คณะตัวแทน NIU เดินทางเยือนโรงเรียนประถมศึกษาชิงหัว (ภาพจาก NIU)

NIU วันที่ 16 ม.ค. 63

เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยแห่งชาติอี๋หลาน (National Ilan University, NIU) แถลงว่า ในช่วงก่อนหน้านี้ ดร. อู๋ปั๋วชิง อธิการบดี NIU พร้อมทั้งคณะอาจารย์และนักศึกษา จากหลักสูตร EMBA และคณะทรัพยากรชีวภาพ ระดับปริญญาโท ได้เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมแลกเปลี่ยนทางวิชาการระดับนานาชาติ ที่จัดขึ้นในพื้นที่ทางภาคเหนือของไทย พร้อมใช้โอกาสนี้ในการนำตัวแทน NIU เดินทางเยือนโรงเรียนประถมศึกษาชิงหัว ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านรักไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมอวยพรเนื่องในเทศกาลตรุษจีน

ในช่วงค่ำของทุกวันทำการ จะมีนักเรียนนับร้อยคนเดินทางมาเรียนภาษาจีนที่โรงเรียนประถมศึกษาชิงหัว ซึ่งบรรดาเยาวชนเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เป็นบุตรหลานของทหารจากกองทัพจีนคณะชาติ ที่พำนักอาศัยอยู่ในพื้นที่ทางภาคเหนือของไทย ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีสถานภาพเป็นประชาชนชาวไทย แต่มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างลำบาก ขาดแคลนทรัพยากรที่จำเป็นต่างๆ มากมาย แต่ถึงกระนั้น พวกเขายังคงยึดมั่นในการปลูกฝังทักษะภาษาจีนให้เยาวชนรุ่นหลัง เพื่อไม่ให้คนรุ่นหลังลืมรากเหง้าของตน โดยในช่วงกลางวัน บรรดาเยาวชนจะเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนของไทยในพื้นที่ตามปกติ ก่อนที่ช่วงกลางคืน ก็จะมารวมตัวกันเรียนภาษาจีน ที่โรงเรียนประถมศึกษาชิงหัว

ทั้งนี้ นายหยางเจิ้งเหวิน ผู้อำนวยการโรงเรียนประถมศึกษาชิงหัว ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์ CTS (Chinese Television System) ที่ติดตามการเดินทางไปด้วยในครั้งนี้ โดยชี้ว่า “ถ้าหากว่าแบบเรียนไม่เพียงพอต่อความต้องการ พวกเราก็ต้องนำไปถ่ายเอกสารเอง เฉลี่ยเล่มละประมาณ 80 – 100 บาท เพื่อแจกให้เด็กๆ 30 – 40 คน ซึ่งถือเป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยเลยทีเดียว”

ด้วยเหตุนี้เอง NIU และบริษัทเอกชนจึงได้ร่วมมือกันแก้ไขปัญหา ที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนในขณะนี้ โดยดร. อู๋ปั๋วชิง ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว CTS ว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้ สามารถช่วยแก้ปัญหาได้เฉพาะในระยะสั้น ในส่วนที่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ พวกเราจะเร่งผลักดันภารกิจเหล่านี้ต่อไป”

ระหว่างการเดินทางครั้งนี้ นอกจากจะเดินทางไปเยือนยังโรงเรียนประถมศึกษาชิงหัวแล้ว คณะตัวแทนฯ ยังได้เดินทางไปเยือนศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดแม่ฮ่องสอน (เกษตรที่สูง) ซึ่งสถานที่แห่งนี้มีบทบาทที่เปรียบเสมือน ฟาร์มทดลองด้านการเกษตรของไต้หวัน โดยภายในสวนอุทยานมีการเพาะปลูกอโวคาโด พืชพื้นเมือง สมุนไพรจีน และเมล็ดกาแฟ เป็นต้น สร้างความประทับใจให้แก่เหล่าผู้มาเยือนเป็นอย่างมาก ในตอนท้าย NIU แถลงว่า ทางสถาบันมีประสบการณ์ที่เกี่ยวกับ การเพาะปลูกผลผลิตทางการเกษตร และการแปรรูปอาหารอย่างชำนาญการ คาดหวังว่าในอนาคตจะเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น ซึ่งการเดินทางเยือนในครั้งนี้้ ถือเป็นการกระตุ้นให้ทั้งสองฝ่าย ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนและร่วมเรียนรู้ซึ่งกันและกันมากขึ้น