เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ปธน.ไช่ฯ (ที่ 4 จากซ้าย) ได้ให้การต้อนรับ คณะผู้แทนถาวรของประเทศพันธมิตร ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 18 ก.พ. 63

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 18 ก.พ. ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับ คณะผู้แทนถาวรของประเทศพันธมิตร ประจำสหประชาชาติ นครนิวยอร์ก โดยได้กล่าวแสดงความขอบคุณคณะผู้แทนถาวรของประเทศพันธมิตร ที่ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้กับไต้หวันในเวทีสำคัญนานาชาติเสมอมา พร้อมย้ำว่า ไต้หวันเป็นด่านแรกที่ถูกคุกคามจากเชื้อไวรัสโควิด – 19 ในครั้งนี้ จึงไม่ควรถูกกีดกันให้อยู่นอกเครือข่ายการป้องกันโรคระบาดทั่วโลก ประกอบกับไต้หวันมีระบบการแพทย์ที่ก้าวหน้าล้ำสมัย ทั้งยังมีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญที่สะสมมาตั้งแต่ที่เกิดการระบาดของโรคซาร์ส (SARS) โดยจะเห็นได้ว่า บรรดานักธุรกิจชาวไต้หวันกลุ่มแรกที่เดินทางกลับมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ได้ออกจากสถานกักกันโรคอย่างราบรื่น เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งทุกคนล้วนมีสภาวะร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ จึงควรค่าแก่การแบ่งปันประสบการณ์ให้กับทั่วโลกได้รับทราบโดยทั่วกัน การสนับสนุนให้ไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การอนามัยโลก (WHO) จะสามารถช่วยให้ทั่วโลกสามารถรับมือกับการระบาดของเชื้อไวรัสฯ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

โดยปธน.ไช่ฯ ระบุว่า เบลิซ สาธารณรัฐกัวเตมาลา และสาธารณรัฐเฮติ เป็นประเทศพันธมิตรที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับไต้หวันเป็นอย่างมาก ต่างให้การสนับสนุนที่แข็งแกร่งเสมอมา หลังจากประกาศผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) แล้ว ปธน.ไช่ฯ ได้รับสารแสดงความยินดีจากผู้นำของประเทศทั้ง 3 เป็นอันดับแรก จึงคาดหวังให้บรรดาผู้แทนถาวรของประเทศพันธมิตร ส่งผ่านคำขอบคุณของปธน.ไช่ฯ ไปยังผู้นำในประเทศด้วย

ปธน. ไช่ฯ เน้นย้ำว่า ประเทศพันธมิตรเป็นช่องทางสำคัญ ที่จะช่วยผลักดันให้ไต้หวันผ่านเข้าสู่เวทีสำคัญระดับโลก โดยเฉพาะในช่วงหลายปีมานี้ จีนขัดขวางไต้หวันเข้าร่วมในเวทีนานาชาติทุกวิถีทาง ปธน. ไช่ฯ ขอขอบคุณที่ประเทศพันธมิตรร่วมเป็นกระบอกเสียงที่สำคัญให้กับไต้หวันในเวทีสำคัญเสมอมา ทั้งนี้ เพื่อให้ทั่วโลกได้ยินเสียงเรียกร้องด้วยใจจริงของไต้หวัน

ทั้งนี้ ปธน.ไช่ฯ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ไต้หวันต้องเผชิญกับวิกฤตการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 เช่นเดียวกับประชาคมโลก แต่ถึงกระนั้น WHO ก็ยังคงกีดกันไต้หวัน ด้วยเหตุผลทางการเมือง

ในตอนท้าย ปธน.ไช่ฯ ย้ำหนักแน่นว่า ไม่ควรลิดรอนสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุข ด้วยเหตุผลทางการเมือง การป้องกันโรคระบาดเป็นภารกิจระดับโลก เครือข่ายการป้องกันโรคระบาดทั่วโลกไม่ควรมีช่องโหว่ นอกจากนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังได้เรียกร้องว่า การสนับสนุนให้ไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมใน WHO จะสามารถช่วยให้ทั่วโลกสามารถรับมือกับการระบาดของเชื้อไวรัสฯ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยไต้หวันจะมุ่งมั่นพยายามต่อไป และคาดหวังว่าประเทศพันธมิตรจะร่วมเป็นกระบอกเสียง และให้การสนับสนุนไต้หวันอย่างต่อเนื่องต่อไป