นายโจวหย่งฮุย (ที่ 4 จากซ้าย) อธิบดีกรมการท่องเที่ยว และนายหยางชิ่งอวี่ (ที่ 4 จากขวา) อธิการบดี NKUST เข้าร่วมพิธีเปิดป้ายศูนย์วิจัยและพัฒนาเรือสำราญไต้หวัน (ภาพจาก NKUST)
กรมการท่องเที่ยว กระทรวงคมนาคม วันที่ 25 ธ.ค. 62
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติเกาสง (National Kaohsiung University of Science and Technology, NKUST) ได้จัด “พิธีเปิดป้ายศูนย์วิจัยและพัฒนาเรือสำราญไต้หวัน” โดยนายโจวหย่งฮุย อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงคมนาคม สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และนายหยางชิ่งอวี้ อธิการบดี NKUST ได้เข้าร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดป้ายครั้งนี้ และประกาศว่ากลุ่มพันธมิตรระหว่างภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐและภาคการศึกษา ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรือสำราญ ได้ประสานความร่วมมือระหว่างกันอย่างเป็นปึกแผ่น ในอนาคตศูนย์ดังกล่าวจะมุ่งหน้าพัฒนาเพื่อบรรลุเป้าหมายหลักทั้ง 5 ประการ ประกอบด้วย การให้บริการอย่างมืออาชีพ การบ่มเพาะบุคลากร การพัฒนาอุตสาหกรรม การวิเคราะห์นโยบาย และการเชื่อมโยงอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ ตลอดจนเผยให้ทั่วโลกเห็นถึง ความสำคัญของตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของไต้หวัน และเศรษฐศาสตร์อุตสาหกรรม ที่จะส่งผลต่อตลาดเรือสำราญในภูมิภาคเอเชีย ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเรือสำราญอย่างยั่งยืน
โดยนายโจวหย่งฮุยกล่าวว่า อุตสาหกรรมเรือสำราญ เป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในไต้หวัน ซึ่งเมื่อปีที่แล้ว ตลาดธุรกิจการล่องเรือสำราญของไต้หวันแซงหน้าสิงคโปร์ ขยับขึ้นเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชีย โดยท่าเรือเกาสง นับว่าเป็นฐานท่าเรือพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน และใหญ่เป็นอันดับที่ 15 ของโลก จึงเพียบพร้อมด้วยศักยภาพด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมเรือสำราญ นอกจากนี้ไต้หวันยังมีจุดเด่นในด้านตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ประกอบกับนโยบายหลักของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ที่ได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เชื่อว่าจะสามารถร่วมกันผลักดันอุตสาหกรรมเรือสำราญของไต้หวัน ไปสู่ตลาดระดับภูมิภาคได้ในเร็ววัน
กอปรกับเมื่อวันที่ 20 ก.พ. ปี 2019 กรมการท่องเที่ยว กระทรวงคมนาคม สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ร่วมลงนาม “บันทึกความเข้าใจว่าด้วย การวิจัยและพัฒนาเรือสำราญไต้หวัน” กับมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติเกาสง (National Kaohsiung University of Science and Technology, NKUST) มหาวิทยาลัยการอาหารและการโรงแรมแห่งชาติ เกาสง (National Kaohsiung University of Hospitality and Tourism, NKUHT) และมหาวิทยาลัยทางทะเลแห่งชาติไต้หวัน (National Taiwan Ocean University, NTOU) รวม 3 สถาบัน เพื่อร่วมผนึกกำลังกัน บรรลุภารกิจของกลุ่มพันธมิตรอุตสาหกรรมเรือสำราญ โดยแบ่งเป็น “สามเหลี่ยมตอนเหนือ” ซึ่งประกอบด้วยญี่ปุ่น เกาหลีใต้และไต้หวัน กับ “สามเหลี่ยมตอนใต้” ซึ่งประกอบด้วยเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และไต้หวัน โดยวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาเรือสำราญในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเสริมสร้างให้อุตสาหกรรมเรือสำราญของไต้หวัน ก้าวสู่เวทีนานาชาติแล้ว ยังสามารถกระตุ้นให้เกิดความเชื่อมโยงทางภาคอุตสาหกรรม และการฝึกอบรมบุคลากร เพื่อยกระดับศักยภาพการแข่งขันของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเรือสำราญ ในระดับนานาชาติอีกด้วย
นายหยางชิ่งอวี้ กล่าวเพิ่มเติมว่า NKUST มีจุดเด่นนานาประการ อาทิ มีคณะที่เกี่ยวข้องกับกิจการทางทะเลที่ครอบคลุม มีวัสดุอุปกรณ์ที่ครบครัน และมีท่าเรือเป็นของตนเอง โดยในอนาคตจะช่วยสนับสนุนศูนย์วิจัยและพัฒนาเรือสำราญใน 3 ประการหลัก ได้แก่ การบ่มเพาะบุคลากร การวิเคราะห์นโยบาย และการเชื่อมโยงอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ ถือเป็นการอัดฉีดพลังด้านการวิจัย ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเรือสำราญ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนสืบไป