ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
ไต้หวันประกาศ แลกเปลี่ยนการจัดตั้งสำนักงานตัวแทนรัฐบาลกับสาธารณรัฐโซมาลีแลนด์
2020-07-02
New Southbound Policy。เมื่อวันที่ 26 ก.พ. นายอู๋เจาเซี่ย (ที่ 2 จากขวา) รมว. ต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และ H.E Yasin Hagi Mohamoud (ที่ 2 จากซ้าย) รมว. ต่างประเทศ สาธารณรัฐโซมาลีแลนด์ ร่วมลงนามในพิธีสารว่าด้วยการแลกเปลี่ยนการจัดตั้งสำนักงานตัวแทนรัฐบาลระหว่างกัน ณ อาคารรับรองอาคันตุกะ กรุงไทเป (Taipei Guest House) (ภาพจาก MOFA)
เมื่อวันที่ 26 ก.พ. นายอู๋เจาเซี่ย (ที่ 2 จากขวา) รมว. ต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และ H.E Yasin Hagi Mohamoud (ที่ 2 จากซ้าย) รมว. ต่างประเทศ สาธารณรัฐโซมาลีแลนด์ ร่วมลงนามในพิธีสารว่าด้วยการแลกเปลี่ยนการจัดตั้งสำนักงานตัวแทนรัฐบาลระหว่างกัน ณ อาคารรับรองอาคันตุกะ กรุงไทเป (Taipei Guest House) (ภาพจาก MOFA)

MOFA วันที่ 1 ก.ค. 63

 

เมื่อวันที่ 1 ก.ค. นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของรัฐบาลไต้หวัน ประกาศว่า ภายใต้พื้นฐานของความสัมพันธ์อันดีระหว่างไต้หวันและสาธารณรัฐโซมาลีแลนด์ ประกอบกับการที่ทั้งสองประเทศต่างยึดมั่นในค่านิยมสากลที่ประกอบด้วย เสรีภาพ ประชาธิปไตย ความชอบธรรม และหลักนิติธรรม ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลของทั้งสองประเทศจึงตกลงที่จะจัดตั้งหน่วยงานตัวแทนรัฐบาลขึ้นในประเทศของกันและกัน ภายใต้ชื่อ “สำนักงานตัวแทนไต้หวัน” (Taiwan Representative Office) และ “สำนักงานตัวแทนโซมาลีแลนด์” (Somaliland Representative Office) โดยทัั้งสองฝ่ายจะยึดมั่นในปณิธานการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน พร้อมประสานความร่วมมือในด้านต่างๆ อย่างใกล้ชิด อาทิ อุตสาหกรรมการประมง การเกษตร พลังงาน เหมืองแร่ รวมถึงด้านสาธารณสุข การศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นต้น


 

รมว.อู๋ฯ กล่าวชี้แจงในงานแถลงข่าวว่า เพื่อผลักดันความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาคแอฟริกา และขยายรากฐานธุรกิจของไต้หวันในภาคตะวันออกของแอฟริกา รัฐบาลไต้หวันและรัฐบาลโซมาลีแลนด์จึงได้เปิดการเจรจาระหว่างกัน โดยเมื่อวันที่ 26 ก.พ. รมว.อู๋ฯ และ H.E Yasin Hagi Mohamoud รมว.ต่างประเทศของโซมาลีแลนด์ที่เดินทางมาเยือนไต้หวัน ได้ร่วมลงนาม “พิธีสารระหว่างรัฐบาลสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) กับรัฐบาลโซมาลีแลนด์” ซึ่งทั้งสองประเทศต่างตกลงที่จะจัดตั้งหน่วยงานตัวแทนรัฐบาลขึ้นในประเทศของกันและกัน ภายใต้ชื่อ “สำนักงานตัวแทนไต้หวัน” (Taiwan Representative Office) และ “สำนักงานตัวแทนโซมาลีแลนด์” (Somaliland Representative Office) หลังเสร็จสิ้นพิธีลงนามแล้ว H.E Yasin ยังได้เข้าพบคารวะประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) อีกด้วย


 

