ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 11 มิ.ย. 63
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายไล่ชิงเต๋อ รองประธานาธิบดี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ตอบรับคำเชิญของสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดแห่งสาธารณรัฐจีน (Harvard Club of the Republic of China) โดยได้เข้าร่วมการประชุมสัมมนา ภายใต้กิจกรรม Harvard Table Series ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยประเด็นหลักในการร่วมประชุมหารือกันในครั้งนี้ คือ “ผลกระทบของโรคโควิด – 19 ที่มีต่อไต้หวัน ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต” ระหว่างการประชุม นอกจากรองปธน.ไล่ฯ จะร่วมแบ่งปันประสบการณ์การป้องกันโรคระบาดของไต้หวันแล้ว ยังได้ชี้แจงถึงผลกระทบของโรคโควิด – 19 ที่มีต่อภาคประชาชนและภาคธุรกิจ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของวิถีทางเศรษฐกิจและการค้า รวมไปจนถึงแนวทางการรับมือ ภายหลังสถานการณ์โควิด – 19 พร้อมนี้ รองปธน.ไล่ฯ ยังได้ระบุถึงความคาดหวังว่า ต้องการผลักดันให้แบรนด์ไต้หวันก้าวเข้าสู่เวทีการแข่งขันระดับนานาชาติ ตลอดจนมุ่งเน้นผลักดันอุตสาหกรรมการแพทย์ชีวภาพควบคู่ไปด้วย
รองปธน.ไล่ฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า ตราบจนปัจจุบัน ทั่วโลกมียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมกว่า 7 ล้านคน จึงเห็นได้ว่าวิกฤตโรคระบาดในครั้งนี้ นำความเสียหายมาให้กับไต้หวันและประชาคมโลกอย่างรุนแรง
เมื่อกล่าวถึงการให้ความสำคัญกับมาตรการป้องกันโรคระบาดแบบล่วงหน้าของรัฐบาล รองปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า ช่วงก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน และนายเฉินเจี้ยนเหริน อดีตรองประธานาธิบดีที่เพิ่งลงจากตำแหน่ง ได้เร่งจัดการประชุมที่สำคัญๆ อย่างกระตือรือร้น เพื่อร่วมหารือในภารกิจการป้องกันโรคโควิด – 19 นอกจากนี้ นายซูเจินชาง นายกรัฐมนตรีไต้หวัน และนายเฉินฉีม่าย รองนายกฯ ก็ได้รวบรวมเจ้าหน้าที่ทั้งหมดของกระทรวงเศรษฐการเพื่อจัดตั้งทีมชาติไต้หวัน เนื่องจากในขณะนั้น ภาครัฐได้ตระหนักเห็นว่า หากเมื่อใดที่โรคระบาดแพร่กระจายเข้าสู่ไต้หวัน หน้ากากอนามัยและชุดป้องกันส่วนบุคคล อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของภาคประชาชนเป็นแน่ เพราะฉะนั้นการเตรียมการในช่วงดังกล่าว จึงถือเป็นการดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคระบาดแบบล่วงหน้า อย่างเข้มงวด
รองปธน.ไล่ฯ เน้นย้ำว่า การที่ไต้หวันมีผลสัมฤทธิ์ที่โดดเด่นในครั้งนี้ เป็นผลอันเนื่องมาจากการมีระบบความมั่นคงปลอดภัยทางสังคมที่รัดกุมและครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ในไต้หวัน ซึ่งระบบดังกล่าวประกอบด้วย 4 ประการย่อย ได้แก่
ประการแรก ระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยทางการไต้หวันส่งเสริมให้ประชาชนทุกคนเข้าสู่ระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อสร้างหลักประกันทางสุขภาพที่ดี และให้บริการได้ครอบคลุมเขตพื้นที่ในไต้หวันได้ถึง 99 %
