นายหยางซือกง (ที่ 3 จากขวา) ผอ.ใหญ่ สำนักงานการค้าไทเป ประจำนครดูไบ นายหวังซิ่นสวง (ที่ 1 จากขวา) ผู้อำนวยการสมาคมการค้าไต้หวัน – ดูไบ และ Mr. Abdul Kareem (ที่ 3 จากซ้าย) เยี่ยมชมคูหาไต้หวัน (ภาพจาก TAITRA)
TAITRA วันที่ 18 ก.พ. 63
เมื่อวันที่ 18 ก.พ. สภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวัน (TAITRA) แถลงว่า กรมการค้าระหว่างประเทศ (BOFT) กระทรวงเศรษฐการ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวัน ได้ทำการรวบรวมคณะผู้ประกอบการไต้หวันเดินทางไปเข้าร่วม “งานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติ ปี 2020 (Gulfood 2020)” ซึ่งได้เปิดฉากขึ้นอย่างอลังการเมื่อวันที่ 16 ก.พ. โดยนิทรรศการครั้งนี้ถือเป็นงานแสดงสินค้าอาหารที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ในปีนี้ มีผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของไต้หวัน เข้าร่วมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 18 ราย ร่วมกันจัดตั้งคูหาไต้หวันและร่วมเดินทางไปคว้าโอกาสธุรกิจในตลาดตะวันออกกลางที่นครดูไบ
ทั้งนี้ งานแสดงสินค้าในครั้งนี้ได้ดึงดูดผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม จากนานาประเทศทั่วโลกเข้าร่วมทั้งหมด 4,200 ราย และคาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมกว่า 1 แสนคน คูหาไต้หวันในปีนี้ได้จัดขึ้นทั้งในโซนอาหารนานาชาติและโซนเครื่องดื่ม โดยผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารของไต้หวัน ประกอบด้วยบริษัทที่มีชื่อเสียงในประเทศ อย่างบริษัท Want Want Holdings Limited บริษัท CHIMEI กองการเกษตร เทศบาลนครเกาสง และบริษัท T.K FOOD ที่ประสบความสำเร็จในการขยายตลาดเข้าสู่ตะวันออกกลางในปี 2019 และบริษัทอื่นๆ อีก 12 ราย สำหรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเครื่องดื่มก็มีศักยภาพทางการแข่งขันไม่แพ้กัน นอกจากจะมีบริษัท King Car Industrial และบริษัท Odean ที่ประสบความสำเร็จในการสร้างยอดขายในตลาดต่างประเทศ ตลอดช่วงที่ผ่านมาแล้ว ยังมีบริษัท Hey-Song Corp.ที่ได้เปิดตัวในงานนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งคาดหวังว่าจะสามารถรุกตลาดตะวันออกกลาง ผ่านการเข้าร่วมงานในครั้งนี้
งานแสดงสินค้า Gulfood 2020 ได้เปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยนายหยางซือกง ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานการค้าไทเป ประจำนครดูไบ (The Commercial Office of Taipei, Dubei, U.A.E.) ได้เดินทางมาเยี่ยมชมคูหาไต้หวัน และให้กำลังใจแก่บรรดาผู้ประกอบการไต้หวันที่เดินทางมาเข้าร่วมในครั้งนี้ นอกจากนี้ ศูนย์ส่งเสริมการค้าไต้หวัน – ดูไบยังได้ติดต่อเชิญ Mr. Abdul Kareem เน็ตไอดอลที่มีชื่อเสียงในตะวันออกกลาง ซึ่งมีผู้คนติดตามกว่า 2.4 ล้านคน มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับคูหาไต้หวัน โดยได้ร่วมพูดคุยและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ประกอบการไต้หวันอย่างใกล้ชิด อีกทั้งได้โพสต์ข้อความลงบนสื่อโซเชียลในวันเดียวกันนั้น เพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพของไต้หวันให้ผู้คนในประเทศ ได้มีโอกาสรู้จักกับสินค้าคุณภาพเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น ตลอดจนเป็นการยกระดับชื่อเสียงของผลิตภัณฑ์อาหารของไต้หวัน ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายในพื้นที่ตะวันออกกลางอีกด้วย
กองการเกษตร เทศบาลนครเกาสง หนึ่งในหน่วยงานที่เข้าร่วมงานแสดงสินค้าฯ ได้นำผลผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพของนครเกาสง ไปร่วมจัดแสดงในครั้งนี้ อาทิ พุทราสายพันธุ์ไต้หวัน ฝรั่งสายพันธุ์ไข่มุกในเขตเยี่ยนเฉา และแก้วมังกร โดยในปีนี้ พุทราและฝรั่งไต้หวันสามารถวางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ต Aswaaq Supermarket ในดูไบได้ นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายของวันที่ 15 ก.พ. ก่อนวันงานแสดงสินค้าฯ ทางซูเปอร์มาร์เก็ตได้จัดกิจกรรมโปรโมท “พุทราและฝรั่งจากเกาสง ขยายตลาดเข้าสู่ดูไบ” ดึงดูดผู้บริโภคจำนวนมากแวะเวียนมาชิมและเลือกซื้อกันอย่างคึกคัก
