ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
สมาคมนักธุรกิจไต้หวันในจังหวัดชลบุรีบริจาคสิ่งของ เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนรักการเรียน
2020-03-13

เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา สมาคมนักธุรกิจไต้หวันในจังหวัดชลบุรี จัดกิจกรรมส่งมอบสิ่งของบริจาคที่จังหวัดชลบุรี โดยได้ร่วมบริจาคทุนการศึกษาและอุปกรณ์การเรียนให้กับโรงเรียนชนบทในพื้นที่ 2 แห่ง (ภาพจาก OCAC)

เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา สมาคมนักธุรกิจไต้หวันในจังหวัดชลบุรี จัดกิจกรรมส่งมอบสิ่งของบริจาคที่จังหวัดชลบุรี โดยได้ร่วมบริจาคทุนการศึกษาและอุปกรณ์การเรียนให้กับโรงเรียนชนบทในพื้นที่ 2 แห่ง (ภาพจาก OCAC)

OCAC วันที่ 6 มี.ค. 63

 

เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา สมาคมนักธุรกิจไต้หวันในจังหวัดชลบุรีได้จัดกิจกรรมส่งมอบสิ่งของบริจาคให้แก่โรงเรียนชนบทที่จังหวัดชลบุรี ภายใต้การนำของนายซือจวิ้นเสียน นายกสมาคมฯ และนายจางตงหยวน คณะกรรมการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ โดยได้ทยอยนำบรรดาเจ้าหน้าที่ของสมาคมฯ เดินทางไปส่งมอบสิ่งของบริจาคที่โรงเรียนบ้านระเวิงราษฎร์อุปถัมภ์ และโรงเรียนบ้านนอก โดยได้นำหนังสือ เครื่องเขียน และทุนการศึกษาไปมอบให้กับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาในโรงเรียนทั้ง 2 แห่งดังกล่าว


 

ในวันกิจกรรม นายเกาเจียฟู่ หัวหน้าฝ่ายกิจการชาวจีนโพ้นทะเลของสำนักงานตัวแทนไต้หวันในประเทศไทยได้เดินทางจากกรุงเทพมหานครมาเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในงานครั้งนี้ด้วยเช่นกัน นายเกาฯ กล่าวว่า กิจกรรมที่สมาคมนักธุรกิจไต้หวันในจังหวัดชลบุรีจัดขึ้นในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือในการตอบแทนสังคมไทยของบรรดานักธุรกิจไต้หวันในไทย หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการประกอบกิจการของตนในพื้นที่แล้ว การให้ความช่วยเหลือแก่นักเรียนผู้ยากไร้ ส่งเสริมให้เยาวชนรักการเรียนผ่านกิจกรรมเพื่อสังคมครั้งนี้ ยังถือเป็นการยกระดับภาพลักษณ์ของชาวจีนโพ้นทะเลที่พำนักอาศัยในไทย อีกทั้งยังเป็นการสร้างคุณประโยชน์ด้านการแลกเปลี่ยนภาคประชาชนระหว่างไต้หวัน – ไทยอีกด้วย


 

นายซือฯ กล่าวว่า กิจกรรมส่งมอบสิ่งของบริจาคในครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่ทางสมาคมฯ ได้วางแผนจัดขึ้นเอง ขอขอบคุณนายจางฯ และภริยาที่ได้ร่วมจัดกิจกรรมที่เปี่ยมด้วยความหมายเช่นนี้ การศึกษาเป็นบ่อเกิดแห่งความสำเร็จในทุกสายอาชีพ ควรค่าที่ทุกคนจะให้ความสำคัญ มีเพียงการศึกษาเท่านั้นที่จะสามารถบ่มเพาะบุคลากรในอนาคตในกับประชาคมโลกได้


 

นอกจากนี้ กิจกรรมในครั้งนี้ยังได้เชิญรองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีและเจ้าหน้าที่สำนักการศึกษาในพื้นที่เดินทางมาเข้าร่วมด้วย เพื่อเป็นสักขีพยานในกิจกรรมเพื่อสังคมที่เกิดจากความห่วงใยของบรรดานักธุรกิจไต้หวันในไทย