ประการที่ 2 พวกเรามีระบบการบริหารกิจการด้านพลเรือนที่สมบูรณ์ ซึ่งได้สำแดงประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ในครั้งนี้ ผู้ใหญ่บ้านของทุกเขตพื้นที่ล้วนปฏิบัติหน้าที่กันอย่างเต็มกำลัง นอกจากจะมีหน้าที่คอยตรวจตราสอดส่องผู้ที่ถูกกักตัวอยู่บ้านตามคำสั่งของรัฐแล้ว ยังต้องคอยรายงานสถานการณ์ล่าสุดต่างๆ ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านหรือชุมชนให้กับส่วนกลางได้รับทราบ
ประการที่ 3 ระบบการบริหารกิจการตำรวจ พวกเราสามารถเห็นได้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติภารกิจในการสกัดกั้นโรคระบาดอยู่แนวหน้าอย่างแข็งขัน หากมีประชาชนละเมิดกฎระเบียบทางสังคม หรือหากผู้ที่จำเป็นต้องกักตัวอยู่บ้านออกนอกเคหสถานโดยพลการ บรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่รับผิดชอบค้นหาผู้ละเมิด รองปธน.ไล่ฯ เชื่อว่า ความกระตือรือร้นในการปฏิบัติภารกิจเหล่านี้ หาได้ยากในต่างประเทศ
ประการที่ 4 ระบบความมั่นคงปลอดภัยทางสังคม ระบบสังคมสงเคราะห์ของไต้หวันมีความสมบูรณ์พร้อม หากพบว่ามีผู้สูงวัยที่อาศัยอยู่เพียงลำพังหรือครอบครัวผู้ยากไร้ นักสังคมสงเคราะห์จะประสานความร่วมมือกับผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อไปให้ความช่วยเหลือในที่พักอาศัยของพวกเขาเหล่านั้น ระบบสวัสดิการทางสังคมเหล่านี้ได้เชื่อมโยงประชาชนชาวไต้หวันเข้าไว้ด้วยกันอย่างใกล้ชิด และทำให้ระบบมีความสมบูรณ์มากขึ้น
รองปธน.ไล่ฯ ยังกล่าวว่า แนวทางปฏิบัติเพื่อการป้องกันโรคระบาดของไต้หวัน ได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย อาทิ แผนที่หน้ากากอนามัย และแผนที่ชุดป้องกันส่วนบุคคล เป็นต้น เพื่อให้ผู้ที่ต้องการใช้สามารถเข้าถึงเวชภัณฑ์ในการป้องกันโรคระบาดเหล่านี้ได้อย่างเท่าเทียม หากเกิดการแพร่ระบาดในกลุ่มชนหรือภายในประเทศ หรือหากต้องการติดตามตัวผู้ป่วยยืนยัน ก็สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ในการช่วยตามหาได้
ท้ายนี้ รองปธน.ไล่ฯ ชี้แจงว่า การเข้าร่วมของภาคประชาชน และการประสานความร่วมมือตั้งแต่ส่วนกลางไปจนถึงผู้นำประเทศ รัฐบาลท้องถิ่นไปจนถึงผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ชุมชนต่างๆ หรือประชาชนทั่วไปไปจนถึงผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงผู้ประกอบการกิจการอุปกรณ์เครื่องมือ หน้ากากอนามัย และชุดป้องกันส่วนบุคคล เป็นต้น ต่างก็ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจเพื่อภารกิจนี้ หรือแม้กระทั่งประชาชนทั่วไปที่ต้องกักตัวอยู่บ้าน ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มีประชาชนบางส่วนที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ แม้ไม่มีอาการ ก็จำเป็นต้องกักตัวอยู่บ้านเพื่อสังเกตการณ์อาการของตน เป็นเวลา 14 วัน ซึ่งพวกเราขอแสดงความขอบคุณประชาชนเหล่านี้ด้วยใจจริง ประชาชนชาวไต้หวันทุกหมู่เหล่าล้วนมีส่วนร่วมในภารกิจการป้องกันโรคระบาด และสิ่งนี้คือปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้การป้องกันโรคระบาดของไต้หวันประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก