คูหาชานมไข่มุกในมหกรรม Taiwan Expo ที่อินเดีย ดึงดูดความสนใจจากผู้เข้าชมอย่างล้นหลาม

สำนักข่าว CNA วันที่ 15 พ.ค. 62

TAIWAN EXPO 2019 in INDIA เปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นปีที่ 2 ที่จัดขึ้น ณ กรุงนิวเดลี โดยการวางแผนงานในปีนี้ มี 4 จุดไฮไลท์ที่แตกต่างไปจากปีที่แล้ว ซึ่งประกอบไปด้วยคูหาอีคอมมเมิร์ซข้ามพรมแดน คูหาอุตสาหกรรมการเกษตร คูหาภาพลักษณ์อุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์และคูหาชานมไข่มุก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการปฏิสัมพันธ์เชิงลึกกับประชาชนชาวอินเดีย

มหกรรม Taiwan Expo รอบแรกในปีนี้ ได้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 – 18 พ.ค. ณ กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย โดยได้เชิญผู้ประกอบการไต้หวันกว่า130 บริษัทเดินทางไปร่วมจัดแสดงสินค้าและบริการ ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 230 บูธ โดยจัดขึ้นภายใต้ 6 หัวข้อหลักซึ่งประกอบไปด้วย การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและการศึกษา เมืองอัจฉริยะ การแพทย์อัจฉริยะ ความต้องการบริโภคภายในประเทศ เทคโนโลยีการเกษตรและพลังงานสีเขียว โดยเป็นการจัดแสดงภายใน 10 คูหาและ4 โซนอุตสาหกรรม

สภาพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ (TAITRA) ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดงานแถลงว่า ปีที่แล้วได้จัดมหกรรม Taiwan Expo ที่อินเดียเป็นครั้งแรก ซึ่งสามารถดึงดูดผู้เข้าชม 18,000 คน สร้างโอกาสทางธุรกิจกว่า 1.2 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ยังได้จัดทำการสำรวจความพึงพอใจต่องานมหกรรม Taiwan Expo ของผู้เข้าชม ซึ่งพบว่ามีสัดส่วนผู้เข้าชมที่พึงพอใจ สูงถึงร้อยละ 95

TAITRAชี้ว่า อินเดียกำลังเตรียมก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ด้วยตลาดและจำนวนประชากรในประเทศ การจ่ายเงินผ่านเครื่องมือสื่อสารอัจฉริยะ และการพัฒนาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในอนาคตจะเกิดการพัฒนาอย่างไร้ขีดจำกัด คูหาอุตสาหกรรมการเกษตรไต้หวัน จัดขึ้นเพื่อขานรับกับเป้าหมายโครงสร้างแผนเศรษฐกิจของนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียที่ระบุไว้ว่า ภายในปี 2022 จะยกระดับรายได้เกษตรกรให้เพิ่มขึ้นเท่าตัว โดยเล็งเป้าไปที่การยกระดับเทคนิคการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร การเพิ่มเครื่องจักรกลเข้ามาช่วยทางการเกษตร ในงานครั้งนี้ คูหาภาพลักษณ์อุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ของนิคมวิทยาศาสตร์ซินจู๋ (Hsinchu Science Park, HSP) ซึ่งมีสำนักงานบริหารนิคมวิทยาศาสตร์ซินจู๋ เป็นผู้นำในการจัดแสดงและประสานความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) กับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในทางการแพทย์ เพื่อช่วยอินเดียยกระดับเทคโนโลยีทางการแพทย์ให้สูงขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น อินเดียยังเป็นแห่งแรกของการเปิดตัวคูหาชานมไข่มุก เพื่อให้ผู้เข้าชมชาวอินเดียที่ชื่นชอบการดื่มชา ได้ลองลิ้มรสวัฒนธรรมชาของไต้หวัน มหกรรมครั้งนี้ยังได้ร่วมมือกับสมาคมวัฒนธรรมจงหัว (The General Association of Chinese Culture, GACC) ผลักดัน 6 ประสาทสัมผัสไต้หวัน 2.0 ให้ผู้เข้าชมรู้จักไต้หวันผ่านการฟัง การดมกลิ่นและการรับรส นอกจากนี้ผู้เข้าชมยังสามารถร่วมสนุกไปกับการท่องเที่ยวไต้หวันในหนึ่งวัน ผ่านการรับชมภาพจำลอง โดยเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม (AR) เพื่อสัมผัสกับทัศนียภาพที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของไต้หวันอาทิ ตึกไทเป 101หรือ Mr. Brown Avenue เมืองไถตง เป็นต้น