เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ปธน.ไช่ฯ (ขวา) ได้ให้การต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่ที่เป็นเสมือนคลังสมองของสหรัฐฯ จากหน่วยงานCNAS ที่รับผิดชอบโครงการด้านความมั่นคงของคนรุ่นใหม่ (NextGen) พร้อมจับมือแสดงการต้อนรับกับ Mr. Richard Fontaine (ซ้าย) ประธานบริหารหน่วยงาน CNAS ณ ทำเนียบประธานาธิบดี สำนักข่าว CNA วันที่ 25 เม.ย. 62

สำนักข่าว CNA วันที่ 25 เม.ย. 62

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน แห่งสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้แถลงว่า การที่ไต้หวันได้รับผลกระทบจากข้อมูลและข่าวสารที่เป็นเท็จ ทำให้รู้สึกได้ว่าประเทศมหาอำนาจใช้วิถีทางแห่งสิทธิเสรีภาพ มาทำลายความเป็นเสรีภาพ อันถือภัยคุกคามต่อระบอบประชาธิปไตยทั่วโลกอย่างรุนแรง ปธน.ไช่ฯ จึงได้เรียกร้องให้หน่วยงานด้านความมั่นคงแห่งชาติ เร่งดำเนินการวิเคราะห์ในเชิงลึก และคิดหาวิธีป้องกันและปราบปรามภัยดังกล่าวโดยเร็ว

 

เมื่อเช้าวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา ปธน.ไช่ฯ ได้ให้การต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่ที่ถือเป็นคลังสมองของสหรัฐฯ จากหน่วยงาน Center for a New American Security (CNAS) ที่รับผิดชอบดำเนินโครงการด้านความมั่นคงของคนรุ่นใหม่ (NextGen) นอกจากจะแสดงความยินดีต้อนรับต่อการมาเยือนของคณะฯ แล้ว ปธน.ไช่ฯ ยังกล่าวอีกว่า ช่วงขวบปีที่ผ่านมานี้ ความสัมพันธ์ของไต้หวัน – สหรัฐฯ นับวันยิ่งมีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น เชื่อว่าทุกคนคงรับรู้และสัมผัสได้ โดยเฉพาะในเดือนนี้ที่ถือเป็นวาระครบรอบ 40 ปีแห่งการบัญญัติกฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน ซึ่งในช่วงหลายอาทิตย์ที่่ผ่านมา ปธน.ไช่ฯ ได้ให้การต้อนรับคณะพันธมิตรจากสหรัฐฯ ที่เดินทางมาเยือนไต้หวันเป็นจำนวนไม่น้อย

 

ปธน.ไช่ฯ ชี้ว่า ในช่วงที่ผ่านมานี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ประกาศอนุมัติแผนการขายอาวุธให้กับไต้หวันเป็นครั้งที่ 3 เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางการทหารในเชิงปฏิบัติระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ แน่นอนว่าไม่เพียงแต่จะเป็นการประสานความร่วมมือด้านการทหารเท่านั้น แต่ยังคาดหวังว่า ทั้งสองฝ่ายจะกระชับความร่วมมือและส่งเสริมแลกเปลี่ยนด้านการค้า วัฒนธรรมและศาสนาในเชิงลึกยิ่งขึ้น

 

ปธน.ไช่ฯ ชี้ว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หน่วยงาน CNAS ได้เสนอแผนการล่าสุดสำหรับต่อต้านภัยคุกคามที่มาจากเทคโนโลยีระดับสูงและความมั่นคงแห่งชาติ (Technology and National Security program) รวมถึงได้ศึกษาหาวิธีป้องกันและปราบปรามภัยจากเทคโนโลยีระดับสูง ผ่านช่องทางอันหลากหลายด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะการป้อนข้อมูลข่าวสารเท็จ ที่สามารถแพร่กระจายไปได้อย่างรวดเร็วและส่งผลกระทบในวงกว้าง

 

ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า ไต้หวันได้รับผลกระทบอย่างหนักจากข่าวปลอม “ทำให้รู้สึกได้ว่าประเทศมหาอำนาจใช้วิถีทางแห่งสิทธิเสรีภาพ มาทำลายความเป็นเสรีภาพ อันถือภัยคุกคามต่อระบอบประชาธิปไตยทั่วโลกอย่างรุนแรง”

 

ดังนั้น ปธน.ไช่ฯ จึงได้เรียกร้องให้หน่วยงานด้านความมั่นคงแห่งชาติ ดำเนินการวิเคราะห์ในเชิงลึก และคิดหาวิธีป้องกันและปราบปรามภัยคุกคามและการโจมตีจากเทคโนโลยีระดับสูงอย่างเร่งด่วน
 

ปธน.ไช่ฯ ยังกล่าวอีกว่า เมื่อปีที่แล้วไต้หวันและสหรัฐฯ ได้ร่วมมือกันภายใต้กรอบความร่วมมือ GCTF (Global Cooperation and Training Framework) ในการจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ ในหัวข้อ “Defending Democracy through Media Literacy” เพื่อช่วยให้สื่อมวลชนได้เข้าใจการวิเคราะห์ข้อเท็จจริงของข่าวอย่างรู้เท่าทัน อันจะเป็นการช่วยปกป้องประชาธิปไตย และทำให้ทั้งไต้หวันและสหรัฐฯ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการในการรับมือกับข้อมูลข่าวสารปลอมของทั้งสองฝ่ายด้วย