ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
การประชุมหารือด้านอุตสาหกรรมระหว่างไต้หวัน-EU ครั้งที่ 5 โฟกัสที่นโยบายด้านอุตสาหกรรมและความร่วมมือทางดิจิทัล
2019-06-27

การประชุมหารือด้านอุตสาหกรรมระหว่างไต้หวันและ EU ครั้งที่ 5 โฟกัสที่นโยบายด้านอุตสาหกรรมและความร่วมมือทางดิจิทัล กรมการค้าระหว่างประเทศสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) วันที่ 26 มิ.ย. 62

การประชุมหารือด้านอุตสาหกรรมระหว่างไต้หวันและ EU ครั้งที่ 5 โฟกัสที่นโยบายด้านอุตสาหกรรมและความร่วมมือทางดิจิทัล กรมการค้าระหว่างประเทศสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) วันที่ 26 มิ.ย. 62

กรมการค้าระหว่างประเทศสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) วันที่ 26 มิ.ย. 62

 

นายเซิ่นหรงจิน รมว.กระทรวงเศรษฐการสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้นำคณะกรรมการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สภาบริหารไต้หวัน (Board of Science and Technology, Executive Yuan) พร้อมด้วยตัวแทนจากกรมต่างๆ ของไต้หวัน อาทิ กรมอุตสาหกรรม กรมพลังงาน กรมการค้าระหว่างประเทส และสำนักงานเทคโนโลยีทางอุตสาหกรรม เดินทางเยือนประเทศเบลเยี่ยม เพื่อร่วมเป็นประธานในเวทีการประชุมหารือเพื่อแลกเปลี่ยนด้านอุตสาหกรรมระหว่างไต้หวัน – สหภาพยุโรป (EU) ครั้งที่ 5 (5th EU-Taiwan Industrial Policy Dialogue) ร่วมกับ Mr. Timo Pesonen ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารของคณะกรรมาธิการยุโรป (DG GROW) ซึ่งการประชุมดังกล่าวถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ที่ผ่านมา ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม โดยมีจุดประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนทิศทางการพัฒนานโยบายด้านอุตสาหกรรมของสองประเทศ และแสวงหาโอกาสความร่วมมือ และกระชับความสัมพันธ์ด้านอุตสาหกรรมในเชิงลึกต่อไป


 

ประเด็นหลักของการประชุมหารือด้านอุตสาหกรรมครั้งนี้ คือ “เดินหน้าสู่ระบบอัจฉริยะ นวัตกรรมและการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน” โดยในที่ประชุมได้ร่วมแลกเปลี่ยนใน 4 หัวข้อหลัก อันได้แก่ นโยบายดิจิทัลและด้านนวัตกรรม นวัตกรรมโอกาสทางธุรกิจ เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอวกาศ


 

รมว.เซิ่นฯ แถลงในที่ประชุมว่า นับวันเศรษฐกิจโลกยิ่งมีอัตราความเสี่ยงสูงขึ้นทุกที อันจะส่งผลให้เกิดการปรับโครงสร้างใหม่ของห่วงโซ่อุปทานโลก ไต้หวันและ EU ต่างเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นมาเป็นเวลายาวนาน จึงเห็นว่าทั้งสองฝ่ายควรต้องฉกฉวยโอกาสไปพร้อมๆ กัน ซึ่งรวมไปถึงการร่วมลงนามข้อตกลงการลงทุนสองฝ่าย (BIA) เพื่อกระชับความสัมพันธ์เชิงลึกด้านอุตสาหกรรมและการลงทุน นอกจากนี้ โครงการ “ยุโรปดิจิทัล” (Digital Europe programme) และ “เศรษฐกิจหมุนเวียน” ที่EU ดำเนินการผลักดัน เพื่อขานรับกับการเติบโตแบบก้าวกระโดดของเศรษฐกิจดิจิทัลและความตระหนักในสิ่งแวดล้อมของหมู่มวลมนุษยชาติ ต่างก็สอดคล้องกับแนวคิดและจุดประสงค์ของ “แผนปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่นวัตกรรม 5+2” อันเป็นหนึ่งในนโยบายของไต้หวัน จึงขอให้ทั้งสองฝ่าย เสริมสร้างความร่วมมือทางอุตสาหกรรม ผ่านเวทีการประชุมหารือด้านอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องต่อไป


 

โดยผอ. Pesonen เผยว่า ช่วงไม่กี่ปีมานี้ กระแสลัทธิคุ้มครองการค้าระหว่างประเทศได้แพร่สะพัดไปทั่วโลก ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่นับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น จึงทำให้การประชุมหารือด้านอุตสาหกรรม ระหว่างไต้หวัน – EU อย่างเป็นประจำ ยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น โดยหวังว่าจะร่วมมือกับไต้หวันและพันธมิตรนานาชาติในการรักษาความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศ รวมถึงประสานกำลังผลักดันแผนปฏิรูปองค์การการค้าโลก (WTO) เพื่อคงไว้ซึ่งกลไกการทำงานในระบบการค้าแบบพหุภาคีต่อไป และความสัมพันธ์ทางความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมระหว่างไต้หวัน – EU จะแนบแน่นยิ่งขึ้น ผ่านความพยายามร่วมกันของทั้งสองฝ่าย ท้ายสุดนี้ ทาง EU ยินดีที่จะเห็นไต้หวันคงไว้ซึ่งการเปิดกว้างทางความคิด และลงมือทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาคมโลกเช่นนี้ต่อไป เพื่อกระชับความสัมพันธ์เชิงลึกระหว่างกันให้แนบแน่นมากขึ้น


 

การประชุมหารือในครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะประสานความร่วมมือ ภายใต้พื้นฐานอันมั่นคงที่มีอยู่เดิม อาทิ โครงการเครือข่าย 5G การขยายความร่วมมือกับนานาชาติด้านพลังงานทดแทน ก๊าซธรรมชาติเหลว และจัดการประชุมอภิปรายในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจหมุนเวียน อาทิ ด้านพลาสติก แผงโซลาร์เซลล์ที่เสื่อมสภาพแล้ว และเศษวัสดุจากสิ่งก่อสร้าง นอกจากนี้ยังสามารถขยายการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศในการเกษตรและการพัฒนาอันยั่งยืนด้านอื่นๆ รวมไปถึงการเข้าร่วมกิจการที่เกี่ยวข้องกับ “โคเปอร์นิคัส” ภายใต้โครงการ H 2020 ของ EU ต่อไป