เมื่อวันที่ 26 พ.ย. นายหลี่ปั๋วจาง (กลาง) ตอบคำถามผู้สื่อข่าวในงานแถลงข่าว ในประเด็นที่เกี่ยวกับการสำรวจความพึงพอใจของภาคประชาชน ที่มีต่อระบบ NHI (ภาพจากสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ)
กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ วันที่ 26 พ.ย. 62
เมื่อวันที่ 26 พ.ย. สำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) แถลงว่า ระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ (National health insurance, NHI) ที่เริ่มบังคับใช้ ตั้งแต่ปีค.ศ. 1995 ตราบจนปัจจุบัน รวมเวลา 24 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทางสำนักงานฯ ได้เร่งส่งเสริมการดำเนินการ ตามมาตรการปฏิรูประบบประกันสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ความพึงพอใจที่ประชาชน มีต่อภาพรวมของ NHI สูงถึงร้อยละ 80 ในปี 2015 และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนในปี 2019 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 89.7 ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นายหลี่ปั๋วจาง ผู้อำนวยการสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวในงานแถลงข่าวว่า เหตุผลหลัก 3 ประการ ที่ทำให้คนไต้หวันเกิดการยอมรับต่อระบบ NHI ประกอบด้วย การเข้าถึงการรักษาพยาบาล การช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ และเบี้ยค่าประกันสุขภาพที่สมเหตุสมผล ซึ่งต่างก็แสดงให้เห็นว่า ระบบ NHI ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ให้กับประชาชน ได้อย่างแท้จริง
ความพึงพอใจที่ประชาชนมีต่อระบบ NHI ยังหมายรวมถึง การประเมินผลในความพยายามร่วมกัน ของบุคลากรทางการแพทย์ด้วย ผอ.หลี่ฯ กล่าวว่า ภายใต้แนวคิดของการพัฒนาระบบ NHI ที่ยั่งยืน ทางสำนักงานฯ จะเร่งทำความเข้าใจเกี่ยวกับมุมมองที่วงการแพทย์ มีต่อการดำเนินการ ตามนโยบายการประกันสุขภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิง ในการร่วมเจรจาและดำเนินการ ในอนาคตต่อไป
จากรายงานการสำรวจความพึงพอใจของบรรดาแพทย์ ที่มีต่อระบบ NHI แสดงให้เห็นว่า แพทย์แผนปัจจุบันมีความพึงพอใจต่อระบบ NHI เพิ่มจากร้อยละ 17.3 ในปี 2017 มาเป็นร้อยละ 33.7 ในปี 2019 ส่วนความพึงพอใจที่ทันตแพทย์ มีต่อระบบ NHI ก็เพิ่มจากร้อยละ 30.6 ในปี 2017 มาเป็นร้อยละ 36.6 ในปี 2019 ส่วนระดับความไม่พอใจ มีแนวโน้มลดน้อยลง สะท้อนให้เห็นว่า ความพึงพอใจต่อระบบ NHI ในวงการแพทย์ มีการพัฒนาไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผอ.หลี่ฯ กล่าวว่า จากการที่ความพึงพอใจที่บรรดาแพทย์ มีต่อระบบ NHI เพิ่มขึ้น ส่วนความไม่พอใจลดน้อยลง แสดงให้เห็นว่า ความพยายามในการแก้ไขสภาพแวดล้อมทางการแพทย์ ของทางสำนักงานฯ เป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับ ประเด็นที่วงการแพทย์มุ่งให้ความสนใจ
โดยสำนักงานฯ แถลงว่า ระบบ NHI ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความสัมพันธ์แบบไตรภาคี ที่เป็นการปฏิสัมพันธ์ระหว่าง สำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ ประชาชน และบุคลากรทางการแพทย์ โดยข้อเรียกร้องของบรรดาแพทย์และประชาชน จะถูกนำไปใช้ประกอบการพิจารณา กำหนดนโยบายของทางสำนักงานฯ การที่ระบบ NHI ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากภาคประชาชน นับว่าเป็นการยอมรับความพยายามของทางสำนักงานฯ ด้วยเช่นกัน โดยในอนาคต ทางสำนักงานฯ จะกระชับความร่วมมือกับวงการแพทย์ต่อไป ตลอดจนรับฟังความเห็นของประชาชน เพื่อนำประสบการณ์และความคิดเห็นของประชาชน และเจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาล ที่มีต่อระบบ NHI มาใช้ประกอบการพิจารณา วางแผนมาตรการของระบบ NHI ต่อไปในภายภาคหน้า