รมว.อู๋ฯ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ไต้หวันได้เดินทางไปประจำการในโซมาลีแลนด์ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่ผ่านมา ส่วนความคืบหน้าของการจัดตั้งสำนักงานฯ กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมหารือกันถึงกำหนดการของพิธีเปิดป้ายอีกครั้ง ในอนาคตหลังจากที่ทั้งสองประเทศจัดตั้งสำนักงานฯ ในประเทศของกันและกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ของทั้งสองหน่วยงานจะทำการประสานความร่วมมือในด้านต่างๆ อย่างใกล้ชิดต่อไป อาทิ อุตสาหกรรมการประมง การเกษตร พลังงาน เหมืองแร่ รวมถึงด้านสาธารณสุข การศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นต้น เชื่อว่าภายใต้การสนับสนุนอย่างเต็มกำลังของรัฐบาลทั้งสองฝ่าย จะสามารถเสริมสร้างความสัมพันธ์แบบเอื้อประโยชน์ระหว่างกันในเชิงลึกได้อย่างแน่นอน


 

รมว. อู๋ฯ เน้นย้ำว่า ไต้หวันและโซมาลีแลนด์ได้สร้างรากฐานความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน นับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายได้ประสานความร่วมมือกันในด้านการยกระดับความปลอดภัยด้านกิจการทางทะเล ความร่วมมือทางการแพทย์ และความร่วมมือทางการศึกษา เป็นต้น อีกทั้งก่อนหน้านี้ ไต้หวันเคยให้การฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์ของโซมาลีแลนด์ รวม 23 คน ผ่าน “โครงการฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์ของมิตรประเทศ” ของกองทุนเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของไต้หวัน (International Cooperation and Development Fund, Taiwan ICDF) และขณะนี้ ก็มีนักศึกษาจากโซมาลีแลนด์ทั้งหมด 3 คนที่ได้รับทุนการศึกษาของไต้หวัน เข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาของไต้หวัน นอกจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐแล้ว องค์การนอกภาครัฐ (NGO) อย่าง Taiwan Root Medical Peace Corps (TRMPC) ของไต้หวัน ก็ได้จัดรวบรวมกลุ่มแพทย์อาสา เพื่อไปให้บริการในโซมาลีแลนด์เป็นครั้งที่ 3 ในเดือนมกราคมของปีนี้ ซึ่งตราบจนปัจจุบันได้ให้บริการกว่า 10 เขตพื้นที่ในโซมาลีแลนด์ จำนวนผู้ที่มาเข้ารับบริการสูงถึง 2,880 คน


 

ทั้งนี้ รมว.อู๋ฯ ยังได้ระบุว่า รัฐบาลโซมาลีแลนด์ให้การยอมรับต่อสปิริตความร่วมมือระหว่างประเทศ “รูปแบบไต้หวัน” เป็นอย่างมาก และคาดหวังที่จะประสานความร่วมมือในเชิงลึกกับไต้หวันต่อไป พร้อมทั้งเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ประสบความสำเร็จของไต้หวัน ส่วนไต้หวันก็จะให้การสนับสนุนรัฐบาลโซมาลีแลนด์ สำหรับความมุ่งมั่นในการแสวงหาประชาธิปไตยและเสรีภาพ และยินดีร่วมผลักดันโครงการพัฒนาที่เอื้อประโยชน์ต่อประชาชนของโซมาลีแลนด์ ผ่านกลไกความร่วมมือของ ICDFและการเสริมสร้างศักยภาพให้กับบุคลากรของโซมาลีแลนด์ต่อไป ตลอดจนยึดมั่นในหลักการการทูตที่เป็นรูปธรรม สำแดงสปิริตความรักความห่วงใยที่ไต้หวันส่งมอบให้กับประชาคมโลก


 

โซมาลีแลนด์ตั้งอยู่บริเวณแหลมแอฟริกา มีประชาชนจำนวน 3.9 ล้านคน มีทรัพยากรด้านอุตสาหกรรมการประมงที่อุดมสมบูรณ์ ถือเป็นแหล่งประมงที่สำคัญระดับนานาชาติ อีกทั้งยังเป็นแหล่งน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีบริษัทขุดเจาะน้ำมันหลายรายเข้าไปจัดตั้งสาขาเพื่อสำรวจหาแหล่งน้ำมันในพื้นที่ นับตั้งแต่ปี 1991 ที่โซมาลีแลนด์ได้ประกาศตนเป็นเอกราช ได้มีการจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีมาแล้ว 3 ครั้ง สถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศค่อนข้างสงบ ประกอบกับรัฐบาลโซมาลีแลนด์กำลังมุ่งมั่นดำเนินการตามหลักประชาธิปไตยในเชิงลึก จึงนับได้ว่าเป็นประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันกับไต้หวัน ในด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพ