ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
โครงการหัวหน้าหมุนเวียนของ “Women's Dreams Pavilion of Pingtung” ประจำเดือน ส่งเสริมให้บรรดาสตรีและผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในพื้นที่ แสดงศักยภาพของตนอย่างเต็มที่
2020-04-01

สวีลี่ลี่ ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวไทยสอนศิลปะการสร้างสรรค์ผลงานจากกะลามะพร้าว (ภาพจากเทศบาลเมืองผิงตง)

สวีลี่ลี่ ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวไทยสอนศิลปะการสร้างสรรค์ผลงานจากกะลามะพร้าว (ภาพจากเทศบาลเมืองผิงตง)

เทศบาลเมืองผิงตง วันที่ 28 มี.ค. 63

 

เมื่อวันที่ 28 มี.ค. เทศบาลเมืองผิงตงแถลงว่า ทางเทศบาลและกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ร่วมมือกันจัดตั้ง “Women's Dreams Pavilion of Pingtung” ขึ้นที่บริเวณชั้น 3 ของอาคารอเนกประสงค์เมืองผิงตง เมื่อปี 2014 โดยได้เชิญชวนให้สตรีที่อาศัยอยู่ในเมืองผิงตง มาผลัดกันรับหน้าที่เป็นหัวหน้าศูนย์ฯ โดยไม่จำกัดสัญชาติและสถานภาพ ทั้งยังกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าว สามารถจัดแสดงผลงานศิลปะสร้างสรรค์ เวทีแบ่งปันประสบการณ์ และเปิดหลักสูตรฝึกอบรมด้านศิลปหัตถกรรมได้อีกด้วย


 

หวงเหม่ยลี่ สตรีผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ที่มีฝีมือทางด้านศิลปะการปักผ้าแบบเซียงสิ้วหรือตามแบบฉบับของมณฑลหูหนาน ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งกำเนิดของผ้าปักที่มีชื่อเสียง 1 ใน 4 ของจีน ได้รับคัดเลือกให้รับหน้าที่เป็นหัวหน้าศูนย์ฯ ประจำเดือนมีนาคมปีนี้ โดยหวงฯ กล่าวว่า สมัยก่อนตอนที่อยู่หูหนาน ทุกคนในชุมชนมักจะมารวมตัวกันปักผ้าเพื่อฆ่าเวลา จึงไม่เคยคิดฝันว่า เทคนิคการปักผ้าเซียงสิ้วที่ติดตัวมา หรือที่เรียกว่ากันว่า “งานอดิเรกในชีวิตประจำวัน” จะส่งผลให้ตนได้รับหน้าที่อันทรงเกียรตินี้


 

สวีลี่ลี่ สตรีผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวไทย รับหน้าที่เป็นหัวหน้าศูนย์ฯ ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว สวีฯ กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า ตอนที่ทราบว่า ถูกเชิญให้เป็นอาจารย์สอนศิลปะหัตถกรรม รู้สึกตื่นเต้นและดีใจเป็นอย่างมาก อาจเป็นเพราะไม่ค่อยได้มีโอกาสแบ่งปันงานศิลปะจากกะลามะพร้าวให้ใครได้รับชม จึงยินดีรับหน้าที่นี้ ถึงแม้ว่าการออกแบบเนื้อหาของหลักสูตรและการจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ได้สร้างความปวดหัวให้เธอไม่น้อย แต่ท้ายที่สุดเมื่อได้เห็นสีหน้าที่เปี่ยมด้วยความสนใจของผู้เข้าร่วม ก็ทำให้เธอรู้สึกชื่นใจ และที่น่าประทับใจมากที่สุดคือ แม้ว่าตนจะเป็นชาวต่างชาติ แต่สถานที่แห่งนี้ไม่มีการแบ่งแยกและจำกัดสัญชาติ ในฐานะที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน ทุกคนสามารถร่วมแบ่งปัน ให้กำลังใจ และเรียนรู้ซึ่งกันและกัน อีกทั้งรู้สึกได้ว่า เทศบาลเมืองผิงตงให้ความสำคัญกับสิทธิสตรีอย่างเท่าเทียมกันโดยไม่คำนึงถึงสัญชาติ