เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. ปธน.ไช่อิงเหวิน ได้เดินทางเข้าร่วมพิธีเปิด “นิทรรศการ Future Tech Expo 2019” พร้อมขึ้นกล่าวปราศรัยในงานด้วย (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 5 ธ.ค. 62
เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน แห่งสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เดินทางไปเข้าร่วมพิธีเปิด “นิทรรศการ Future Tech Expo 2019” พร้อมขึ้นกล่าวปราศรัยว่า ตลอดช่วง 4 ปีหลังจากนี้ ไต้หวันจะมีเป้าหมายด้านนโยบายเทคโนโลยีโดยหลัก 2 ประการ ได้แก่ การเข้าสู่อุตสาหกรรมอวกาศ ซึ่งไต้หวันจะพัฒนาไปสู่การเป็นแหล่งวิจัยพัฒนาและผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ดาวเทียม อุปกรณ์รับสัญญาณดาวเทียมภาคพื้นดิน และอุปกรณ์ในระบบที่เกี่ยวข้องต่างๆ และอีกประการหนึ่งคือ รัฐบาลไต้หวันจะพิจารณาจัดตั้ง หน่วยงานบริหารจัดการโครงการด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ที่เชื่อมโยงระหว่างสาขาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศทั้ง 5 ประการ เพื่อประยุกต์ใช้ระบบบูรณาการรูปแบบใหม่ ในการรับมือกับความท้าทายของเทคโนโลยีล้ำสมัย
โดยปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า เป้าหมายของไต้หวันในการเข้าสู่อุตสาหกรรมอวกาศ ไม่ใช่การส่งนักบินอวกาศไปสำรวจนอกโลก แต่เนื่องมาจากภายในช่วง 10 ปีนี้ ทั่วโลกได้คาดการณ์ว่า จะมีการปล่อยดาวเทียมวงโคจรระดับต่ำ (LEO) นับหมื่นดวงขึ้นสู่วงโคจร อันเป็นการบ่งชี้ถึงการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ และจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของมนุษย์โลก ที่บนอวกาศจะมีดาวเทียมมากมายโคจรอยู่บนท้องฟ้า เพื่อยกระดับให้เครือข่ายบรอดแบนด์ ครอบคลุมสู่ทั่วทุกมุมโลก
ทั้งนี้ ปธน.ไช่ฯ เผยว่า ไต้หวันมีศักยภาพในด้านการวิจัยพัฒนาและผลิตดาวเทียม และยังมีจุดเด่นในด้านอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ทรัพยากรสารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์ ห่วงโซ่อุปทานสมบูรณ์ ที่ใช้สำหรับเครื่องจักรที่มีความแม่นยำ และยังเป็นประเทศประชาธิปไตย ที่มีความน่าเชื่อถือด้านความปลอดภัยของข้อมูลสารสนเทศ เป็นอย่างมากอีกด้วย
ปธน.ไช่ฯ ย้ำว่า ไม่ว่าจะเป็นการวิจัยด้านเทคโนโลยีอวกาศ การบ่มเพาะบุคลากรด้านวิศวกรรมดาวเทียมและวิทยาศาสตร์อวกาศ การสร้างโอกาสให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม หรือการสร้างความร่วมมือระดับนานาชาติ ล้วนเป็นเส้นทางที่ไต้หวันต้องก้าวเดินไป ไต้หวันสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ในเวทีนานาชาติด้วยเทคโนโลยีระดับสูง จึงมุ่งมั่นที่จะมีบทบาทสำคัญ ในการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศต่อไป
นอกจากนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังเสริมว่า เป้าหมายประการที่ 2 ก็เพื่อสอดรับกับยุค Internet of Things (IoT) จึงได้พิจารณาจัดตั้งหน่วยงานพัฒนาด้านดิจิทัล เพื่อรองรับการมาเยือนของยุคเทคโนโลยี 5G และ IoT เทคโนโลยีดิจิทัลกำลังมีบทบาทสำคัญ ต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา และจะนำมาซึ่งการปรับเปลี่ยนรูปแบบอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นแนวโน้มของเทคโนโลยีแห่งอนาคต ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ปธน.ไช่ฯ ยังชี้ด้วยว่า ในขั้นต่อไป จะมีการเปิดการอภิปราย เพื่อจัดตั้งหน่วยงานบริหารจัดการ ที่ครอบคลุมทั้งด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ความปลอดภัยของข้อมูลสารสนเทศ การสื่อสารโทรคมนาคม อินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีการออกอากาศ ซึ่งหน่วยงานนี้จะมีภารกิจที่สำคัญๆ หลายประการ อาทิ การรวบรวมโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล การขยายเครือข่ายของเทคโนโลยีดิจิทัล ให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่ และการจัดระบบตลาดดิจิทัล ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตลอดจนเสริมสร้างการจัดระเบียบ ในด้านการแข่งขันในตลาด ให้เป็นไปอย่างเหมาะสม