เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน แห่งสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าว BBC
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 15 ม.ค. 63
เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน แห่งสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวของบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ (British Broadcasting Corporation, BBC) โดยมุ่งประเด็นไปที่การเลือกตั้งปธน. และรองปธน. สมัยที่ 15 ที่เพิ่งเสร็จสิ้นลงไป ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน และการป้องกันประเทศ โดย BBC มีกำหนดการจะเผยแพร่เนื้อหาส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ ในวันที่ 15 ม.ค. นี้
โดยในประเด็นแรก เป็นคำถามที่เกี่ยวกับความคาดหวังของปธน.ไช่ฯ ที่มีต่อปฏิกริยาของรัฐบาลปักกิ่ง ที่มีต่อชัยชนะจากการเลือกตั้งของท่านในครั้งนี้ โดยปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า พวกเขาควรตระหนักเห็นถึงความคาดหวังของประชาชนชาวไต้หวัน ที่แสดงออกผ่านผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ นี่เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการสื่อให้เห็นอย่างจริงจังว่า พวกเราไม่ชอบการบีบบังคับ และต้องการแสดงให้เห็นว่า พวกเรามีประชาธิปไตยที่ประสบความสำเร็จ มีเศรษฐกิจที่เจริญรุ่งเรือง จึงควรค่าแก่การได้รับความเคารพจากจีน
ต่อกรณีที่ปธน.ไช่ฯ แถลงหลังการเลือกตั้งว่า คาดหวังที่จะรื้อฟื้นการเจรจาระหว่างสองฝั่งช่องแคบ ในส่วนนี้ ปธน.ไช่ฯ คาดว่าต้องดำเนินการอย่างไร จึงจะสามารถรื้อฟื้นการเจรจากับรัฐบาลปักกิ่งได้ โดยปธน.ไช่ฯ ตอบว่า จีนต้องเตรียมการที่จะเผชิญหน้ากับความเป็นจริง นี่เป็นปัจจัยสำคัญ เพราะหากพวกเขายังไม่พร้อมสำหรับการเผิชญหน้ากับความเป็นจริง ไม่ว่าเราจะยื่นข้อเสนออะไร ก็คงไม่สามารถทำให้พวกเขาพึงพอใจได้
จากนั้น BBC ยังได้สอบถามว่า ทำไมประเด็นเรื่องจีน จึงเป็นเหตุผลสำคัญในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในไต้หวัน ปธน.ไช่ฯ ชี้แจงว่า ตลอดระยะเวลา 3 ปีกว่าที่ผ่านมา พวกเราเห็นถึงการคุกคามของจีน ที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น อาทิ การซ้อมรบของจีน หรือการที่จีนส่งเรือรบ หรือเครื่องบินรบ มาวนรอบเกาะไต้หวัน ประกอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฮ่องกง ยิ่งเป็นการเน้นย้ำให้ประชาชนสัมผัสได้ถึง ความเป็นจริงที่เกิดจากภัยคุกคาม ที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกขณะ
นอกจากนี้ BBC ยังถามว่า หากว่ากันตามหลักการแล้ว ปธน.ไช่ฯ สนับสนุนการประกาศเอกราชของไต้หวันอย่างเป็นทางการหรือไม่ ปธน.ไช่ฯ ได้ระบุว่า พวกเราไม่จำเป็นต้องประกาศซ้ำว่าพวกเราเป็นประเทศเอกราช เพราะพวกเราเป็นประเทศเอกราชโดยสมบูรณ์แบบ และพวกเราแทนตนเองว่า สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เนื่องจากพวกเรามีรัฐบาล มีกองทัพ และมีการเลือกตั้ง
ในส่วนของแรงกดดันจากจีนที่มีต่ออธิปไตยของไต้หวัน และความเสี่ยงต่อการเกิดสงครามในปัจจุบัน ปธน.ไช่ฯ เน้นย้ำว่า “สงครามเกิดขึ้นได้ทุกเวลา เราไม่สามารถขจัดความเสี่ยงนี้ออกไปได้ทั้งหมด จึงจำเป็นต้องเตรียมมาตรการในการรับมืออย่างรัดกุม พัฒนาศักยภาพในการป้องกันประเทศด้วยตนเอง แต่นอกจากการเตรียมความพร้อมทางทหารแล้ว สิ่งที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากนานาชาติ เพราะฉะนั้นเราจึงไม่เลือกใช้วิธีท้าทายอำนาจจีน เพราะไม่ต้องการทำให้สถานการณ์แย่ลงไปกว่านี้ หรือเป็นการเปิดช่องทางให้จีน ใช้เป็นข้ออ้างในการทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ เพราะฉะนั้น พวกเราจะไม่ท้าทาย หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า พวกเราใช้วิธีนุ่มนวลในการต่อกรกับการท้าทายของจีน”
สำหรับคำถามที่ว่า ไต้หวันจะสามารถต้านทานต่อปฏิบัติการทางทหารได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ ในส่วนนี้ ปธน.ไช่ฯ กล่าวอย่างหนักแน่นว่า ไต้หวันมีศักยภาพทางทหารที่ยอดเยี่ยม หากจีนต้องการรุกล้ำหรือคิดที่จะรุกรานไต้หวัน ก็จะต้องชดใช้อย่างสาสม
ทีมผู้สื่อข่าวของ BBC แถลงว่า บทสัมภาษณ์ฉบับสมบูรณ์ จะเผยแพร่สู่สาธารณชนในภายหลัง