นายพูลชัย โวทาน นักกีฬาทีมชาติไทย กระโดดฟาดลูกตะกร้อ โดยนายเถาปิ่งเย่ (ขวา) นักกีฬาทีมชาติไต้หวัน พยายามสกัดกั้นไว้ (ภาพจาก CTSTF)
CTSTF วันที่ 20 พ.ย. 62
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา สมาคมตะกร้อไต้หวัน (CTSTF) ได้จัดการแข่งขันเซปักตะกร้อรายการนานาชาติ Taiwan International Sepaktakraw Invitational 2019 ในไต้หวันเป็นครั้งแรก โดยเปิดฉากขึ้นด้วยการแข่งขันตะกร้อประเภทคู่ ที่ประชันกันอย่างดุเดือด และเมื่อวันที่ 19 พ.ย. ทีมชาติไทยได้ลงสนามแข่งขันปะทะกับทีมชาติเมียนมา โดยทั้งสองทีมดวลกันจนถึงโค้งสุดท้ายในเกมที่ 3 จึงทราบผลแพ้ชนะ ซึ่งในที่สุด ทีมชาติไทยได้เป็นผู้ครองแชมป์สมัยแรก โดยสามารถเอาชนะคู่แข่ง ไปด้วยคะแนน 21 ต่อ 11 ในเกมแรก ในเกมที่ 2 โดนแซงไปด้วยคะแนน 18 ต่อ 21 ส่วนในเกมสุดท้าย คว้าชัยด้วยคะแนน 21 ต่อ 18
แม้ Taiwan International Sepaktakraw Invitational 2019 จะจัดขึ้นเป็นปีแรก และเป็นการแข่งขันที่คล้ายกับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ แต่ผู้เข้าแข่งขันจากนานาประเทศ ต่างเดินทางมาเข้าร่วมด้วยความกระตือรือร้น ซึ่งเมียนมาและเวียดนาม ต่างจัดทีมชาติเซปักตะกร้อของตน ลงแข่งขันในครั้งนี้ ส่วนไทยได้ส่งนักกีฬาจากสโมสรตะกร้อ ราชบุรี (มังกรไฟ) ที่ครองแชมป์ตะกร้อไทยแลนด์ลีกมาแล้วหลายสมัย เดินทางมาเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งผลการแข่งขันชี้ชัดว่า นักกีฬาตะกร้อไทย ยังครองความเป็นสุดยอดของโลก ที่ไม่มีผู้ใดสามารถโค่นบัลลังก์ลงได้ โดยในครั้งนี้ ทีมมังกรไฟก็สามารถคว้าแชมป์ไปครองได้อย่างสวยงามอีกครั้ง
นายณัฐพงษ์ ทองชัย นักกีฬาเซปักตะกร้อ ตำแหน่งผู้เสิร์ฟของทีมชาติไทย กล่าวยอมรับในความสามารถของคู่ต่อสู้ว่า “เมียนมาส่งนักกีฬาทีมชาติมาลงแข่งขัน สร้างความกดดันให้พวกเราไม่น้อยเลยทีเดียว”
ทีมชาติไทยสามารถคว้าแชมป์ Taiwan International Sepaktakraw Invitational 2019 ที่ไต้หวันจัดขึ้นเป็นปีแรกมาครองได้สำเร็จ ส่งผลให้นักกีฬาทุกคนต่างภูมิใจและดีใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ที่ดีใจยิ่งไปกว่านั้นคือ การที่ได้เห็นการแข่งขันระดับนานาชาติที่จัดขึ้นโดยไต้หวัน และได้รับเชิญมาเป็นส่วนหนึ่งในการแข่งขัน โดยพวกเขากล่าวว่า “ในครั้งต่อไป จะต้องคว้าแชมป์ ประเภทผู้เล่น 3 คนมาครองให้ได้”
ทีมเจ้าภาพจัดการแข่งขัน หรือทีมชาติไต้หวัน เข้าสู่รอบการแข่งขันเซมิไฟนอลได้สำเร็จ ซึ่งต้องดวลกับนักกีฬาทีมชาติไทย โดยในเกมแรกยังสามารถประคองคะแนนได้อย่างสูสี แต่ในเกมถัดไป ก็ถูกแซงนำไปด้วยคะแนนทิ้งห่าง จนในที่สุด ทีมไต้หวันพ่ายให้กับทีมไทย ด้วยคะแนน 16 ต่อ 21 และ 3 ต่อ 21 ครองเหรียญทองแดง ร่วมกับทีมชาติเวียดนาม เมื่อต้องเผชิญกับคู่ต่อสู้จากประเทศ ที่ยังไม่มีใครสามารถโค่นลงจากบัลลังก์ได้ หลี่ซิ่นหรง นักกีฬาตะกร้อทีมชาติไต้หวันย้ำว่า ทักษะการกระโดดฟาดตะกร้อ และการลอยค้างตัวอยู่กลางอากาศของคู่ต่อสู้ สร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก เหตุผลที่พ่ายให้แก่คู่ต่อสู้ ก็เนื่องมาจากความผิดพลาดของตนเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ เถาปิ่งเย่ อีกหนึ่งนักกีฬาทีมชาติไต้หวัน กล่าวว่า การมีโอกาสได้ลงแข่งขันกับคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขามเช่นนี้ ไม่ว่าแพ้หรือชนะ ต่างก็เป็นประสบการณ์ที่ดีทั้งนั้น
ถึงแม้ว่าทีมชาติไต้หวันจะพ่ายแพ้ไปในการแข่งขันครั้งนี้ แต่นักกีฬาทีมชาติไต้หวันย้ำหนักแน่นว่า จากการร่วมแข่งขันกับนักกีฬาจากนานาประเทศทั่วโลกในครั้งนี้ ทำให้ตนได้รับประสบการณ์มากมาย และจะพยายามพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ในการฝึกทักษะความสามารถให้ช่ำชองเพิ่มมากขึ้น เพื่อเตรียมพร้อม ในการเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งต่อๆไป
ส่วนการแข่งขันเซปักตะกร้อประเภทที่มีผู้เล่น 3 คน มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 20 พ.ย. ณ สนามกีฬาไทเป (Taipei Gymnasium) ชั้น 4 ส่วนการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ มีกำหนดจัดขึ้นในช่วงเที่ยงเวลา 12:00 น. ของวันที่ 21 พ.ย. โดยจะเริ่มต้นด้วยการแข่งขันรอบเซมิไฟนอล จากนั้นจึงจะเป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ
