เมื่อวันที่ 8 เม.ย. นายเฉินเจี้ยนเหริน รองประธานาธิบดี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่รายการโทรทัศน์ Newsday ของ BBC ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์การป้องกันโรคระบาดของไต้หวัน (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 8 เม.ย. 63
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 8 เม.ย. นายเฉินเจี้ยนเหริน รองประธานาธิบดี แห่งสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่รายการโทรทัศน์ Newsday ของบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ (British Broadcasting Corporation, BBC) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์การป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ของไต้หวัน พร้อมตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการป้องกันโรคระบาดทั่วโลก
โดยเนื้อหาของบทสัมภาษณ์มีดังต่อไปนี้
พิธีกร : ภายใต้สภาวการณ์ที่ทั่วโลกกำลังพยายามยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ไต้หวันซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีการแพร่ระบาดโรคโควิด - 19 อย่างรุนแรง จนถึงขั้นไม่สามารถควบคุมได้เป็นประเทศแรก กลับประสบความสำเร็จในการยับยั้งโรคระบาดในครั้งนี้ไว้ได้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม ปี 2019 ไต้หวันได้เริ่มทำการตรวจคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าบนเที่ยวบินที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน โดยได้ตรวจสุขภาพเบื้องต้นของบรรดาผู้โดยสาร ว่ามีอาการเป็นไข้หรือมีอาการคล้ายกับเป็นโรคปอดอักเสบหรือไม่ พร้อมกันนี้รัฐบาลไต้หวันได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาด (Central Epidemic Command Center, CECC) ขึ้นในวันที่ 20 ม.ค. โดยทุกหน่วยงานได้ผนึกกำลังกันในการปฏิบัติภารกิจการป้องกันโรคระบาด พร้อมคุมเข้มมาตรการที่สำคัญๆ ประกอบด้วย การควบคุมการเข้าออกเมืองตามแนวชายแดน สกัดกั้นการแพร่กระจายของข่าวปลอม ตลอดจนเตรียมแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจสำหรับองค์กรธุรกิจ
โดยผู้ที่มาร่วมสนทนาเกี่ยวกับมาตรการป้องกันโรคระบาดของไต้หวันกับเราในวันนี้คือ ดร. เฉินเจี้ยนเหริน รองปธน.ไต้หวัน ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขและการควบคุมโรคระบาด และเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันโรคระบาดครั้งนี้ จนได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย ดังนั้น เราจึงต้องการทราบว่า สืบเนื่องจากผลสัมฤทธิ์ด้านการป้องกันโรคระบาดของไต้หวัน ได้สร้างความอัศจรรย์ใจให้กับประชาคมโลกอย่างคาดไม่ถึง รองปธน.เฉินฯ คิดว่าประเทศอื่นๆ จะสามารถเรียนรู้อะไรได้จากมาตรการป้องกันโรคระบาดของไต้หวัน
รองปธน.เฉินฯ : ก่อนอื่นกระผมขออวยพรให้ Mr. Alexander Boris de Pfeffel Johnson นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรแข็งแรงขึ้นในเร็ววัน และขอให้ประชาชนชาวอังกฤษมีสันติสุขกันถ้วนหน้า สถานการณ์ในไต้หวันยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี และเป็นไปตามที่คุณได้กล่าวไว้ ตราบจนวันที่ 7 เม.ย. ไต้หวันมียอดผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด – 19 รวม 376 ราย ในจำนวนนี้ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย ซึ่งในจำนวนทั้งหมด ส่วนมากเป็นผู้ป่วยยืนยันที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ เพราะฉะนั้นการดำเนินการด้วยความรวดเร็วจึงถือเป็นปัจจัยสำคัญ เราได้ประยุกต์ใช้มาตรการป้องกันโรคระบาดอย่างครอบคลุม นอกจากนี้ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เรียกประชุมตัวแทนระดับสูงของสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อร่วมเจรจาในการบูรณาการทรัพยากรของทุกหน่วยงาน อาทิ การประกาศสัญญาณเตือนภัยการเดินทางเข้าสู่ประเทศ / เขตพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก ยกระดับมาตรการตรวจคัดกรองตามแนวชายแดน เสริมสร้างมาตรการกักตัวเพื่อเฝ้าระวังอาการเป็นเวลา 14 วัน ยกระดับระบบการดูแลรักษาโรคติดต่อ พร้อมจัดสรรอุปกรณ์การป้องกันตนเองจากโรคระบาดและเครื่องมือทางการแพทย์ ให้กับบุคลากรทางการแพทย์อย่างเพียงพอ ตลอดจนส่งเสริมข้อมูลความรู้ด้านสุขอนามัย และดำเนินการสื่อสารระหว่างภาครัฐและภาคประชาชน ที่สำคัญที่สุดคือ การวิจัยและพัฒนาชุดน้ำยาเพื่อการตรวจคัดกรอง และวัคซีนป้องกันโรค
พิธีกร : ไต้หวันได้ให้ความช่วยเหลือแก่นานาประเทศในการป้องกันโรคระบาด เราจึงอยากทราบว่าไต้หวันให้ความช่วยเหลือแก่นานาประเทศและประชาคมโลกอย่างไรบ้าง
รองปธน.เฉินฯ : ใช่ครับ เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา ปธน.ไช่ฯ ได้ยืนยันหนักแน่นว่า ไต้หวันสามารถช่วยได้ และขณะนี้ไต้หวันก็กำลังส่งมอบความช่วยเหลือให้กับประชาคมโลกอย่างต่อเนื่อง พวกเราต้องการให้ประชาชนเข้าใจถึงหลักการที่ปธน.ไช่ฯ ได้ระบุไว้ ในช่วงเวลาที่ทั่วโลกต้องการความช่วยเหลือ ประกอบกับเมื่อพิจารณาถึงหลักมนุษยธรรม ทำให้ไต้หวันไม่สามารถนิ่งเฉยอยู่ได้ ในปัจจุบันไต้หวันกำลังเร่งเสริมสร้างความร่วมมือด้านการป้องกันโรคระบาดกับประชาคมโลกอย่างกระตือรือร้น และยินดีที่จะส่งมอบความช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรมให้กับประชาคมโลก โดยทรัพยากรจำเป็นที่จะบริจาคให้ประกอบด้วย หน้ากากอนามัย ยารักษาโรค และความช่วยเหลือด้านเทคนิคทางการแพทย์ ซึ่งเราให้คำมั่นว่าจะบริจาคหน้ากากอนามัย 10 ล้านชิ้นเพื่อส่งมอบความช่วยเหลือให้กับบุคลากรทางการแพทย์ของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดอย่างหนัก ซึ่งรวมถึงอังกฤษด้วย ขณะนี้เรากำลังให้ความช่วยเหลือรัฐบาลอังกฤษ ในการจัดซื้อทรัพยากรที่จำเป็นในการป้องกันโรคระบาดที่ผลิตในไต้หวันอย่างกระตือรือร้น ทั้งนี้ เพื่อปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แนวหน้าและบรรดาประชาชน นอกจากนี้ เมื่อช่วงที่ผ่านมา ไต้หวันและสหรัฐอเมริกาได้ร่วมลงนามในความตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันโรคระบาดระหว่างกันอย่างเปิดเผยแล้ว ซึ่งเราคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะประสานความร่วมมือด้านการป้องกันโรคระบาดกับทางอังกฤษด้วยเช่นกัน เพื่อร่วมปกป้องประชาชนทั่วโลก
