ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
การประชุมคณะกรรมการร่วม ภายใต้กรอบความร่วมมือ GCTF ปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์
2019-12-16

นายเกาซั่วไท่ (ที่ 1 จากซ้าย) ผู้แทนรัฐบาลไต้หวันประจำสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงาน สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และตัวแทนเจ้าหน้าที่ภาครัฐของสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ร่วมกันถ่ายภาพเป็นที่ระลึก (ภาพจาก MOFA)

นายเกาซั่วไท่ (ที่ 1 จากซ้าย) ผู้แทนรัฐบาลไต้หวันประจำสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงาน สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และตัวแทนเจ้าหน้าที่ภาครัฐของสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ร่วมกันถ่ายภาพเป็นที่ระลึก (ภาพจาก MOFA)

MOFA วันที่ 13 ธ.ค. 62


เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) แถลงว่า การประชุมคณะกรรมการร่วม ภายใต้กรอบความร่วมมือ GCTF (Global Cooperation and Training Framework) ประจำปี 2019 มีกำหนดจัดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในปีนี้ นายเหยาจินเสียง อธิบดีกรมอเมริกาเหนือ กระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะตัวแทน พร้อมด้วยตัวแทนของกรมสอบสวน กระทรวงยุติธรรม และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ เดินทางไปเข้าร่วมการประชุม โดยนายเกาซั่วไท่ ผู้แทนรัฐบาลไต้หวันประจำประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ขึ้นกล่าวปราศรัย ในพิธีเปิดการประชุม ส่วนทางด้านสหรัฐฯ Mr. Jonathan Fritz รองผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการเอเชีย – แปซิฟิก พร้อมด้วย Ms. Ingrid Larson ผู้อำนวยการกองประสานงานกิจการไต้หวัน Mr. Raymond Greene รองผู้อำนวยการ สถาบันอเมริกาในไต้หวัน สำนักงานไทเป (AIT Taipei Office) และตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ต่างเดินทางมาเข้าร่วมในการประชุมฯ ส่วนทางด้านญี่ปุ่น Mr. NISHIUMI Shigehiro รองผู้อำนวยการสมาคมแลกเปลี่ยนระหว่างญี่ปุ่น - ไต้หวัน สำนักงานไทเป ได้นำคณะตัวแทนญี่ปุ่นเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมฯ ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ ได้ปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์


 

โดย MOFA เผยว่า ในระหว่างการประชุม ตัวแทนของไต้หวัน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น ต่างนำเสนอผลสัมฤทธิ์มากมาย ที่เกิดจากการจัดกิจกรรม ภายใต้กรอบความร่วมมือ GCTF ประจำปีนี้ และร่วมกันอภิปรายในประเด็นเร่งด่วน ที่ต้องกระชับความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อแก้ไขปัญหาในปีหน้า ตลอดจนร่วมหารือกัน ในด้านการขยายขอบเขตหุ้นส่วนความร่วมมือ ภายใต้กรอบ GCTF ซึ่งคาดว่าจะเชิญประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน มีส่วนร่วมในการประชุมระดับพหุภาคี เพิ่มขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถ ให้กับประเทศในภูมิภาค ในประเด็นที่หุ้นส่วนความร่วมมือได้ให้ความสำคัญร่วมกัน นอกจากนี้ ทั้ง 3 ฝ่ายต่างร่วมกันวางแผน ในการจัดตั้งโครงการฝึกอบรม ในประเด็นต่างๆ อาทิ การประยุกต์ใช้รูปแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน มาจัดการกับสิ่งปฏิกูลในท้องทะเล การสาธารณสุข ความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมาย เสรีภาพทางอินเทอร์เน็ตและเศรษฐกิจดิจิทัล เป็นต้น


 

นอกจากนี้ MOFA แถลงเพิ่มเติมว่า นับตั้งแต่ปี 2015 ที่ได้ก่อตั้ง GCTF ขึ้น ตราบจนปัจจุบัน ได้ดำเนินการจัดค่ายฝึกอบรมนานาชาติในประเด็นต่างๆ กว่า 22 รอบ อาทิ ด้านสาธารณสุข ความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมาย การเสริมสร้างพลังสตรี ความปลอดภัยด้านพลังงาน ความปลอดภัยของระบบข้อมูลสารสนเทศ ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมและการป้องกันภัยพิบัติ รวมไปถึงการรู้เท่าทันสื่อ โดยได้เชิญเจ้าหน้าที่ภาครัฐและผู้เชี่ยวชาญกว่า 450 คน จาก 38 ประเทศ เดินทางมาเข้ารับการฝึกอบรม ผลสัมฤทธิ์เป็นที่น่าพึงพอใจ ซึ่งในอนาคต กต.ไต้หวันจะเร่งกระชับความร่วมมือในเชิงลึก ในประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ ร่วมกับสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป ภายใต้กรอบความร่วมมือ GCTF และภายใต้ความร่วมมือที่มีอยู่เดิมระหว่างกัน