ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
การประชุม IASS ปี 2019 เปิดฉากขึ้นแล้ว ณ กรุงไทเป
2019-11-05

เมื่อวันที่ 4 พ.ย. นายหลินเจียหลง รมว.กระทรวงคมนาคมไต้หวัน เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุม IASS ครั้งที่ 72 ปี 2019 โดยขึ้นกล่าวปราศรัยว่า การขนส่งทางอากาศของไต้หวันมีผลสัมฤทธิ์ มีความจำเป็นและพร้อมที่จะสร้างคุณประโยชน์ ให้แก่ประชาคมการบินพลเรือนระหว่างประเทศต่อไป (ภาพจาก CNA)

เมื่อวันที่ 4 พ.ย. นายหลินเจียหลง รมว.กระทรวงคมนาคมไต้หวัน เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุม IASS ครั้งที่ 72 ปี 2019 โดยขึ้นกล่าวปราศรัยว่า การขนส่งทางอากาศของไต้หวันมีผลสัมฤทธิ์ มีความจำเป็นและพร้อมที่จะสร้างคุณประโยชน์ ให้แก่ประชาคมการบินพลเรือนระหว่างประเทศต่อไป (ภาพจาก CNA)

สำนักข่าว CNA วันที่ 4 พ.ย. 62

 

การประชุมสุดยอดความปลอดภัยด้านการบินระหว่างประเทศ ครั้งที่ 72 (International Air Safety Summit, IASS) มีกำหนดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 4 – 6 พฤศจิกายน ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงไทเป (Mandarin Oriental, Taipei) ซึ่งเมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา นายหลินเจียหลง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยในพิธีเปิดการประชุม โดยชี้แจงว่า การเข้าร่วมในเครือข่ายความปลอดภัยด้านการบินระหว่างประเทศของไต้หวัน มีความจำเป็นและสมเหตุสมผลเป็นอย่างมาก


 

IASS เป็นการประชุมด้านความปลอดภัยการบินระหว่างประเทศ ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก จัดโดยมูลนิธิมาตรฐานความปลอดภัยทางการบิน (Flight Safety Foundation, FSF) ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งในแต่ละปีมีกำหนดการจัดการประชุมขึ้นในประเทศที่ต่างกัน โดยในปีนี้ มูลนิธิการพัฒนาความปลอดภัยทางการบินของไชน่าแอร์ไลน์ (China Aviation Development Foundation, CADF) ได้ยื่นเสนอให้จัดการประชุมในกรุงไทเป ด้วยเหตุนี้ การประชุม IASS ครั้งที่ 72 จึงได้เปิดฉากขึ้นที่ไต้หวันเป็นครั้งแรก โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยทางการบินจากภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐและนักวิชาการ กว่า 350 คน จากสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่นและสิงคโปร์ รวม 37 ประเทศ เดินทางมาเข้าร่วม เพื่อเปิดอภิปรายกันในประเด็นความปลอดภัยด้านการบินที่มีความสำคัญ


 

รมว.หลินฯ กล่าวว่า ไต้หวันเป็นประเทศเกาะที่ล้อมรอบไปด้วยทะเล การขนส่งทางอากาศนอกจากจะเป็นกุญแจสำคัญ สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าของไต้หวันแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการบูรณาการระหว่างไต้หวันกับเศรษฐกิจโลกอีกด้วย นอกจากนี้ ไต้หวันยังตั้งอยู่ในตำแหน่งที่มีความสำคัญ โดยเป็นจุดศูนย์กลางที่เชื่อมต่อระหว่างภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงส่งผลให้การพัฒนาด้านการขนส่งทางอากาศ เกิดผลสัมฤทธิ์มากมาย


 

รมว.หลินฯ ยกตัวอย่างว่า ในปี 2018 ท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวน ที่เปรียบเสมือนประตูสู่ไต้หวัน ได้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวทั่วโลก กว่า 46.5 ล้านคน ปริมาณการขนถ่ายผู้โดยสารและสินค้าของท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวน ขึ้นครองอันดับที่ 11 และอันดับที่ 5 ของโลก ตามลำดับ นอกจากนี้ อาณาเขตแถลงข่าวการบินไทเป (Taipei FIR) ได้ดำเนินการควบคุมจราจรทางอากาศมากกว่า 1.75 ล้านเที่ยวบิน


 

รมว.หลินฯ ได้ยกตัวอย่างเกี่ยวกับประเด็นอากาศยานไร้คนขับ ที่ทั่วโลกมุ่งให้ความสนใจในขณะนี้ เพื่อพัฒนาระบบควบคุมอากาศยานไร้คนขับที่มีประสิทธิภาพ ไต้หวันได้อ้างอิงจากมาตรฐานสากลและประสบการณ์การบัญญัติข้อกฎหมายของประเทศอื่นๆ เพื่อร่างบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการบินพลเรือน ในการกำกับบริหารระบบควบคุมอากาศยานไร้คนขับ และจัดทำแอปพลิเคชันแผนที่เส้นทางการบิน สำหรับอากาศยานไร้คนขับของไต้หวัน เพื่อให้บริการแก่ผู้บังคับอากาศยานไร้คนขับ ในการสำรวจเส้นทางก่อนการบินขึ้น ตลอดจนระบุตำแหน่งที่ปลอดภัยในการลงจอด


 

รมว.หลินฯ เผยว่า ไต้หวันได้เคยจัดการประชุมที่เกี่ยวกับความปลอดภัยด้านการบินระหว่างประเทศขนาดใหญ่ มาแล้วหลายครั้ง และในครั้งนี้ยังสามารถคว้าสิทธิจัดการประชุม IASS ประจำปี 2019 ขึ้นในไต้หวัน ซึ่งนอกจากจะส่งผลให้ไต้หวันได้รับโอกาสที่ดี ในการรับข้อมูลข่าวสารล่าสุดแล้ว ไต้หวันยังต้องการสร้างคุณประโยชน์ให้กับประชาคมโลก นับเป็นการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน


 

รมว.หลินฯ แถลงว่า ในฐานะที่ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลก ไต้หวันจะเสริมสร้างความร่วมมือกับนานาประเทศทั่วโลกต่อไป เพื่อให้แผนงานด้านการรักษาความปลอดภัยการบินระหว่างประเทศ มีความแข็งแกร่งและสมบูรณ์ อันจะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายน่านฟ้าไร้รอยต่ออย่างแท้จริง