เมื่อวันที่ 20 เม.ย. นายสวีซือเจี่ยน รมช.ต่างประเทศ นายธงชัย ชาสวัสดิ์ ผอญ.สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย ไทเป (TTEO) และนายเจิ้งเหวินช่าน ผู้ว่าการนครเถาหยวน (จากซ้ายไปขวา) เดินทางเข้าร่วมพิธีพิธีส่งมอบชุด PPE ให้กับประเทศไทยและนครเถาหยวน (ภาพจากเทศบาลนครเถาหยวน)
เทศบาลนครเถาหยวน วันที่ 20 เม.ย. 63
เทศบาลนครเถาหยวนแถลงว่า สมาคมนักธุรกิจนครเถาหยวน (Taoyuan Enterprise Chamber, TEC) ต้องการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยบรรเทาปัญหาขาดแคลนทรัพยากรทางการแพทย์และการป้องกันโรคระบาดของไทย ประกอบกับได้พิจารณาถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไต้หวัน – ไทย จึงได้ประสานความร่วมมือกับมูลนิธิ iparadise foundation ของไต้หวัน บริจาคชุดป้องกันส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment, PPE) ให้กับประเทศไทยและนครเถาหยวน ซึ่งได้จัดพิธีส่งมอบสิ่งของบริจาคเมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา
นายเจิ้งเหวินช่าน ผู้ว่าการนครเถาหยวน กล่าวปราศรัยขณะเข้าร่วมพิธีฯ โดยได้แสดงความขอบคุณสมาคม TEC และมูลนิธิ iparadise foundation ที่ได้มีส่วนร่วมในภารกิจการป้องกันโรคระบาดอย่างกระตือรือร้น และขอบคุณบริษัทสิ่งทอ Roo Hsing ที่ได้ช่วยจัดตารางการผลิต ภายใต้สภาวการณ์ที่ได้รับใบสั่งซื้อจากต่างประเทศอย่างท่วมท้นเช่นนี้ ทาง Roo Hsing ก็ยังสามารถจัดสรรชุด PPE จำนวน 30,000 ชุด เพื่อมอบให้กับไทยและนครเถาหยวน ซึ่งจากการบริจาคทรัพยากรที่จำเป็นต่อการป้องกันโรคระบาดในครั้งนี้ นอกจากจะแสดงให้เห็นว่า “ไต้หวันช่วยได้” (Taiwan Can Help!) แล้ว ยังแสดงให้เห็นด้วยว่า “เถาหยวนช่วยได้” (Taoyuan Can Help!) โดยทั้งหมดนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการสนับสนุนในระบบลูกโซ่ โดยนครเถาหยวนเป็นแรงสนับสนุนของไต้หวัน ส่วนไต้หวันเป็นแรงสนับสนุนให้กับไทย พร้อมคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ไต้หวัน – ไทยจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันในเชิงลึกมากขึ้น เพื่อบรรลุเป้าหมายในการจับมือกันก้าวข้ามวิกฤตครั้งใหญ่นี้ไปด้วยกัน
นายเจิ้งฯ กล่าวว่า ไต้หวันได้สร้างคุณประโยชน์มากมายในภารกิจการป้องกันโรคระบาด และเป็นแบบอย่างที่ดีในการรับมือกับวิกฤตครั้งนี้ ขณะที่ประเทศไทยก็มีความมุ่งมั่นในการดำเนินมาตรการต่างๆ อาทิ บูรณาการระบบการแพทย์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระดมกำลังอาสาสมัครเข้าสู่พื้นที่ชนบท เพื่อบรรลุเป้าหมายในการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ในไทย
ทั้งนี้ ไต้หวันและไทยต่างมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันมาเป็นระยะเวลายาวนาน นักท่องเที่ยวไปมาหาสู่กันอย่างคึกคักตลอดปี แรงงานต่างชาติจากไทยที่มาทำงานในไต้หวันก็มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งในจำนวนนี้ มี 16,000 กว่าคน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 28.5 พำนักอยู่ในนครเถาหยวน สำหรับนักธุรกิจไต้หวันที่ไปตั้งรากฐานธุรกิจในไทยก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในจำนวนนี้ บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นกิจการของประธานกิตติมศักดิ์สมาคม TEC ก็ถือเป็นองค์กรธุรกิจต่างชาติที่สำคัญในประเทศไทย พนักงานในองค์กรมีจำนวนกว่า 18,000 คน ซึ่งในปัจจุบัน บริษัท แคล-คอมพ์ฯ รับรู้ว่าไทยกำลังเร่งสกัดกั้นโรคระบาดอย่างแข็งขัน และสังเกตเห็นว่าไทยกำลังประสบกับปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรทางการแพทย์ จึงได้ให้คำมั่นต่อไทยว่า จะให้การสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรม โดยบริจาคชุด PPE ให้บุคลากรทางการแพทย์ของไทย
