
ปธน.ไช่ฯ ย้ำชัด ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ แน่นแฟ้นที่สุด หลังสหรัฐฯ ยืนยันหนักแน่นต่อคำมั่้นที่ให้ไว้กับไต้หวัน
สำนักข่าวCNA วันที่ 1 พ.ค. 62
เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติผ่าน “ร่างญัตติตรวจสอบการดำเนินการตามกฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวันที่สหรัฐฯได้ให้คำมั่นต่อไต้หวัน” (H.Res. 273) โดยประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) แถลงว่า การผ่านร่างญัตติฉบับนี้สะท้อนถึงจุดยืนที่สำคัญของสภาคองเกรสสหรัฐฯ และเป็นการแสดงให้เห็นถึง สถานภาพปัจจุบันของความสัมพันธ์ ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ที่แน่นแฟ้นที่สุด
หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติผ่าน “ร่างญัตติตรวจสอบการดำเนินการตามกฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวันที่สหรัฐฯได้ให้คำมั่นต่อไต้หวัน” เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ที่ผ่านมา วุฒิสภาสหรัฐฯ ก็ได้มีมติเห็นชอบผ่านร่างญัตติฯ ดังกล่าวอย่างเป็นเอกฉันท์ ในค่ำวันที่ 30 เม.ย.ตามเวลาท้องถิ่น
ร่างญัตติฉบับนี้นอกจากจะเป็นการยืนยันว่า กฎหมายความความสัมพันธ์ไต้หวัน (TRA) และหลักประกัน 6ประการ (Six Assurances) เป็นแกนหลักของความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯแล้ว ยังต้องการกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลทุกระดับชั้นของทั้งไต้หวันและสหรัฐฯ เดินทางเยือนซึ่งกันและกัน โดยยึดตามกฎหมายการเดินทางไต้หวัน (Taiwan Travel Act) อีกทั้งเป็นการยืนยันว่าประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ จะดำเนินการอนุมัติขายอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ไต้หวันอย่างเป็นประจำ ตามกฎข้อบัญญัติ พร้อมกันนี้ยังเรียกร้องให้ รมว.กต.สหรัฐฯ สนับสนุนไต้หวันให้เข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนแสวงหาและขยายโอกาสทางการค้าระดับทวิภาคิในเชิงลึกกับไต้หวันอีกด้วย
ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า การผ่านมติ “ร่างญัตติตรวจสอบการดำเนินการตามกฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวันที่สหรัฐฯได้ให้คำมั่นต่อไต้หวัน” ในครั้งล่าสุดนี้ ประจวบกับเป็นช่วงวาระครบรอบ 40 ปีกฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน สะท้อนถึงจุดยืนที่สำคัญของสภาคองเกรสสหรัฐฯ
ปธน.ไช่ฯ ชี้ว่า การผ่านร่างญัตติฯ ฉบับดังกล่าว เป็นการยืนยันอย่างหนักแน่นถึงกฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวันและหลักประกัน 6 ประการ และต้องการกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลทุกระดับชั้นของทั้งไต้หวันและสหรัฐฯ เดินทางเยือนซึ่งกันและกัน โดยยึดตามกฎหมายการเดินทางไต้หวัน อีกทั้งหวังว่าจะมีการขายอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ไต้หวันอย่างเป็นประจำ ตลอดจนส่งเสริมให้ไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศ และได้รับการสนับสนุนมากยิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเน้นย้ำให้เห็นถึง ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ในปัจจุบัน ที่แน่นแฟ้นที่สุด
ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า ความพยายามของรัฐบาลไต้หวันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ก็เพื่อต้องการให้สหรัฐฯ และประชาคมโลกร่วมประสานพลังกับไต้หวัน เพื่อร่วมกันปกป้องค่านิยมสากล และร่วมเป็นหุ้นส่วน ในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพให้เกิดแก่ภูมิภาค ซึ่งถือเป็นเป้าหมายสูงสุด ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ หลายประเทศในภูมิภาค ต่างลงความเห็นว่าไต้หวันเป็นหุ้นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ และเชื่อมั่นในความยืนหยัดแน่วแน่ของไต้หวันเป็นอย่างยิ่ง