ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
CECC ชี้แจง สถานการณ์การตรวจคัดกรองเชื้อโควิด – 19 และการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันที่เดินทางจากไต้หวันกลับไทย
2020-07-29
New Southbound Policy。CECC แถลงว่า เพื่อรับมือกับกรณีแรงงานชาวไทยถูกตรวจพบเชื้อโควิด -19 หลังเดินทางกลับจากไต้หวัน บนเว็บไซต์ทางการของกรมควบคุมโรคไต้หวันได้อัปโหลดวิดีทัศน์ประชาสัมพันธ์การป้องกันโรคระบาด ที่มีซับไตเติ้ลเป็นภาษาไทยแล้ว 22 คลิป และได้จัดทำโปสเตอร์และโบรชัวร์เป็นฉบับภาษาไทย ทั้งหมด 13 ชุด และ 15 ชุดตามลำดับ ในภาพคือข้อควรระวังสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ร่วมกับผู้ที่แยกกักตัวเพื่อสังเกตอาการ (ภาพจากกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ)
CECC แถลงว่า เพื่อรับมือกับกรณีแรงงานชาวไทยถูกตรวจพบเชื้อโควิด -19 หลังเดินทางกลับจากไต้หวัน บนเว็บไซต์ทางการของกรมควบคุมโรคไต้หวันได้อัปโหลดวิดีทัศน์ประชาสัมพันธ์การป้องกันโรคระบาด ที่มีซับไตเติ้ลเป็นภาษาไทยแล้ว 22 คลิป และได้จัดทำโปสเตอร์และโบรชัวร์เป็นฉบับภาษาไทย ทั้งหมด 13 ชุด และ 15 ชุดตามลำดับ ในภาพคือข้อควรระวังสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ร่วมกับผู้ที่แยกกักตัวเพื่อสังเกตอาการ (ภาพจากกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ)

กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ วันที่ 28 ก.ค. 63

 

ต่อกรณีเมื่อวันที่ 27 ก.ค. ที่ทางรัฐบาลไทยได้ประกาศว่า พบชาวไทยที่เพิ่งเดินทางกลับจากไต้หวันผู้หนี่ง ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ด้วยเหตุนี้ เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาด (Central Epidemic Command Center, CECC) ของไต้หวัน จึงได้แถลงว่า หลังจากที่ทางการไต้หวันได้ทำการตรวจสอบแล้ว พบว่าแรงงานไทยรายนี้เป็นชายวัย 30 ปีเศษ เดินทางเข้ามาทำงานในไต้หวันตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2018 และได้เดินทางกลับไทยเมื่อวันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมา ในวันที่ 22 ก.ค. มีอาการท้องเสีย แต่ไม่มีอาการระบบทางเดินหายใจ ไม่มีไข้ และไม่มีความผิดปกติของประสาทการรับกลิ่นและรับรส หลังจากที่เข้ารับการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด – 19 เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ในไทย ผลการตรวจเป็นบวก หลังจากที่หน่วยงานสาธารณสุขของไต้หวันได้ทำการตรวจสอบแหล่งที่ต้องสงสัยว่าอาจจะมีการแพร่ระบาดเกิดขึ้น จึงได้รวบรวมรายชื่อของผู้ที่ต้องติดตามอาการทั้งหมด 189 คน ประกอบด้วย ผู้สัมผัสใกล้ชิดในเขตหอพัก 18 คน ผู้สัมผัสใกล้ชิดในสถานที่ทำงาน 11 คน และพนักงานในบริษัทรวม 160 คน


 

CECC ชี้ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผู้ป่วยรายนี้พำนักอาศัยอยู่ในไต้หวัน ขอบเขตการใช้ชีวิตประจำวัน ส่วนมากจะจำกัดเฉพาะในสถานที่ทำงานและหอพักซึ่งอยู่ในพื้นที่ทางภาคเหนือเป็นหลัก ตราบจนปัจจุบัน หน่วยงานสาธารณสุขไต้หวันได้ทำการรวบรวมรายชื่อผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายดังกล่าวได้ทั้งหมด 29 คน ซึ่งได้ทำการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด - 19 ไปเมื่อวันที่ 27 ก.ค. ในจำนวนนี้ 18 คนเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดในเขตหอพัก ซึ่งทางการได้กำหนดให้เป็นบุคคลที่ต้องทำการแยกกักตัวเพื่อสังเกตอาการ โดยในจำนวนนี้มี 1 รายที่มีอาการไอและน้ำมูกไหลมาตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค. ซึ่งขณะนี้ถูกส่งไปกักตัวอยู่ในห้องแยกโรคของโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนที่เหลือถูกส่งตัวไปยังสถานกักกันโรค และคาดว่าจะครบกำหนดการแยกกักตัวในวันที่ 5 ส.ค.นี้ นอกจากนี้ผู้สัมผัสใกล้ชิดในสถานที่ทำงาน 11 คน ล้วนไม่พบอาการผิดปกติใดๆ จึงจัดให้เป็นผู้ที่ต้องเฝ้าสังเกตอาการด้วยตัวเอง ขณะนี้ทางหน่วยงานไต้หวันได้ทำการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด – 19 ให้แก่ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงแล้วทั้งหมด 29 คน ในจำนวนนี้ 28 คนล้วนมีผลเป็นลบ ส่วนอีก 1 คนกำลังรอผลการตรวจ



CECC แถลงว่า เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาด ทางการได้ทำการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด – 19 ให้กับพนักงานในบริษัท ทั้งหมด 160 คน เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 28 ก.ค. ซึ่งทั้ง 160 คนนี้ล้วนไม่มีอาการต้องสงสัยแต่อย่างใด


 

CECC ระบุว่า เพื่อรับมือกับกรณีแรงงานไทยถูกตรวจพบเชื้อโควิด -19 หลังจากที่เดินทางกลับจากไต้หวัน บนเว็บไซต์ทางการของกรมควบคุมโรคไต้หวันได้อัปโหลดวิดีทัศน์ประชาสัมพันธ์การป้องกันโรคระบาดที่มีซับไตเติ้ลเป็นภาษาไทยแล้ว 22 คลิป และได้จัดทำโปสเตอร์และโบรชัวร์เป็นฉบับภาษาไทย ทั้งหมด 13 ชุด และ 15 ชุด ตามลำดับ จึงขอเชิญชวนให้ทุกภาคส่วนดาวน์โหลดนำไปประยุกต์ใช้ได้ CECC ขอย้ำเตือนว่า ประชาชนควรรักษาความสะอาดมือและมารยาทในการไอหรือจามอย่างเคร่งครัด หากไม่สามารถรักษาระยะห่างทางสังคมในระหว่างที่มีความจำเป็นต้องออกนอกเคหสถานได้ ควรสวมใส่หน้ากากอนามัยไว้ตลอดเวลา