นายธงชัย ชาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย ไทเป (TTEO) กล่าวว่า ภารกิจการป้องกันโรคระบาดในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงมิตรภาพอันแท้จริงระหว่างไต้หวัน – ไทย เปรียบดั่งสำนวนภาษาอังกฤษที่ว่า “A friend in need is a friend indeed” (เพื่อนยามยากคือเพื่อนแท้) รัฐบาลไต้หวันและเทศบาลนครเถาหยวนถือเป็นมิตรแท้ของประชาชนชาวไทย ในฐานะตัวแทนของชาวไทยและบุคลากรทางการแพทย์ ขอใช้โอกาสนี้ แสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลไต้หวันและผู้ที่มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือด้วยใจจริง
ภายใต้การนำของนายเจิ้งฯ ภารกิจการป้องกันโรคระบาดในนครเถาหยวน เป็นไปอย่างคล่องตัว ฉับไว และเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ มาตรการป้องกันโรคระบาดของรัฐบาลไต้หวันได้รับการยกย่องให้เป็นแบบอย่างของทุกประเทศทั่วโลก แสดงให้ทั่วโลกประจักษ์ถึงประสิทธิภาพในการดำเนินงานของรัฐบาลไต้หวัน รวมไปถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการคุ้มครองความปลอดภัยด้านสุขภาพ เพื่อความผาสุกของมวลชน
นายสวีซือเจี่ยน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) กล่าวว่า กต.ไต้หวันได้ให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ประชาคมโลกไปเมื่อวันที่ 1 และ 9 เม.ย. โดยการให้ความช่วยเหลือในระลอกที่ 2 นั้น ได้บริจาคหน้ากากอนามัยจำนวน 6 ล้านชิ้นให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ในแนวหน้า ของประเทศตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่ และประเทศในภูมิภาคยุโรปเหนือ กต.ไต้หวันยินดีมากที่เทศบาลนครเถาหยวนแและสมาคม TEC ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบความช่วยเหลือ ผนึกกำลังระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ส่งมอบชุด PPE ให้ไทยเป็นจำนวน 15,000 ชุด สำแดงให้ทั่วโลกประจักษ์ว่า “Taiwan Can Help!” ไม่ได้เป็นเพียงสโลแกนที่กล่าวลอยๆ เท่านั้น อีกทั้งยังเป็นทิศทางความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและประชาชนไต้หวันอีกด้วย
นายสวีเซิ่งสง ประธานกรรมการบริษัทแคล-คอมพ์และประธานกิตติมศักดิ์ของสมาคม TEC กล่าวว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้เข้าร่วมพิธีส่งมอบในครั้งนี้ คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความสัมพันธ์อันดีระหว่างไต้หวัน – ไทย จะส่งเสริมให้มีการเผยแพร่ค่านิยมทางวัฒนธรรมที่ว่า “ห่วงใยและเกื้อกูลซึ่งกันและกัน” อย่างต่อเนื่องสืบไป อนึ่ง ภายในสิ้นปีนี้ บริษัทแคล-คอมพ์จะสามารถบรรลุเป้าหมายการจัดตั้งโรงงานในไทย รวม 12 แห่ง และมีพนักงานในองค์กรรวม 30,000 คน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาของภาคธุรกิจ พร้อมทั้งเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงทีแก่ผู้ประกอบการ