กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกล่าสุด (WEO) โดยได้ปรับเพิ่มประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจไต้หวันในปี 2019 ขึ้นเป็น 2.5% (ภาพจากคลังรูปภาพของสำนักข่าวCNA)

สำนักข่าว CNA วันที่ 9 เม.ย. 62

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook ,WEO) ล่าสุด โดยได้ปรับเพิ่มประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจไต้หวันประจำปีนี้ ขึ้นเป็น 2.5% คณะกรรมการพัฒนาแห่งชาติ (National Development Council, NDC) สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) วิเคราะห์ว่า เมื่อเทียบกับภาวะเศรษฐกิจเมื่อปลายปีที่แล้ว จะเห็นได้ว่า บรรยากาศอึมครึมสลายตัวออกไปแล้ว รัฐบาลได้ดำเนินการกระตุ้นความต้องการบริโภคภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

เมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว IMF ได้ประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจไต้หวันปี 2019 ไว้ที่ 2.4% แต่รายงานล่าสุดที่ประกาศในวันที่ 9 เม.ย. ได้ปรับประมาณการขยายตัวเศรษฐกิจ ทั้งปีนี้และปีหน้าเป็น 2.5% ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนความคาดการณ์ที่มีต่อปี 2019 ไปในทางที่ดีขึ้น

นายเจิ้งเจินเม่า รองประธาน NDC แสดงความคิดเห็นว่า การที่ IMF ปรับเพิ่มประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจไต้หวันเพิ่มขึ้นในปีนี้ น่าจะมาจาก 2 เหตุผลหลัก หนึ่งคือ ภาวะเศรษฐกิจเมื่อเดือนต.ค. ปีที่แล้ว ค่อนข้างย่ำแย่ ส่งผลให้คณะผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ ต่างลงความเห็นว่าเป็นผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีน – สหรัฐฯ ที่ส่งผลเสียต่อไต้หวัน แต่ในขณะนี้สถานการณ์การเจรจาทางการค้าคลี่คลายลง ซึ่งอีกไม่นานก็จะเกิดผลลัพธ์ขึ้น ภายใต้ทิศทางสถานการณ์เศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น จึงทำให้ความคาดหวังที่มีต่อไต้หวันถูกยกระดับขึ้นตามไปด้วย

นายเจิ้งเจินเม่ายังได้ระบุว่า ตัวแปรจากสภาพแวดล้อมภายนอกอยู่นอกเหนือการควบคุม แต่ในด้านความต้องการบริโภคภายในประเทศ รัฐบาลกำลังเร่งผลักดันให้นักธรุกิจไต้หวัน กลับมาลงทุนที่บ้านเกิด และดึงดูดเม็ดเงินกลับสู่ไต้หวัน และเมื่อไม่นานมานี้ กระทรวงการคลังเพิ่งเปิดเผยข้อมูลสถิติการนำเข้า - ส่งออกประจำเดือนมี.ค. พบว่าตัวเลขการนำเข้าเครื่องจักรกลของผู้ประกอบการเติบโตขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การลงทุนของผู้ประกอบการในปีนี้ จะคงอยู่ในระดับมาตรฐานที่น่าพึงพอใจ

โดยภาพรวม นายเจิ้งเจินเม่าเห็นว่า บรรยากาศอึมครึมสลายตัวออกไปแล้ว ภาวะเศรษฐกิจไม่ได้ย่ำแย่มากเท่าปลายปีที่แล้ว ดังนั้นหน่วยงานพยากรณ์เศรษฐกิจจึงปรับเปลี่ยนมุมมองต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไต้หวันไปในทิศทางที่ดีขึ้น สำหรับจุดยืนของ NDC แล้ว จะยังคงจับตาตัวเลขเศรษฐกิจอย่างละเอียดต่อไป และพยายามขจัดตัวแปรที่ไม่ส่งผลดีกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดเสถียรภาพในการขยายตัวทางเศรษฐกิจต่อไป