ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
TAITRA จัดการประชุมด้านแนวโน้มการพัฒนาด้านเศรษฐกิจการค้าในตลาดประเทศมุ่งใต้ใหม่ 2020
2020-02-24

แขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน “การประชุมว่าด้วยแนวโน้มการพัฒนาด้านเศรษฐกิจการค้าในตลาดประเทศนโยบายมุ่งใต้ใหม่ ปี 2020” ถ่ายภาพร่วมกัน ซึ่งประกอบด้วย นายเย่หมิงซุ่ย (ที่ 8 จากซ้าย) เลขาธิการ TAITRA และคุณเปมิกา ลุสนานนท์ (ที่ 3 จากขวา) หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย ไทเป เป็นต้น (ภาพจาก TAITRA)

แขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน “การประชุมว่าด้วยแนวโน้มการพัฒนาด้านเศรษฐกิจการค้าในตลาดประเทศนโยบายมุ่งใต้ใหม่ ปี 2020” ถ่ายภาพร่วมกัน ซึ่งประกอบด้วย นายเย่หมิงซุ่ย (ที่ 8 จากซ้าย) เลขาธิการ TAITRA และคุณเปมิกา ลุสนานนท์ (ที่ 3 จากขวา) หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย ไทเป เป็นต้น (ภาพจาก TAITRA)

TAITRA วันที่ 20 ก.พ. 63

 

เมื่อวันที่ 20ก.พ. สภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวัน (TAITRA) ได้จัดการประชุมประจำปีสำหรับกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจในประเทศเป้าหมายนโยบายมุ่งใต้ใหม่ ครั้งที่ 3 ภายใต้หัวข้อ “แนวโน้มการพัฒนาด้านเศรษฐกิจการค้าในตลาดประเทศมุ่งใต้ใหม่ 2020” (New Southbound Market Economic and Trade Trends Forum) โดยยึดแนวคิด “มองให้ไกลออกไปจากไต้หวัน เชื่อมโยงเชิงลึกสู่นานาชาติ” เป็นหลัก โดยได้เชิญผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นและชาวไทย มาร่วมแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับการขยายตลาดเข้าสู่ประเทศตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่ ซึ่งภายในงานครั้งนี้ ยังได้รับเกียรติจากตัวแทนของประเทศตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่ในไต้หวัน รวม 9 ประเทศ เดินทางมาเข้าร่วมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับแขกที่มาร่วมงาน โดยการประชุมในครั้งนี้ ได้ถ่ายทอดสดผ่านช่องทาง Webinar เพื่อให้ผู้ชมชาวไต้หวันสามารถรับชมจากเคหสถานได้อย่างไม่มีข้อจำกัดด้านสถานที่ ซึ่งมียอดผู้ชมออนไลน์สูงถึง 253 คน อีกทั้งยังมีบรรดาผู้ประกอบการกว่า 116 คน เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย


 

นายเย่หมิงซุ่ย เลขาธิการ TAITRA กล่าวว่า นโยบายมุ่งใต้ใหม่ 2.0 ในปี 2020 จะมุ่งเน้นไปที่รูปแบบของการผสมผสานระหว่าง “การพลิกแพลง” และ “เทคโนโลยีดิจิทัล” อันนำไปสู่การผลักดันให้เกิดเป็น “ทีมขยายตลาดเชิงกลยุทธ์ขนาดย่อม” ประกอบกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ตามที่แพลตฟอร์มอี - คอมเมิร์ซระดับแนวหน้าในประเทศนั้นๆ กำหนดไว้ให้ อาทิ การยกเว้นค่าใช้จ่ายในการวางขายสินค้า ค่าเมมเบอร์ประจำปีลดสูงสุด 50 % จึงทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ ในส่วนของการขยายตลาดต่างประเทศนั้น ก็ต้องการที่จะส่งเสริมให้ผู้บริโภคท้องถิ่นมีความเชื่อมั่นและใช้สินค้าแบรนด์ไต้หวันอย่างต่อเนื่อง ผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ อาทิ การวิ่งมาราธอน หรือการแข่งขัน E-Sports เป็นต้น


 

ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจและการค้าโลก กระทรวงเศรษฐการไต้หวัน (MOEA) และ TAITRA จะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการไต้หวันในการสร้างฐานธุรกิจและฐานลูกค้าใหม่ ตลอดจนร่วมสร้างคุณค่าแบรนด์ในเชิงลึก โดย MOEA ได้จัดตั้ง “โซนไต้หวัน” ขึ้นในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมของบริษัทอมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการในการย้ายฐานธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ TAITRA ยังได้จัด “มหกรรม Taiwan Expo” ขึ้น โดยมีกำหนดการเดินทางไปจัดนิทรรศการในไทยและอีก 5 ประเทศ ทั้งนี้ เพื่อต้องการประชาสัมพันธ์ให้ทั่วโลกได้รับรู้ถึงวัฒนธรรมอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของไต้หวัน และปลูกฝังภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้กับผู้บริโภคในประเทศต่างๆ ด้วย


 

นอกจากนี้ นายเย่หมิงซุ่ย ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19 ที่ส่งผลกระทบต่อการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการค้า ทาง TAITRAได้วางแผนไว้ว่าหลังจากที่การแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลายลง จะเชิญชวนผู้ซื้อจากนานาประเทศให้เดินทางมาสั่งซื้อสินค้าที่ไต้หวัน โดยจะจัดคณะผู้แทนการค้าเพิ่มเป็นจำนวน 50 – 80 กลุ่ม บวกกับคณะขยายตลาดเชิงกลยุทธ์ขนาดย่อมอีก 200 กลุ่มด้วย


 

สำหรับกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจในประเทศเป้าหมายตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่ ที่ร่วมกันจัดขึ้นโดยกรมการค้าระหว่างประเทศ (BOFT) และ TAITRA ประกอบด้วยนักธุรกิจไต้หวันจากประเทศต่างๆ ที่แบ่งเป็นกลุ่มย่อยดังนี้ อินโดนีเซีย มาเลเซียและบรูไน เวียดนามและกัมพูชา ฟิลิปปินส์ เมียนมา ไทยและลาว สิงคโปร์ อินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ เนปาล ศรีลังกา ภูฏาน และกลุ่มสุดท้ายคือ นิวซีแลนด์และออสเตรเลีย ทั้งนี้ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการไต้หวัน ในการสร้างโอกาสเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมขยายตลาด รวมไปถึงการให้บริการในโครงการพิเศษ และทรัพยากรด้านการค้าระหว่างประเทศ ที่ให้การสนับสนุนโดย TAITRA