สำนักงานการเกษตรและอาหาร วันที่ 23 มิ.ย. 63
เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. สำนักงานเกษตรและอาหาร (Agriculture and Food Agency, COA) แถลงว่า ภายใต้ผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ทำให้ทุกประเทศทั่วโลกเร่งใช้มาตรการควบคุมการเข้า – ออกประเทศตามแนวชายแดน ส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทานเสบียงอาหารของทั่วโลกได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ข้าวสารจากน้ำใจของไต้หวันไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโรคระบาดในครั้งนี้ จึงยังคงสามารถให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ประเทศพันธมิตรได้อย่างทันท่วงที ตราบจนปลายเดือนพฤษภาคม ปี 2020 ไต้หวันได้ส่งออกข้าวสารเพื่อการกุศล จำนวนกว่า 19,800 ตันแล้ว
COA ระบุว่า ในปีนี้เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโรคโควิด – 19 ส่งผลให้บางประเทศใช้มาตรการควบคุมการเดินทางเข้า - ออกประเทศและมาตรการปิดประเทศ จึงทำให้ห่วงโซ่อุปทานเสบียงอาหารได้รับผลกระทบตามไปด้วย ประกอบกับการขนส่งระหว่างประเทศไม่คล่องตัว ทำให้ตลาดนานาชาติเกิดวิกฤตขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภค อันเป็นเหตุให้ราคาถีบตัวขึ้นสูง อย่างไรก็ตาม ประเทศพันธมิตรของไต้หวันที่ต้องประสบกับปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ ความยากจน และสภาพแวดล้อมที่เปราะบาง นับวันยิ่งต้องทนทุกข์กับความขาดแคลนเหล่านี้ เจ้าหน้าที่ภาครัฐของไต้หวันจึงได้ทำการตรวจสอบคลังเสบียงอาหารของไต้หวันอย่างละเอียด และพบว่าไต้หวันมีคลังเสบียงในจำนวนมากพอ ที่จะสามารถยื่นมือให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ประเทศที่มีความต้องการมากที่สุด ภายใต้สภาวการณ์โรคระบาดเช่นนี้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงสปิริตความห่วงใยทางมนุษยธรรมที่ไต้หวันส่งมอบให้กับประชาคมโลก โดยในปีนี้วางแผนไว้ว่าจะนำข้าวสารจำนวน 36,410 ตัน ส่งมอบให้กับสาธารณรัฐเฮติ สาธารณรัฐฮอนดูรัส สาธารณรัฐนิการากัว และราชอาณาจักรเอสวาตีนี รวมถึงประชาชนผู้ยากไร้หรือผู้ที่ประสบภัยพิบัติต่างๆ ในประเทศแถบแอฟริกาที่ขาดแคลนเสบียงอาหาร รวม 16 ประเทศ ผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และมูลนิธิพุทธฉือจี้
COA เน้นย้ำว่า ข้าวสารจากน้ำใจของไต้หวันได้ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับบรรดาประชาชนผู้หิวโหย การยื่นมือเข้าให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์การให้ความช่วยเหลือทางมุนษยธรรมของไต้หวันอีกด้วย น้ำใจเหล่านี้ทำให้ไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในประชาคมโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ และสามารถทำให้ทั่วโลกมองเห็นไต้หวัน ตลอดจนเป็นการประกาศก้องให้ทั่วโลกเห็นถึง สปิริตการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมของไต้หวันอีกด้วย