เทศกาลลอยกระทงไทเป มีกำหนดการจัดขึ้นในวันที่ 17 พ.ย. เวลา 15:00 น. ณ สะพายสายรุ้ง ใกล้กับท่าน้ำสีโค่ว (ภาพจากกองกิจการพลเรือน เทศบาลกรุงไทเป)
สำนักกิจการพลเรือน กรุงไทเป วันที่ 11 พ.ย. 62
เมื่อวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา สำนักกิจการพลเรือน กรุงไทเป ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวเทศกาลลอยกระทงไทเป ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 17 พ.ย. เวลา 15:00 น. ณ สะพานสายรุ้ง ใกล้กับท่าน้ำสีโค่ว โดยในปีนี้ นอกจากจะมีกระทงแบบดั้งเดิม ตามแบบของประเทศอาเซียนแล้ว ยังมีกระทงรูปดาว ไว้คอยให้บริการแก่ผู้คนที่มาร่วมอธิษฐานขอพรกับพระแม่คงคา ภายใต้แสงดาวระยิบระยับด้วย ภายในงาน ทุกท่านจะสามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมลอยกระทงของประเทศอาเซียนได้ โดยไม่ต้องเดินทางไปถึงต่างประเทศ
กิจกรรมที่ได้รับความนิยมจากผู้เข้าชมงานมากที่สุดคือการลิ้มลองอาหารนานาชาติ โดยในปีนี้ได้นำอาหาร 3 เมนูมาจัดไว้คอยบริการ ประกอบด้วย ขนมฟูเทหรือซูเซของเวียดนาม ที่เป็นสัญญลักษณ์แสดงถึงความรักอันหอมหวาน น้ำมังคุดของไทย ที่มีรสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ เต้าหู้ทอดไทยใหญ่ของเมียนมา ที่คงความอร่อยและเรียบง่าย ประกอบกับกลิ่นอายบรรยากาศที่สอดรับกับเมนูอาหาร ทำให้ผู้คนยิ่งสามารถสัมผัสได้กับความเป็นเอกลักษณ์ในอีกดินแดนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังมีเกมผ่านด่านที่ผสมผสานวัฒนธรรมอันหลากหลาย มานำเสนอ ซึ่งนอกจากจะได้รับความสนุกสนานแล้ว ยังสามารถทำความรู้จักกับวัฒนธรรมของแต่ละประเทศในคราวเดียวกันอีกด้วย
เทศกาลลอยกระทงปีนี้ ยังได้ออกแบบกระทงในรูปทรงพิเศษ 2 แบบ เพื่อให้ผู้สนใจเข้าร่วมทดลองลงมือทำด้วยตนเอง (DIY) ซึ่งประกอบด้วย กระทงรูปทรงเวียดนาม และกระทงรูปดาว ซึ่งสามารถร่วมทดลองทำได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และหลังจากทำกระทงเสร็จแล้ว ก็สามารถเขียนคำอธิษฐานขอพรลงไปในกระทง จากนั้น ในเวลา 17:10 น. ทุกคนก็จะไปร่วมลอยกระทงกันที่ท่าน้ำสีโค่ว โดยนำกระชอนไม้ไผ่ที่ได้รับการออกแบบอย่างประณีต มาใช้ในการลอยกระทงลงสู่แม่น้ำ เพื่อให้ทุกคนได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศแบบใกล้ชิดติดริมน้ำ
ในส่วนของเวทีการแสดง ได้เชิญกลุ่มผู้แสดงที่เป็นผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ มาจัดการแสดง อาทิ การแสดงระบำตีกลองแบบดั้งเดิมของฟิลิปปินส์ โดยในปีนี้ยังได้เชิญนักศึกษาชาวอินโดนีเซีย ที่ปัจจุบันศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยเจิ้งจื้อ (National Cheng Chi University, NCCU) มาจัดการแสดงแบบแฟลชม็อบ เพื่อร่วมมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมอย่างเป็นกันเอง และยังได้จัดเชิญกลุ่มผู้แสดงที่เรียนเต้นในคอร์สที่สำนักงานเขตจงเจิ้งและหนานกั่งจัดขึ้น ถ่ายทอดให้เห็นถึงผลสัมฤทธิ์ด้านการเรียนรู้ และพลังแห่งความสดใสของผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่