามความคาดหมาย

 

สร้างความสุขให้กับตัวเองด้วยการช่วยเหลือ ผู้อื่นให้ประสบความสำเร็จ

ท้องฟ้าเริ่มมืดมิด แต่บริเวณโดยรอบของสนามแข่งขันกลับเปล่งประกายสุกใสราวกับภาพจิตรกรรม การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศกำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น

คุณชิวอี้เหริน นายกสมาคมฟุตบอลแห่งไชนีสไทเป (ไต้หวัน) ยืนชมการแข่งขันอย่างตั้งใจอยู่ที่ขอบสนามอย่างเงียบๆ ภาพที่เห็นทำให้เรารู้สึกได้ถึงความหลงใหลที่คุณชิวอี้เหรินมีต่อฟุตบอลอย่างปิดไม่มิดเลยทีเดียว “ฟุตบอล เป็นกีฬาที่มีเสน่ห์เป็นอย่างมาก ความรู้สึกในระหว่างที่เล่นอยู่นั้น เป็นอะไรที่บอกไม่ถูกเหมือนกัน ต้องลงไปเล่นเองถึงจะรู้” คุณชิวอี้เหรินมีความประสงค์ที่จะนำการแข่งขันระบบลีกในแบบสากลมาใช้ในการจัดตั้งลีกแข่งขันแห่งชาติของไต้หวันขึ้น เพื่อให้ผู้เล่นได้มีโอกาสลงแข่งขันทุกๆ สัปดาห์ เพราะสิ่งต่างๆ ในฟุตบอล ทั้งกลยุทธ์การตั้งรับ หรือจังหวะในการทำเกมบุก ต่างก็ต้องค่อยๆ สะสมจากประสบการณ์จากการลงแข่งขัน ผู้เล่นจึงจะเข้าขากันได้ดี และไม่มีความผิดพลาดเกิดขึ้น หากผู้เล่นให้การสนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างเต็มที่ ประกอบกับการรักษาหน้าที่ของตัวเองอย่างเคร่งครัด ก็จะนำมาซึ่งชัยชนะในบั้นปลาย เสียงแห่งการจากลา ก็เหมือนกับเป็นดนตรีสำหรับเปิดฉากใหม่ “เราต้อง
เตรียมตัวสำหรับการแข่งขันครั้งต่อไป” ไม่สนใจผลแพ้ชนะเพียงครั้งคราว หากแต่สิ่งที่ได้มาคือทักษะและความสามารถที่ยกระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ

คุณสวีรุ่ยซีหัวเราะแล้วบอกกับเราว่า เมื่อเห็นเหล่านักกีฬาเหน็ดเหนื่อยจนเหงื่อไหลไคลย้อย แต่ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขในการที่ได้ทำในสิ่งที่รักที่ชอบก็เกิดความรู้สึกว่าทุกอย่างที่ทุ่มเทลงไปเพื่อเปิดถนนแห่งมิตรภาพสายนี้ เป็นอะไรที่คุ้มค่าเป็นอย่างมาก “ความสุขจากการช่วยให้ผู้อื่นประสบความสำเร็จ ก็เหมือนกับช่วยทำให้ตัวเองมีความสุขมากขึ้นตามไปด้วย”