กีฬาเซปักตะกร้อเน้นความเร็วและเทคนิคการแข่งขัน สร้างความสนุกสนานเร้าใจ

กลางเดือนเมษายนของทุกปี ที่นครนิวไทเป ถือเป็นวันหนึ่งที่มีกลิ่นอายความเป็นไทยมากที่สุด ซึ่งก็คืองานประเพณีสงกรานต์และการแข่งขันเซปักตะกร้อ ในปีนี้ (2019) จัดขึ้นเมื่อวันที่ 21 เมษายน และนับเป็นปีที่ 9 แล้ว ณ ลานกว้างหน้าศาลาว่าการนครนิวไทเป ซึ่งได้ดึงดูดแรงงานข้ามชาติในไต้หวันนับหมื่นคนมาร่วมงานฉลองปีใหม่ไทยด้วยความเบิกบานใจ เทศกาลนี้ไม่ใช่ประเพณีดั้งเดิมของไต้หวัน แต่ได้กลายเป็นเอกลักษณ์ใหม่ในนครนิวไทเปไปแล้ว หลังจากที่มีชาวอาเซียนเข้ามาอาศัยมากขึ้น

ชาวไทยถือว่า น้ำเป็นสิ่งบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์

สงกรานต์เป็นประเพณีดั้งเดิมของชาวไทย คล้ายกับตรุษจีนของไต้หวัน สำหรับชาวไทยถือว่าเป็นเทศกาลสำคัญในรอบ 1 ปี คุณอโศก ศรีจันทร์ หัวหน้าภาคภาษาไทย สถานีวิทยุ Radio Taiwan International : Rti เล่าความเป็นมาของวันสงกรานต์ว่า ชาวไทยถือว่าน้ำเป็นองค์ประกอบของสรรพสิ่ง โดยเฉพาะไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม จึงถือว่าน้ำมีความสำคัญต่อชาวไทยและมีความศักดิ์สิทธิ์มาก

การรดน้ำหรือสาดน้ำต่อกันในเทศกาลสงกรานต์ ถือเป็นการอวยพรและขจัดสิ่งเลวร้ายให้หมดไป การจัดกิจกรรมของนครนิวไทเปจึงเป็นการอำนวยพร ซึ่งมีการจัดพิธีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และยังได้อัญเชิญพระพุทธรูปจากวัดหลิงจิ้วซัน (靈鷲山) มาให้ชาวไทยได้สรงน้ำพระ “ตามประเพณีดั้งเดิม พวกเราจะรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ในวันสงกรานต์” คุณอโศก ศรีจันทร์อธิบายว่า การรดน้ำให้ผู้ใหญ่เป็นการแสดงความเคารพและขอขมาต่อความพลาดพลั้งในปีที่ผ่านมา ผู้ใหญ่จะพรมน้ำลงบนศีรษะของผู้น้อยเป็นการอวยพรเช่นกัน

งานประเพณีสงกรานต์เริ่มด้วยพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์

อยู่ไต้หวัน คิดถึงบ้านเกิดในไทย

ชาวไต้หวันมีความโอบอ้อมอารีและมีมิตรไมตรี ส่งผลให้งานสงกรานต์อบอวลไปด้วยความอบอุ่น คุณหลี่ สะใภ้ไต้หวันที่มาจากภาคเหนือของไทยได้ชักชวนญาติมิตรมาร่วมงานสงกรานต์ “ในวันนี้พวกเรามาที่นี่ ได้พบบรรยากาศปีใหม่ของไทย” ก่อนงานเริ่ม เธอและเพื่อนสนิทได้ไปที่เต็นท์บริการเพื่อขอรับคูปองอาหารสำหรับแลกอาหารจากเต็นท์ที่เรียงรายเป็นหน้ากระดาน มีอาหารและขนมไทยๆ หลายอย่างที่ส่งกลิ่นหอมชวนรับประทาน และทั้งหมดใช้คูปองแลกฟรี

สำหรับชาวไทยผู้จากบ้านเกิดมาอยูในต่างแดน ย่อมรู้สึกอร่อยที่สุดเมื่อได้ทานอาหารไทย

อาหารไทยดี ระบบประกันสุขภาพไต้หวันดีกว่า

คุณหูเหวินเสวี่ย (胡文雪) ซึ่งมากับคุณหลี่และมาจากภาคเหนือของไทย บิดาเป็นทหารเก่าพรรคก๊กมินตั๋ง เธออุตส่าห์หาเวลามาร่วมงานสงกรานต์ พูดด้วยรอยยิ้มว่า คิดถึงอาหารไทยมาก รู้สึกดีใจที่ได้มาร่วมสนุกครื้นเครง

