เมื่อวันที่ 21 เม.ย. NCKU จับมือกับกระทรวงวิทย์ฯ กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุขฯ จัดการประชุมนานาชาติ รูปแบบออนไลน์ เพื่อร่วมแบ่งปันประสบการณ์และผลสัมฤทธิ์ด้านการป้องกันโรคระบาดของไต้หวัน ให้แก่ประชาคมโลก (ภาพจาก NCKU)
MOST วันที่ 21 เม.ย. 63
เมื่อวันที่ 21 เม.ย. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Ministry of Science and Technology, MOST) สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) แถลงว่า เพื่อเชื่อมโยงทรัพยากรด้านการวิจัยเชิงวิชาการระดับนานาชาติ ในการต่อกรกับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) มหาวิทยาลัยเฉิงกง (National Cheng Kung University, NCKU) ร่วมจับมือกับกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ จัดการประชุมนานาชาติว่าด้วยการสกัดกั้นโรคโควิด – 19 รูปแบบออนไลน์ ปี 2020 (2020 NCKU International Virtual Forum on COVID-19) เมื่อวันที่ 21 เม.ย. โดยการประชุมทั้ง 3 รอบกำหนดจัดขึ้นในวันเดียวกัน ตามหัวข้อดังนี้ “การสร้างแผนการรับมือกับโรคโควิด - 19 เชิงวิชาการที่ยั่งยืน” , “ความท้าทายของการบูรณาการทรัพยากรระดับภูมิภาคและการติดต่อประสานงาน” และ “นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ เพื่อสกัดกั้นโรคโควิด – 19” โดยผู้เชี่ยวชาญจากทุกภาคส่วนได้ร่วมอภิปรายกันในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ มาตรการรับมือกับโรคโควิด – 19 ของสถาบันอุดมศึกษาและสถาบันวิจัยทั่วโลก ประสบการณ์การรับมือกับโรคระบาด ความร่วมมือระดับภูมิภาคในประชาคมโลก รวมไปถึงการป้องกันโรคระบาดเชิงวิทยาศาสตร์ และความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนายาที่ใช้ทางการแพทย์ เป็นต้น
นางซูฮุ่ยเจิน อธิการบดี NCKU และประธานในการประชุมครั้งนี้ กล่าวว่า ในห้วงเวลานี้ผู้คนทั่วโลกต่างกำลังต่อสู้กับวิกฤตโรคระบาด และมุ่งมั่นต่อกรกับทดสอบจากสถานการณ์โรคโควิด – 19 ในครั้งนี้อย่างเต็มกำลัง โดยได้ประยุกต์ใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญ ความเป็นผู้นำเชิงกลยุทธ์ การบริหารองค์กรและการตอบสนองต่อสถานการณ์ล่าสุด ประสบการณ์การสกัดกั้นโรคระบาด การบูรณาการทรัพยากรระดับภูมิภาค และความร่วมมือระหว่างประเทศ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้อย่างเชื้อไวรัสโควิด - 19 ให้ใช้ความรู้เป็นพลัง ความเชื่อมั่นซึ่งกันและกันเป็นพื้นฐาน ร่วมจับมือกับพันธมิตรทั่วโลก จัดการปัญหาก้าวข้ามวิกฤตร่วมกันอย่างชาญฉลาด
นายเซี่ยต๋าปิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้รับเชิญให้เข้าร่วมกล่าวปราศรัยในการประชุมรอบ 2 โดยรมช.เซี่ยฯ ได้กล่าวแสดงปาฐกถา แบ่งปันประสบการณ์ในการประยุกต์ใช้ข้อได้เปรียบทางเทคโนโลยีในการต่อกรกับโรคระบาด อาทิ การควบคุมการแพร่ระบาด กลไกการจัดสรรทรัพยากรทางการแพทย์ การพัฒนาเทคโนโลยีการตรวจคัดกรอง การวิจัยและพัฒนาวัคซีนและยาตัวใหม่ พร้อมทั้งประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบิ๊กดาต้าในการจำลองสถานการณ์การแพร่ระบาด ตลอดจนประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมาเป็นตัวช่วยในการควบคุมสถานการณ์ อาทิ กําไลข้อมืออัจฉริยะ และอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet of Things, IoT) เป็นต้น
การประชุมในครั้งนี้ นอกจากได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแบ่งปันประสบการณ์และนโยบายการป้องกันโรคระบาดของไต้หวันแล้ว ยังเป็นการรวบรวมตัวแทนจากสถาบันการศึกษาของทุกประเทศทั่วโลกเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อแลกเปลี่ยนและสร้างปฏิสัมพันธ์กันผ่านการประชุมในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งผู้เข้าร่วมในการประชุมประกอบด้วย อธิการบดีและศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยมหิดล (Mahidol University) มหาวิทยาลัยสึกุบะ (University of Tsukuba) ของญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยมาลายา (University of Malaya) ของมาเลเซีย มหาวิทยาลัยการแพทย์และการเภสัชนครโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City Medicine and Pharmacy University) ของเวียดนาม สถาบันวิจัยเทคโนโลยี SRM ของอินเดีย มหาวิทยาลัย Masaryk University ของสาธารณรัฐเช็ก มหาวิทยาลัยซินซินแนติ (University of Cincinnati) ของสหรัฐอเมริกา รวมถึงผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์จากไทย ตุรกี ลาว เข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้ด้วย
