ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
ไต้หวันพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด–19 รายใหม่เพิ่มขึ้น 17 ราย ยอดสะสมรวม 252 ราย
2020-03-27

เมื่อวันที่ 26 มี.ค. CECC ระบุว่า ไต้หวันมีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มขึ้น 17 รายในวันที่ 25 มี.ค. ขณะนี้มียอดผู้ป่วยยืนยันในประเทศรวม 252 ราย (ภาพจาก CECC)

เมื่อวันที่ 26 มี.ค. CECC ระบุว่า ไต้หวันมีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มขึ้น 17 รายในวันที่ 25 มี.ค. ขณะนี้มียอดผู้ป่วยยืนยันในประเทศรวม 252 ราย (ภาพจาก CECC)

CECC วันที่ 26 มี.ค. 63

 

เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมา ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาด (Central Epidemic Command Center, CECC) แถลงว่า จนถึงวันที่ 26 มี.ค. 2563 ไต้หวันมีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 17 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ 15 ราย ส่วนอีก 2 รายเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ โดยผู้ป่วยที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ 15 รายนั้น เป็นหญิง 7 ราย และชาย 8 ราย โดยมีอายุระหว่าง 20 – 60 ปีเศษ ช่วงเวลาที่เดินทางเข้าสู่ประเทศอยู่ระหว่างวันที่ 16 – 23 มี.ค. 63 ส่วนช่วงเวลาที่เริ่มปรากฎอาการอยู่ระหว่างวันที่ 11 – 23 มี.ค. 63 ซึ่งก่อนหน้านี้ ผู้ป่วยยืนยันเหล่านี้มีประวัติการเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา อังกฤษ นิวซีแลนด์ สเปน มาเลเซีย โมร็อกโค และเม็กซิโก


 

ส่วนผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศรายที่ 246 และ 247 ล้วนเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศในช่วงก่อนหน้านี้ ในจำนวนนี้ ผู้ป่วยรายที่ 246 เป็นชายวัย 60 ปีเศษ เป็นสมาชิกในครอบครัวที่พักอาศัยอยู่ด้วยกันกับผู้ป่วยรายที่ 209 ซึ่งเป็นผู้ป่วยยืนยันที่เดินทางกลับมาจากสหรัฐฯ แม้จะไม่ปรากฎอาการใดๆ แต่หลังจากตรวจคัดกรองแล้ว ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ ส่วนผู้ป่วยรายที่ 247 เป็นหญิงวัย 40 ปีเศษ เป็นสมาชิกในครอบครัวที่พักอาศัยอยู่ร่วมกับผู้ป่วยรายที่ 228 ซึ่งเป็นผู้ป่วยยืนยันที่เดินทางกลับมาจากเนเธอร์แลนด์ โดยเริ่มปรากฎอาการเมื่อวันที่ 23 มี.ค. 63 หลังจากที่ได้เข้าพบแพทย์และทำการตรวจคัดกรองแล้ว ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ พร้อมทั้งรายงานต่อหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ขณะนี้มีผู้ป่วยยืนยันรวม 252 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 212 ราย และติดเชื้อจากภายในประเทศ 40 ราย


 

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา CECC แถลงว่า เนื่องจากทางศูนย์ฯ เห็นว่า กิจกรรมชุมนุมโดยทั่วไป มักมีผู้คนมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก และใช้เวลาในการชุมนุมค่อนข้างนาน ประกอบกับอาจเกิดการสัมผัสใกล้ชิดระหว่างผู้เข้าร่วม ทำให้มีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดสูง หากในสถานการณ์นั้นๆ มีผู้ที่มีอาการเข้าข่ายสงสัยหรือเกิดการแพร่ระบาดในกลุ่มชน จะทำให้ภารกิจการป้องกันโรคระบาดเป็นไปอย่างยากลำบากมากยิ่งขึ้น ดังนั้น CECC จึงประกาศว่า นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขอความร่วมมือจากภาคประชาชน ให้ยกเลิกกิจกรรมชุมนุมภายในอาคารที่มีจำนวนผู้เข้าร่วมมากกว่า 100 คนขึ้นไป และกิจกรรมกลางแจ้งที่มีจำนวนผู้เข้าร่วมมากกว่า 500 คนขึ้นไป เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดในระดับชุมชน


 

ทั้งนี้ CECC ยังได้ชี้แจงว่า สำหรับกิจกรรมชุมนุมที่มีจำนวนผู้เข้าร่วมน้อยกว่า 100 คน หรือกิจกรรมกลางแจ้งที่มีจำนวนผู้เข้าร่วมน้อยกว่า 500 คน ทางเจ้าภาพสามารถประเมินความเสี่ยงตามเกณฑ์การประเมินทั้ง 6 ประการที่ได้ระบุไว้ใน "คู่มือรับมือโควิด-19 : ว่าด้วยการชุมนุม" ประกอบด้วย 1) มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะทราบข้อมูลของผู้เข้าร่วมล่วงหน้า 2) การระบายอากาศและการหมุนเวียนของอากาศในพื้นที่กิจกรรม 3) ระยะห่างระหว่างผู้เข้าร่วมกิจกรรม 4) ช่วงระหว่างกิจกรรม ที่นั่งของผู้เข้าร่วมจะมีการสับเปลี่ยนที่หรือไม่ 5) ระยะเวลาในการดำเนินกิจกรรม และ 6) ในระหว่างกิจกรรม ผู้เข้าร่วมสามารถรักษาสุขอนามัยมือและสวมหน้ากากอนามัยได้หรือไม่ หากประเมินแล้วพบว่า ลักษณะของกิจกรรมอยู่ในเกณฑ์ความเสี่ยงสูง แนะนำว่าควรเลื่อนออกไปหรือยกเลิก หรือปรับวิธีการชุมนุมให้ดำเนินไปในรูปแบบอื่น