คุณหูมาพำนักอาศัยในไต้หวันคนเดียวเมื่อวัย 22 ปี โดยคุณลุงเป็นผู้ค้ำประกัน คุณพ่อของเธอมีเพื่อนทหารที่อยู่ในไต้หวันจำนวนไม่น้อย พวกเขาเหล่านี้เคลื่อนย้ายมากับกองทัพ “ในตอนที่อาศัยอยู่ที่ภาคเหนือของไทยมีแต่ความลำบาก จึงอยากมาไต้หวัน” คุณหูรู้สึกคุ้นเคยกับวัฒนธรรมของไต้หวัน แต่บางครั้งก็คิดถึงบ้าน เธอบอกว่าระบบประกันสุขภาพของไต้หวันดีมาก หากตั้งรกรากระยะยาว อยู่ในไต้หวันจะดีกว่า

เพื่อสร้างความสนุกสนานครื้นเครงให้พี่น้องแรงงานไทย ผู้จัดงานได้เชิญพีสะเดิด ตำนาน ร็อกอีสานของเมืองไทย พร้อมทีมงานชุดใหญ่ขนความมันส์มาปลอบขวัญพี่น้องชาวไทยถึงในไต้หวัน

เกมละเล่นเทพวานร แข่งตะกร้อสุดเร้าใจ

งานประเพณีสงกรานต์มีบริการที่น่าประทับใจหลากหลาย อาทิ ตัดผม นวดสุขภาพโดยผู้พิการทางสายตา ตรวจสุขภาพ การปรึกษาทางกฎหมายสำหรับแรงงาน เป็นต้น โดยเป็นบริการฟรีทุกอย่าง ลานตรงกลางที่อยู่ด้านล่างเวทีมีการแข่งขันเซปักตะกร้อที่น่าตื้นเต้นเร้าใจ กีฬาชนิดนี้ตามตำนานเล่าว่า ต้นกำเนิดมาจากอินเดีย สามารถอ้างอิงกีฬาชนิดนี้ได้จากภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วัดพระแก้ว กรุงเทพฯ ซึ่งสร้างตั้งแต่ปีค.ศ.1785 ซึ่งภาพศิลปะเรื่องรามเกียรติ์ มีภาพการเล่นตะกร้อแสดงไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้รับรู้ เป็นภาพหนุมานกำลังเล่นเซปักตะกร้ออยู่ท่ามกลางกองทัพลิง ต่อมาเผยแพร่เข้าสู่ไทยและกลายเป็นการแข่งขันที่สนุกเร้าใจมาก

เซปักตะกร้อ หรือที่ชาวต่างชาติเรียกอีกชื่อว่า วอลเลย์บอลแบบเตะ ได้มีวิวัฒนาการในการเล่นมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากในสมัยแรกๆ ที่เป็นเพียงการช่วยกันเตะลูกไม่ให้ตกถึงพื้น ต่อมาเมื่อเกิดความชำนาญและหลีกหนีความจำเจ มีการเริ่มเล่นด้วยศีรษะ เข่า ศอก ไหล่ มีการจัดเพิ่มท่าให้ยากและสวยงามขึ้นตามลำดับ จากนั้นก็ตกลงวางกติกาการเล่นโดยเอื้ออำนวยต่อผู้เล่นเป็นส่วนรวม

พี่น้องแรงงานไทยจากทั่วสารทิศในไต้หวันร่วมงานประเพณีสงกรานต์ ฉลองต้อนรับปีใหม่ไทย

คิดถึงเมืองไทย ร่วมสนุกกันในไต้หวัน

สงกรานต์ในไต้หวันแม้ไม่ได้จัดงานยิ่งใหญ่เหมือนในไทย แต่ก็เป็นที่รวมใจของชาวไทย และชาวไทยในไต้หวัน ซึ่งต่างชักชวนกันผ่านทางโซเชียลมีเดียให้มาร่วมงานสงกรานต์ มาพบกันแม้เป็นช่วงสั้นๆ ในวันเดียว ได้พูดคุยกัน ถามไถ่ทุกข์สุข ชาวไทยไม่น้อยพากันปูเสื่อพลาสติกดื่มกินปิกนิกอยู่ใต้ร่มไม้ของลานหน้าที่ทำการนครนิวไทเป ในช่วงบ่ายผู้จัดงานได้เชิญพี สะเดิด ตำนานร็อกอีสานของเมืองไทย พร้อมทีมงานชุดใหญ่ขนความมันส์มาปลอบขวัญพี่น้องชาวไทยถึงในไต้หวัน

