ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
ปธน.ไช่ฯ ออกแถลงในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า
2020-01-31

เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ปธน.ไช่อิงเหวิน (ขวา) พร้อมด้วยรองปธน.เฉินเจี้ยนเหริน ได้ร่วมกันออกแถลงในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (ทำเนียบประธานาธิบดี)

เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ปธน.ไช่อิงเหวิน (ขวา) พร้อมด้วยรองปธน.เฉินเจี้ยนเหริน ได้ร่วมกันออกแถลงในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (ทำเนียบประธานาธิบดี)

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 30 ม.ค. 63

 

เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี ไช่อิงเหวิน แห่งสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) พร้อมด้วยนายเฉินเจี้ยนเหริน รองประธานาธิบดี ได้ร่วมออกแถลงในประเด็นที่เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของไต้หวัน และมาตรการการรับมือของรัฐบาลสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ต่อประเด็นดังกล่าว ณ ห้องโถงทำเนียบฯ

 

 

โดยปธน.ไช่ฯ ได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยงาน ที่ได้รับมอบหมายให้ร่วมกันสอดส่องป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสฯ ที่ต้องผลัดเวรกันปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ล่าสุดอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ก็เพื่อให้ประชาชนชาวไต้หวัน ได้รับการคุ้มครองทางสุขภาพกันถ้วนหน้า ปธน.ไช่ฯ เผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนได้เรียกประชุมตัวแทนระดับสูงของสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อร่วมกันอภิปรายถึง ภารกิจการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ รวมถึงวางมาตรการรับมือต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นตามมา อันเนื่องจากการแพร่ระบาดในครั้งนี้


 

ต่อกรณีการป้องกันโรคระบาด ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า ทางทำเนียบปธน.ได้เรียกร้องให้ทุกหน่วยงาน ประสานความร่วมมือและปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด ในประเด็นดังต่อไปนี้ ประการแรก ต้องบริหารจัดการความหนาแน่นของกลุ่มชนต่อพื้นที่ ประการที่ 2 คือควบคุม “ทรัพยากรยามจำเป็น” ที่ใช้เป็นเกราะป้องกันขั้นพื้นฐาน เช่น หน้ากากอนามัย ที่ผู้คนส่วนมากกำลังให้ความสนใจเป็นอย่างสูงในขณะนี้ ประการที่ 3 คือ การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เพื่อรับมือกับโรคระบาดที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นภารกิจที่สำคัญในกระบวนการถัดไป ประการที่ 4 คือ รัฐบาลส่วนกลางและท้องถิ่นต้องสามัคคีกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อดำเนินการป้องกันโรคระบาดอย่างเป็นรูปธรรม โดยปธน.ไช่ฯ คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รัฐบาลท้องถิ่นจะให้ความร่วมมือกับส่วนกลาง ในการป้องกันโรคระบาดอย่างเต็มที่


 

สำหรับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นตามมา ปธน.ไช่ฯ ได้ชี้แนะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับมือกับสถานการณ์ด้วยมาตรการเหล่านี้ ประกอบด้วย ประการแรกคือ การรักษาเสถียรภาพของตลาดหุ้นและตลาดเงินของไต้หวัน ประการที่ 2 ให้คำแนะนำบริษัทเอกชนในการป้องกันโรคระบาด เพื่อให้กระบวนการผลิตและช่องทางการจำหน่าย ยังคงดำเนินไปอย่างราบรื่น ประการที่ 3 ช่วยแก้ปัญหาวิกฤตของอุตสาหกรรมที่ต้องหยุดชะงัก  อันเนื่องมาจากได้รับผลกระทบโดยตรง โดยเฉพาะการคมนาคมขนส่ง อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและนันทนาการ พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ ในการยกระดับขึ้นสู่อีกขั้นของอุตสาหกรรม ประการที่ 4 ปธน.ไช่ฯ ได้มอบหมายให้กรมการท่องเที่ยว กระทรวงคมนาคม พิจารณาจัดสรรงบประมาณ เพื่อชดเชยค่าเสียหายบางส่วนให้กับผู้ประกอบการ ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการให้บริการท่องเที่ยวสำหรับกลุ่มทัวร์จากจีน ที่จำเป็นต้องให้ความร่วมมือกับรัฐบาลฯ ในการจัดการให้กลุ่มทัวร์ฯ เดินทางออกนอกประเทศ ก่อนเวลาที่กำหนดไว้ตามกำหนดการเดินทาง


 

ประการที่ 5 เสนอมาตรการสนับสนุนสำหรับร้านค้า ห้างสรรพสินค้าและผู้ค้าปลีก ที่ได้รับผลกระทบซ้ำซ้อน ทั้งจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ และการคุกคามของการค้าปลีกออนไลน์ ประการที่ 6 เร่งผลักดันการลงทุนภายในประเทศ โดยเฉพาะต้องเร่งให้การลงทุนของภาครัฐเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมเร่งส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชน ควบคู่กันไปด้วย ประการที่ 7 ให้กระทรวงเศรษฐการช่วยย้ำเตือนและช่วยเหลือผู้ประกอบการทางอุตสาหกรรม ในการปรับสมดุลของสายการผลิต ให้สอดคล้องกับอุปสงค์และอุปทานของตลาดประเทศ เป็นการล่วงหน้า เพื่อลดผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ ส่วนประการสุดท้าย ปธน.ไช่ฯ ขอให้สภาบริหาร พิจารณาร่างกฎหมายพิเศษและงบประมาณพิเศษ ตามแนวโน้มสถานการณ์และความจำเป็น เพื่อรองรับความต้องการของส่วนรวม ที่อาจเกิดขึ้นตามมา


 

นอกจากนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังขอขอบคุณรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น แคนาดา เป็นต้น ที่ให้การสนับสนุนไต้หวัน ในการเข้ามีส่วนร่วมในองค์การอนามัยโลก (WHO) อย่างเปิดเผย และขอขอบคุณมิตรประเทศทุกคน ที่ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ได้ร่วมเป็นกระบอกเสียงและสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งใน WHO ในขณะนี้ ทุกประเทศล้วนได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งไต้หวันก็เป็นหนึ่งในประเทศ ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวด้วย หากแต่ไต้หวันมีศักยภาพในการป้องกันประเทศ และจะร่วมรับผิดชอบในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งในประชาคมโลก เราจึงคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า WHO จะไม่กีดกันไต้หวัน ด้วยเหตุผลทางการเมือง และต้องเปิดโอกาสให้ไต้หวัน ได้เข้ามีส่วนร่วมด้วย