ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
ปธน.ไช่ฯ ย้ำ จะกระชับความร่วมมือกับสหรัฐฯ ต่อไป เพื่อรับมือกับอันตรายและความท้าทายในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก
2019-06-13

ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน (ขวา) ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทนนักวิชาการ “ Project 2049 Institute” และได้ร่วมสนทนากับ Mr. Richard Armitage (ซ้าย) อดีตรมช.ต่างประเทศสหรัฐฯ อย่างเป็นมิตร สำนักข่าว CNA วันที่ 12 มิ.ย. 62

ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน (ขวา) ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทนนักวิชาการ “ Project 2049 Institute” และได้ร่วมสนทนากับ Mr. Richard Armitage (ซ้าย) อดีตรมช.ต่างประเทศสหรัฐฯ อย่างเป็นมิตร สำนักข่าว CNA วันที่ 12 มิ.ย. 62

สำนักข่าว CNA วันที่ 12 มิ.ย. 62

 

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทนนักวิชาการ “Project 2049 Institute” ที่ Mr. Richard Armitage อดีต รมช.ต่างประเทศสหรัฐฯ เป็นผู้นำคณะเดินทางมาเยือนไต้หวัน พร้อมกล่าวว่า จะกระชับความร่วมมือกับสหรัฐฯ อย่างแนบแน่นต่อไป ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วนระหว่างกันในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกที่มีเสรีภาพและเปิดกว้าง เพื่อร่วมกันรับมือกับอันตรายและความท้าทายในภูมิภาคฯ


 

เพื่อให้ประชาชนเข้าใจได้ง่ายขึ้น ปธน.ไช่ฯ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก แนะนำ “ Project 2049 Institute” ว่าเป็นคลังสมองที่สำคัญของสหรัฐฯ ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือน ม.ค. ปี 2008 และประสานความร่วมมืออันแนบแน่นกับไต้หวันเสมอมา รวมถึงจัดเวทีสัมมนาในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับไต้หวัน เผยแพร่ผลงานวิจัย ระดมผู้เชี่ยวชาญทางวิชาการของสหรัฐฯ รวมตัวกันเดินทางเยือนไต้หวัน และต้อนรับคณะตัวแทนไต้หวันอย่างเป็นมิตร อีกทั้งยังช่วยทำให้ทั่วโลกรู้จักไต้หวันมากขึ้น โดยการหยิบยกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับไต้หวันมาร่วมอภิปรายในเวทีระดับภูมิภาคและระดับโลก ตลอดจนพยายามทุกวิถีทางที่จะช่วยเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันในเวทีสากล


 

ปธน.ไช่ฯ ชี้ว่า เมื่อครั้งที่ Mr. Richard Armitage ยังดำรงตำแหน่งเป็น รมช. กต.สหรัฐฯ ได้สนับสนุนความร่วมมือระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ในทุกรายการ อีกทั้งสร้างคุณูปการโดยผลักดันภารกิจที่เกี่ยวข้องกับไต้หวัน – สหรัฐฯ อย่างมากมาย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาคนสำคัญของภารกิจด้านการต่างประเทศสหรัฐฯ


 

ปธน.ไช่ฯ กล่าวขณะให้ปราศรัยว่า ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 40 ปีแห่งกฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน ทั้งไต้หวันและสหรัฐฯ ต่างจัดกิจกรรมต่างๆ ขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมฉลองสัมพันธภาพอันดีต่อกันมาเป็นระยะเวลานาน สหรัฐฯ เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจการค้าที่สำคัญที่สุดของไต้หวัน และมีการแลกเปลี่ยนและร่วมมือกันอย่างแนบแน่น ทั้งในด้านความมั่นคงปลอดภัย เศรษฐกิจและด้านอื่นๆ อีกมากมาย


 

นอกจากนี้ปธน.ไช่ฯ ยังกล่าวอีกว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศอนุมัติขายอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ไต้หวันถึง 3 ครั้ง หวังช่วยไต้หวันเสริมสร้างแสนยานุภาพด้านความมั่นคงแห่งชาติ และเมื่อเดือนที่แล้ว Mr. Alex Azar รมว.สาธารณสุขสหรัฐฯ ได้เป็นกระบอกเสียงเพื่อสนับสนุนให้ไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในการประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) สิ่งเหล่านี้ต่างเป็นบทพิสูจน์ว่าสหรัฐฯ สนับสนุนไต้หวันอยู่เสมอ


 

ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ณ ปัจจุบัน อยู่ในสถานะที่ดีที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา” ภายใต้ความพยายามของทั้งสองฝ่าย หน่วยงานของไต้หวันที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการประสานงานระหว่างไต้หวันและสหรัฐฯ ได้เปลี่ยนชื่อจาก “คณะกรรมการประสานงานกิจการอเมริกาเหนือ” เป็น “คณะกรรมการกิจการสหรัฐอเมริกาแห่งไต้หวัน”


 

ปธน.ไช่ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ได้รับการสนับสนุนอย่างเหนียวแน่นจากสหรัฐฯ โดยไม่มีการแบ่งแยกฝักฝ่ายและพรรคการเมือง ปธน.ไช่ฯ ได้กล่าวขอบคุณ มิตรไมตรีจากมิตรสหายอย่าง Mr. Richard Armitage และคณะตัวแทนที่ร่วมติดตามมาเยือนในครั้งนี้ ที่ได้แสดงความห่วงใยต่อความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ไต้หวันจะกระชับความร่วมมือกับสหรัฐฯ อย่างแนบแน่นต่อไป ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วนระหว่างกันในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกที่มีเสรีภาพและเปิดกว้าง เพื่อร่วมกันรับมือกับอันตรายและความท้าทายของภูมิภาค


 

Mr. Richard Armitage กล่าวว่า การเดินทางมาเยือนไต้หวันครั้งนี้ ได้มองเห็นถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องในการปกป้องเสรีภาพ การเปิดกว้างและประชาธิปไตย ของประชาชนชาวไต้หวันเกือบ 24 ล้านคน สิ่งเดียวที่คณะตัวแทนคาดหวังจากประชาชนชาวไต้หวันก็คือ คาดหวังให้ประชาชนชาวไต้หวันกำหนดทิศทางอนาคตด้วยตนเอง ไม่โอนเอียงไปกับผลกระทบจากภายนอก