ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
เติ้งเจิ้นจง รมว.ประจำสภาบริหารไต้หวันเผย พร้อมเปิดเจรจาและลงนามข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ตลอดเวลา
2019-06-12

นายเติ้งเจิ้นจง รมว. ประจำสภาบริหาร สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) แถลงในกรณีการเจรจาและลงนามข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ว่า ตนได้ตั้งมั่นอยู่ในความคิดแง่บวกและจะเตรียมการให้พร้อมเสมอ หากโอกาสมาถึง ก็จะเร่งดำเนินการโดยทันที หากแต่ไม่คาดหวังที่จะเห็นทั้งสองฝ่าย ตั้งเงื่อนไขก่อนเปิดการเจรจากัน สำนักข่าว CNA วันที่ 11 มิ.ย. 62

นายเติ้งเจิ้นจง รมว. ประจำสภาบริหาร สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) แถลงในกรณีการเจรจาและลงนามข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ว่า ตนได้ตั้งมั่นอยู่ในความคิดแง่บวกและจะเตรียมการให้พร้อมเสมอ หากโอกาสมาถึง ก็จะเร่งดำเนินการโดยทันที หากแต่ไม่คาดหวังที่จะเห็นทั้งสองฝ่าย ตั้งเงื่อนไขก่อนเปิดการเจรจากัน สำนักข่าว CNA วันที่ 11 มิ.ย. 62

สำนักข่าว CNA วันที่ 10 มิ.ย. 62

 

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. นายเติ้งเจิ้นจง รมว. ประจำสภาบริหาร สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) แถลงว่า กรณีการเจรจาและลงนามข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ นั้น ตนตั้งมั่นอยู่ในความคิดแง่บวกมาโดยตลอด และเตรียมพร้อมทุกเมื่อ หากแต่ไม่คาดหวังที่จะเห็นทั้งสองฝ่าย ตั้งเงื่อนไขก่อนเปิดการเจรจากัน


 

นายเติ้งเจิ้นจงได้นำคณะตัวแทนนักธุรกิจไต้หวัน 112 คน เดินทางไปเข้าร่วม “การประชุมสุดยอดการลงทุนแห่งสหรัฐ ปี 2019” (Select USA Investment Summit 2019) ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งนับจนถึงปัจจุบัน กลุ่มคณะนักลงทุนไต้หวันถือเป็นกลุ่มตัวแทนที่ใหญ่ที่สุดในงานประชุม ติดต่อกันมาเป็นเวลา 2 ปี โดยนักธุรกิจที่เดินทางไปร่วมการประชุม มาจากอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท อาทิอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ ไปจนถึงอุตสาหกรรมเหล็กกล้า เป็นต้น


 

Mr. Brent Christensen ผู้อำนวยการสถาบันอเมริกาในไต้หวัน (American Institute in Taiwan, AIT) กล่าวขณะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ในงานเลี้ยงอาหารค่ำร่วมกับคณะตัวแทนว่า ในปีนี้เป็นอีกครั้งที่คณะตัวแทนนักธุรกิจไต้หวัน เป็นกลุ่มตัวแทนที่ใหญ่ที่สุดในการประชุม “Select USA” ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึง ไต้หวันได้ดำเนินการตามคำมั่นที่ได้ให้ไว้ต่อสหรัฐฯ ในด้านความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ อย่างเป็นรูปธรรม


 

Mr. Brent Christensen ชี้ว่าการประชุมครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดโอกาสครั้งสำคัญให้นักธุรกิจไต้หวัน ได้นำพาคุณค่าใหม่มาสู่ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันและสหรัฐฯ เพื่อให้ไต้หวันได้มีโอกาสพิสูจน์ตนเองว่า สามารถเป็นหุ้นส่วนที่ดีที่สุดในด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และตนรู้สึกเป็นเกียรติมาก ที่ได้นำคณะตัวแทนไต้หวัน เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้


 

หากกล่าวถึงความเป็นไปได้ในการเจรจาและลงนามข้อตกลง FTA นายเติ้งเจิ้นจงกล่าวว่า ตนได้ตั้งมั่นอยู่ในความคิดแง่บวกเสมอ หากวันใดที่ไต้หวัน – สหรัฐฯ สามารถร่วมลงนามข้อตกลง FTA ได้สำเร็จ อาจจะนับได้ว่า เป็นตัวอย่างยอดเยี่ยมที่ถือเป็นมาตรฐานสูงสุดก็ว่าได้


 

สำหรับปัญหาที่ว่า สหรัฐจะตั้งเงื่อนไขก่อนเปิดการเจรจาหรือไม่ ซึ่งหมายรวมถึง การเปิดให้นำเข้าเนื้อวัวและเนื้อหมูสหรัฐฯ เข้าสู่ไต้หวัน นายเติ้งเจิ้นจงกล่าวว่า ไม่คาดหวังที่จะเห็นทั้งสองฝ่าย ตั้งเงื่อนไขก่อนเปิดการเจรจากัน


 

เมื่อกล่าวถึงสงครามการค้าจีน – สหรัฐฯ นายเติ้งเจิ้นจงกล่าวว่า นักธุรกิจไต้หวันบางส่วนจำเป็นต้องรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดตามมาล่วงหน้า โดยวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ ตลอดจนย้ายฐานการผลิตบางส่วนออกจากจีน เนื่องจากการที่สหรัฐฯ ได้ประกาศเพิ่มอัตราภาษี เป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้


 

อย่างไรก็ดี นายเติ้งเจิ้นจงกล่าวปิดท้ายว่า วิกฤตก็คือโอกาส ต้องเตรียมการให้พร้อม บางทีจุดพลิกผันในครั้งนี้ อาจจะเป็นการส่งเสริมให้ธุรกิจไต้หวันขยายไปยังตลาดนานาชาติได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้นก็ได้ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการยกระดับอุตสาหกรรม ในส่วนของอุตสาหกรรมไต้หวันสามารถเลือกได้ว่า จะย้ายกลับมายังถิ่นฐานบ้านเกิดของตน หรือย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือสหรัฐฯ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ต้องพึงระลึกไว้เสมอว่า ยิ่งเราเตรียมการพร้อมมากเท่าไหร่ การย้ายฐานการผลิตก็จะยิ่งราบรื่นมากขึ้นเท่านั้น