หวงอ้ายลี่ (黃愛莉) ผู้มาจากเชียงรายและย้ายถิ่นฐานมาปักหลักที่ไต้หวัน ได้ใส่ชุดไทยเหนือที่ตัดเย็บด้วยมือ คล้องพวงมาลัยบนศีรษะ และทัดดอกไม้ที่หู แต่งตัวเต็มที่สวยสะดุดตาจนกลายเป็นดาวเด่นในท่ามกลางฝูงชน

เสี่ยวเชี่ยนลูกสาวที่มาด้วยช่วยดูแลกระเป๋าสัมภาระ เพื่อให้แม่ได้อวดความงามเต็มที่ “ตอนเช้าแม่นั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ฉันไปที่สถานีรถไฟความเร็วสูงก็แต่งตัวแบบนี้แหละ” คุณหวงอ้ายลี่ ผู้ซึ่งอาศัยอยู่ที่นครไถหนาน รักเมืองไทยมาก ฟังรายการภาคภาษาไทย Rti ซึ่งเป็นสถานีวิทยุแห่งชาติของไต้หวันเป็นประจำ ได้รับรู้ข่าวสารต่างๆ ของไทยมากมาย และกลุ่มไลน์ของเธอ 98% ก็เป็นคนไทย

ทั่วไต้หวันมีการจัดงานประเพณีสงกรานต์สไตล์ไต้หวัน แสดงถึงการผสมกลมกลืนทางวัฒนธรรมของกลุ่มชน (ภาพกิจกรรมงานสงกรานต์บนถนนหัวซิน เขตจงเหอ นครนิวไทเป)

เอาใจเขามาใส่ใจเรา ไต้หวันให้การคุ้มครองและดูแลแรงงานข้ามชาติอย่างเต็มที่

เทศกาลสงกรานต์ที่นครนิวไทเปย่างเข้าสู่ปีที่ 9 แล้ว เป็นช่วงเวลาที่แรงงานไทยจะได้พบบรรยากาศแบบไทยๆ ที่คุ้นเคย เฉินรุ่ยเจีย (陳瑞嘉) ผู้อำนวยการกองแรงงาน นครนิวไทเป ชี้ว่า ปัจจุบันแรงงานไทยในไต้หวันมีประมาณ 60,000 คน เฉพาะนครนิวไทเปมี 7,000-8,000 คน การจัดงานสงกรานต์เพื่อให้แรงงานที่เดินทางมาทำงานในไต้หวันรู้สึกผ่อนคลายและบรรเทาความคิดถึงบ้าน ขณะเดียวกันชาวไต้หวันจะได้รู้จัก เข้าใจ อีกทั้งให้เกียรติและยอมรับวัฒนธรรมชาติอื่นด้วย

ในความเป็นจริง ไต้หวันได้รับการยอมรับว่า ให้การคุ้มครองดูแลแรงงานข้ามชาติอยู่ในระดับแถวหน้าของโลก คุณเฉินรุ่ยเจียยังบอกด้วยว่า “กิจกรรมของเราได้มีกลุ่มองค์กรการกุศลให้บริการตัดผม การรักษาพยาบาล การตรวจสุขภาพ และให้คำปรึกษา ล้วนเป็นบริการที่เป็นประโยชน์ต่อแรงงานข้ามชาติทั้งสิ้น”

การคุ้มครองดูแลสิทธิประโยชน์แรงงานไทยของไต้หวันประสบผลสำเร็จ ดังจะเห็นได้จากการจัดงานประเพณีสงกรานต์ซึ่งจัดได้อย่างยิ่งใหญ่ และได้รับความชื่นชมจากหน่วยงานไทยในไต้หวัน คุณเฉินบอกว่าเคยได้รับทราบมาว่า กระทรวงแรงงานของไทยชื่นชมและถือเป็นตัวอย่าง เรียกร้องให้ประเทศอื่นจัดงานประเพณีสงกรานต์ให้กับแรงงานไทยบ้าง การที่ไต้หวันให้การดูแลแขกต่างถิ่นเป็นอย่างดี ได้กลายเป็นซอฟต์เพาเวอร์ที่จะช่วยให้ไต้หวันก้าวเข้าสู่เวทีนานาชาติได้