ค่ายฝึกอบรมนานาชาติเพื่อการป้องกันวัณโรคดื้อยา ภายใต้กรอบความร่วมมือ GCTF จัดขึ้นที่กรุงไทเป แสดงถึงความพยายามของไต้หวันในการสร้างเครือข่ายป้องกันโรคระบาดให้กับภูมิภาค

กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน(ไต้หวัน) วันที่ 30 เม.ย. 62

เพื่อร่วมช่วยเหลือป้องกันวัณโรคดื้อยาในประเทศแถบภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก และขานรับวัตถุประสงค์ของการประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) ในการยับยั้งและขจัดวัณโรคให้หมดไป กระทรวงการต่างประเทศและกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) พร้อมด้วยสถาบันอเมริกาในไต้หวัน สำนักงานไทเป (AIT Taipei Office) และสมาคมแลกเปลี่ยนระหว่างไต้หวัน – ญี่ปุ่น ได้ร่วมกันวางแผนจัดค่ายอบรมนานาชาติเพื่อการป้องกันวัณโรคดื้อยา(International Workshop on the Programmatic Management of Drug-Resistant Tuberculosis) ภายใต้กรอบความร่วมมือ Global Cooperation and Training Framework (GCTF) ระหว่างวันที่ 30 เม.ย. - 3 พ.ค. ณ กรุงไทเป พร้อมเชิญเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญจากประเทศกัมพูชา อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มองโกเลีย ปาปัวนิวกินี ปากีสถาน ไทยและเวียดนาม เข้าร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการป้องกันโรคระบาดด้วย

 

พิธีเปิดค่ายฝึกอบรมนานาชาติดังกล่าว จัดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 เม.ย. โดยได้เชิญรองประธานาธิบดีเฉินเจี้ยนเหริน แห่งสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และ Tom Price อดีตรมว.สาธารณสุข สหรัฐฯ ขึ้นกล่าวปราศรัยและร่วมกันเป็นสักขีพยานความร่วมมือด้านการแพทย์สาธารณสุขของประเทศที่มีอุดมการณ์คล้ายคลึงกันอย่างไต้หวัน สหรัฐฯและญี่ปุ่น อีกทั้งร่วมกันกระตุ้นการพัฒนาและสร้างสมรรถนะในด้านที่เกี่ยวข้องให้แก่ภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก

ค่ายฝึกอบรมนานาชาติเพื่อการป้องกันวัณโรคดื้อยา เป็นกิจกรรมภายใต้กรอบความร่วมมือ GCTF ครั้งที่18นับตั้งแต่มีการจัดตั้งกรอบความร่วมมือนี้ขึ้น เมื่อเดือนมิ.ย. ปี 2015 เป็นต้นมา และเป็นความร่วมมือเพื่อจัดกิจกรรมด้านสาธารณสุข ระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ ครั้งที่ 6 ต่อเนื่องมาจากความร่วมมือด้านการป้องกันการระบาดของไวรัสซิกา ไข้เลือดออกเดงกีและเชื้อเอนเทอโรไวรัส ซึ่งกิจกรรมด้านสาธารณสุขคิดเป็นสัดส่วน 1ใน 3 ของกิจกรรมทั้งหมด แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จด้านการแพทย์สาธารณสุขของไต้หวัน ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลก ไต้หวันยินดีที่จะบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วนรวม ในอนาคตยังจะร่วมมือกับประเทศที่มีอุดมการณ์คล้ายคลึงกันอย่างสหรัฐฯและญี่ปุ่น ผลักดันการป้องกันโรคระบาดเพื่อเป็นหลักประกันด้านสุขภาพและความผาสุกของมวลมนุษย์ในภูมิภาคและทั่วโลกต่อไป