ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
สาธารณสุขฯ ไต้หวันร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเจนีวาทำงานวิจัยด้านเวชศาสตร์ภัยพิบัติ
2019-05-24

เมื่อวันที่ 22 พ.ค. นายเฉินสือจง (คนกลางแถวหน้า) รมว.สาธารณสุขฯ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงกับโรงพยาบาล HUG ในเครือมหาวิทยาลัยเจนีวา มุ่งเน้นวิจัยด้านเวชศาสตร์ภัยพิบัติ โดยมี Mr. Francois Chappuis (ที่2จากขวาแถวหน้า) คณบดีคณะเวชศาสตร์ชุมชนและด้านบริการสุขภาพปฐมภูมิเป็นผู้ให้การต้อนรับ สำนักข่าว CNA วันที่ 22 พ.ค. 62

เมื่อวันที่ 22 พ.ค. นายเฉินสือจง (คนกลางแถวหน้า) รมว.สาธารณสุขฯ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงกับโรงพยาบาล HUG ในเครือมหาวิทยาลัยเจนีวา มุ่งเน้นวิจัยด้านเวชศาสตร์ภัยพิบัติ โดยมี Mr. Francois Chappuis (ที่2จากขวาแถวหน้า) คณบดีคณะเวชศาสตร์ชุมชนและด้านบริการสุขภาพปฐมภูมิเป็นผู้ให้การต้อนรับ สำนักข่าว CNA วันที่ 22 พ.ค. 62

สำนักข่าว CNA วันที่ 22 พ.ค. 62

 

เมื่อวันที่ 22 พ.ค. นายเฉินสือจง รมว.สาธารณสุขและสวัสดิการสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และโรงพยาบาลในเครือมหาวิทยาลัยเจนีวา (Geneva University Hospitals, HUG) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการวิจัยเวชศาสตร์ภัยพิบัติ และการเข้ามีส่วนร่วมในการบรรเทาภัยพิบัติในภูมิภาค ซึ่งโรงพยาบาล HUG หวังว่าจะมีโอกาสสร้างความร่วมมือกับไต้หวันให้มากขึ้นในอนาคต


 

ช่วงเช้าวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา นายเฉินสือจงนำคณะทำงานเพื่อผลักดันให้ไต้หวันมีส่วนร่วมในองค์การอนามัยโลก เดินทางเยือนโรงพยาบาล HUG โดย Mr. Francois Chappuis คณบดีของคณะเวชศาสตร์ชุมชนและการบริการสุขภาพปฐมภูมิ ทำหน้าที่เป็นผู้ให้การต้อนรับในการมาเยือนครั้งนี้


 

Mr. Francois Chappuis กล่าวว่าภัยพิบัติเป็นสิ่งที่ไร้พรมแดน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับทั้งความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก ความขัดแย้งจนต่อสู้กันด้วยอาวุธที่เพิ่มมากครั้งขึ้นเรื่อยๆ รวมไปจนถึงการแพร่กระจายของโรคระบาดต่างๆ ความพร้อมในการรับมือทางภัยพิบัติและสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงจำเป็นต้องประสานความช่วยเหลือร่วมจากหลายฝ่าย เพื่อกระชับความร่วมมือให้แนบแน่นมากยิ่งขึ้น อีกทั้งต้องร่วมแบ่งปันประสบการณ์เพื่อเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม โดยเฉพาะในส่วนของการให้ความช่วยเหลือทางมนุุษยธรรม ซึ่งไม่สมควรได้รับผลกระทบหรือถูกชี้นำด้วยเหตุผลทางการเมือง ทั่วโลกจำเป็นต้องเร่งสร้างกลไกการรับมือกับภัยพิบัติในระดับภูมิภาค และจัดตั้งระบบความร่วมมือช่วยเหลือฉุกเฉินโดยเร็ว


 

นายเฉินสือจงกล่าวว่า ไต้หวันไม่ควรถูกกีดกันออกจากการมีส่วนร่วมในสิ่งต่างๆ เหล่านี้ การประสานความร่วมมือระหว่างไต้หวันกับโรงพยาบาล HUG และองค์กรในต่างประเทศ ไม่เพียงแต่เป็นการเพิ่มศักยภาพทางการแพทย์ไต้หวัน ให้พร้อมต่อการรับมือกับภัยพิบัติ แต่ยังหวังว่าจะสามารถสร้างคุณูปการให้กับประชาคมโลกด้วยวิธีและหนทางที่ต่างออกไป เฉกเช่นเดียวกันกับคำประกาศในการปกป้องสุขภาพของมวลมนุษยชาติที่กลุ่มผู้เรียกร้อง ได้ร่วมกันเรียกร้องต่อองค์การอนามัยโลกในปีนี้ ว่าไต้หวันช่วยได้ ดั่งสโลแกนที่ว่า Health for All, Taiwan Can Help


 

กระทรวงสาธารณสุขฯ ไต้หวันแถลงว่า บันทึกข้อตกลง (MOU) ฉบับนี้ มีเนื้อหาที่ประกอบไปด้วย การให้ความช่วยเหลือไต้หวันในการจัดตั้งทีมแพทย์ด้านบรรเทาภัยพิบัติฉุกเฉิน ที่ได้มาตรฐานในระดับสากล การฝึกอบรมทีมแพทย์ฉุกเฉินให้มีความพร้อมทางด้านศักยภาพมากขึ้น การช่วยเหลือในการพัฒนาด้านเวชศาสตร์ภัยพิบัติและสาขาที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการสุขภาพปฐมภูมิ ตลอดจนเสริมสร้างการวิจัยทางวิชาการและการวิเคราะห์ข้อมูลด้านเวชศาสตร์ภัยพิบัติ