ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
ปธน.ไช่ฯ ย้ำ ไม่ควรลิดรอนสิทธิด้านสุขภาพด้วยเหตุผลทางการเมือง เรียกร้องการเข้ามีส่วนร่วมใน WHO อย่างเป็นรูปธรรม
2020-02-11

เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ปธน.ไช่อิงเหวินได้ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าว หลังเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดเมืองอัจฉริยะนานาชาติ ICF Top 7 ประจำปี 2020 โดยเรียกร้องให้ WHO อย่ากีดกันไต้หวันเข้าร่วม ด้วยเหตุผลทางการเมือง (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)

เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ปธน.ไช่อิงเหวินได้ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าว หลังเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดเมืองอัจฉริยะนานาชาติ ICF Top 7 ประจำปี 2020 โดยเรียกร้องให้ WHO อย่ากีดกันไต้หวันเข้าร่วม ด้วยเหตุผลทางการเมือง (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 10 ก.พ. 63

 

เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าว หลังเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดเมืองอัจฉริยะนานาชาติ ICF Top 7 ประจำปี 2020 (2020 Intelligent Community Forum) โดยระบุว่า เครือข่ายการป้องกันโรคระบาดทั่วโลกไม่ควรมีช่องโหว่ โดยเฉพาะไม่ควรลิดรอนสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุข ด้วยเหตุผลทางการเมือง พร้อมกล่าวว่า ไต้หวันจะเข้าร่วมการประชุมผู้เชี่ยวชาญโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยผ่านระบบประชุมทางไกลออนไลน์ ซึ่ง “พวกเราจะเรียกร้องขอเข้าร่วมการประชุมอย่างเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่องต่อไป” คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า WHO จะไม่กีดกันไต้หวันด้วยเหตุผลทางการเมือง หากไต้หวันได้เข้ามีส่วนร่วม เชื่อว่าจะสามารถสำแดงศักยภาพด้านวิชาชีพ เพื่อสร้างคุณประโยชน์ให้กับประชาคมโลก


 

WHO ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากทุกประเทศทั่วโลกกว่า 400 คน เข้าร่วมการประชุมสัมมนา ระหว่างวันที่ 11 – 12 ก.พ. โดยมุ่งประเด็นไปที่การผลิตยาตัวใหม่ การคิดค้นและวิจัยเทคโนโลยีการผลิตวัคซีน เพื่อใช้ในการยับยั้งโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดย WHO เผยว่า ไต้หวันจะเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ผ่านระบบประชุมทางไกลออนไลน์ ขณะที่กรมควบคุมโรคไต้หวันได้เรียกร้องขอเข้าร่วมการประชุมในสถานที่จริง คาดว่าจะได้คำตอบในวันที่ 10 ก.พ.นี้


 

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดล่าสุดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 กรมควบคุมโรค แถลงว่า ตราบจนวันที่ 10 ก.พ. ไต้หวันมีผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยและยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสดังกล่าว เป็นจำนวน 18 คน


 

ด้านคณะกรรมการกิจการจีนแผ่นดินใหญ่ สภาบริหาร สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) แถลงในวันที่ 10 ก.พ.ว่า เนื่องด้วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ยังคงแพร่ระบาดในวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ฮ่องกงและมาเก๊ามีดินแดนติดกับพื้นที่หลายแห่งในมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง ทั้งฮ่องกงและมาเก๊าจึงมีความเสี่ยงสูงในการแพร่ระบาดในชุมชน ประกอบกับการดูแลรักษาทางการแพทย์จะสามารถรับมือได้หรือไม่ ต่างก็เป็นคำถามที่ก่อให้เกิดความวิตกกังวลของประเทศอื่นๆ ดังนั้นนับตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 11 ก.พ. เป็นต้นไป ห้ามชาวฮ่องกงและมาเก๊าเดินทางเข้าไต้หวันเป็นการชั่วคราว ยกเว้นการเดินทางมาติดต่อธุรกรรมทางการค้า การโยกย้ายพนักงานในธุรกิจข้ามชาติ (รวมถึงผู้ติดตามการเดินทาง) คู่สมรสที่ได้รับบัตรถิ่นที่อยู่ (ARC) และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ นอกจากนี้นักศึกษาชาวฮ่องกงและมาเก๊า ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าไต้หวันเป็นการชั่วคราวด้วยเช่นกัน สำหรับผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าไต้หวัน ต้องกักบริเวณอยู่ในที่พักเป็นเวลา 14 วัน